คอนติเนนทอล ไทร์ส (ประเทศไทย) ผู้นำด้านนวัตกรรมเทคโนโลยียางรถยนต์ระดับโลกจากเยอรมนี ได้เปิดตัวยางรถยนต์สองรุ่นใหม่ล่าสุดในประเทศไทย ได้แก่ MaxContact MC7 และ eContact โดยทั้งสองรุ่นมาพร้อมกับเทคโนโลยีล้ำสมัยที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้รถยุคใหม่
MaxContact MC7: ยางสปอร์ตสมรรถนะสูงสำหรับคนเอเชีย
MaxContact MC7 เป็นยางสปอร์ตสมรรถนะสูงที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ขับขี่ชาวเอเชียโดยเฉพาะ ด้วยนวัตกรรม Sport+ Technology ที่มอบประสิทธิภาพสูงสุดทั้งบนท้องถนนและสนามแข่ง ยางรุ่นนี้โดดเด่นด้วยเทคโนโลยี Cornering Macro-blocks ที่ช่วยเพิ่มพื้นที่สัมผัสกับถนนและกระจายแรงกดอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้การควบคุมรถมีความแม่นยำและเสถียรมากขึ้น โดยเฉพาะในขณะเข้าโค้ง
นอกจากนี้ MaxContact MC7 ยังมาพร้อมกับระบบควบคุมการเบรกที่ยอดเยี่ยมบนพื้นถนนเปียก ด้วยร่องยาง 3 มิติที่ตัดด้วยเลเซอร์แบบ Star & Lightning และ Aquasipes ซึ่งช่วยระบายน้ำออกอย่างรวดเร็ว ป้องกันการสูญเสียการยึดเกาะบนพื้นถนน
eContact: ยางสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ
ในส่วนของ eContact นั้น เป็นยางที่ออกแบบมาเพื่อรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ โดดเด่นด้วยนวัตกรรม ContiSeal™ ที่สามารถอุดรอยรั่วได้ทันที ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่สำคัญสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าที่ไม่มียางอะไหล่ติดตั้งมาในตัวรถ นอกจากนี้ ยังมีเทคโนโลยี ContiSilent™ ที่ช่วยลดเสียงรบกวนจากพื้นถนน ทำให้การขับขี่เงียบสงบมากขึ้น
eContact ยังมีอัตราการต้านทานการหมุนที่ต่ำ ช่วยให้รถยนต์ไฟฟ้าสามารถวิ่งได้ระยะทางไกลขึ้น พร้อมทั้งมอบประสิทธิภาพในการควบคุมการขับขี่และการเบรกที่ยอดเยี่ยม ทั้งบนพื้นถนนแห้งและเปียก
ราคาและโปรโมชั่น
คอนติเนนทอล ได้กำหนดราคาจำหน่ายสำหรับ MaxContact MC7 เริ่มต้นที่ 4,000 – 13,000 บาทต่อเส้น สำหรับขนาดขอบ 16 – 20 นิ้ว ส่วน eContact มีราคาเริ่มต้นที่ 6,000 – 16,000 บาทต่อเส้น สำหรับขนาดขอบ 17 – 20 นิ้ว
พิเศษสำหรับลูกค้าที่ซื้อยาง MaxContact MC7 ครบ 4 เส้น กับร้านค้าที่ร่วมรายการ จะได้รับกระเป๋ารุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่นจาก Adidas x Continental ฟรี ตั้งแต่วันนี้จนถึง 30 กันยายน 2567
สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับสเปคและขนาดยางได้ที่ continental-tires.com วางจำหน่ายผ่านร้านตัวแทนจำหน่ายคอนติเนนทอล ไทร์ส ทั่วประเทศ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่www.continental.co.th หรือwww.facebook.com/ContinentalTH
การเปิดตัวยางรถยนต์ทั้งสองรุ่นนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของคอนติเนนทอล ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดยานยนต์สมัยใหม่ ทั้งในแง่ของสมรรถนะ ความปลอดภัย และความยั่งยืน ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มการเติบโตของตลาดยางรถยนต์ในประเทศไทยที่กำลังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง