พรีวิว Samsung Galaxy Buds3 และ Bud3 Pro หูฟังไร้สาย TWS ดีไซน์ใหม่ สวมใสสบาย คุณภาพเสียงชั้นเยี่ยม พร้อมฟีเจอร์ใช้งานที่เหนือกว่า
ทางทีมงาน TechOffside ได้มีโอกาสลองสัมผัสกับหูฟังไร้สายรุ่นใหม่ของทางซัมซุง ที่เปิดตัวพร้อมกับ Galaxy Z Flip6 และ Galaxy Z Fold6 ไป ถือว่ามีความน่าสนใจไม่น้อย ด้วยดีไซน์ที่เปลี่ยนโฉมใหม่หมด เพิ่มฟีเจอร์อัจฉริยะที่ใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟนได้อย่างไร้รอยต่อ รวมถึงคุณภาพเสียงที่ดี
เราจะมา พรีวิว กับ Samsung Galaxy Buds3 และ Bud3 Pro ถึงความน่าสนใจของหูฟังไร้สายรุ่นใหม่นี้
Galaxy Buds3 | Bud3 Pro เทคโนโลยีเสียงขั้นเทพ ให้คุณฟังเพลงได้อย่างเต็มอิ่ม
ต้องบอกเลยว่า Samsung ไม่ทำให้ผิดหวัง โดยเฉพาะ Buds3 Pro ที่มาพร้อมระบบลำโพง 2-way ใหม่ล่าสุด ผสานการทำงานของ dynamic driver และ planar tweeter ได้อย่างลงตัว ผลลัพธ์คือเสียงแหลมที่คมชัดเฉียบขาด แต่ไม่แหลมจนเกินไป
ทั้งสองรุ่นรองรับ Ultra High Quality audio ความละเอียดสูงถึง 24bit/96kHz บน Galaxy รุ่นใหม่ๆ ให้คุณภาพเสียงที่มีมิติแยกในแต่ละย่านเสียงได้อย่างคมชัด
มาพร้อม AI สุดล้ำ ใช้งานง่าย
ฟีเจอร์ AI ของ Samsung ทำให้การใช้งานหูฟังสะดวกขึ้นอย่างน่าทึ่ง:
- Interpreter: แปลภาษาแบบเรียลไทม์ผ่านหูฟัง เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน Galaxy
- Voice Command: สั่งงานด้วยเสียงได้แบบไม่ต้องแตะตัวเครื่อง
- Adaptive EQ และ ANC (เฉพาะ Pro): ปรับแต่งเสียงและตัดเสียงรบกวนอัตโนมัติตามสภาพแวดล้อม
คุณภาพการโทรระดับพรีเมียม คุยชัดแม้อยู่ในที่แออัด
Samsung ยกระดับคุณภาพการสนทนาด้วย Voice Pickup Unit (VPU) และไมโครโฟนหลายตัว ทำให้เสียงสนทนาคมชัดแม้อยู่ในที่มีเสียงรบกวน
ฟีเจอร์ Super-Wideband call ช่วยขยายช่วงความถี่เสียงพูดให้กว้างขึ้น ทำให้การสนทนาฟังดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น ผมลองคุยกับเพื่อนผ่าน Buds3 Pro แล้วรู้สึกเหมือนคุยต่อหน้าเลยทีเดียว!
ดีไซน์สวยล้ำ สวมใส่สบาย
Samsung ยกระดับการออกแบบของ Galaxy Buds3 และ Buds3 Pro ด้วยการใช้เทคโนโลยีการคำนวณทางคอมพิวเตอร์เพื่อสร้างรูปทรงที่ลงตัว สวมใส่สบาย แม้ใช้งานเป็นเวลานาน ตัวหูฟังมีน้ำหนักเบา โดย Buds3 หนักเพียง 4.7 กรัม และ Buds3 Pro หนัก 5.4 กรัม ทำให้สวมใส่ได้อย่างแทบไม่รู้สึกถึงน้ำหนัก
Buds3 Pro โดดเด่นด้วยดีไซน์ “blade” สุดพรีเมียม ที่ไม่เพียงแต่สวยงาม แต่ยังมีฟังก์ชันการใช้งานที่ชาญฉลาด ผู้ใช้สามารถควบคุมการทำงานได้ด้วยการสัมผัสหรือปัดนิ้วบนบริเวณ blade อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ยังมี Blade Lights ที่เพิ่มความสวยงามและบ่งบอกสถานะการทำงานของหูฟัง
ทั้งสองรุ่นมาพร้อมกับเคสชาร์จที่มีขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบาเพียง 46.5 กรัม พกพาสะดวก และมีให้เลือกสองสีคือ Silver และ White ที่ดูหรูหราและทันสมัย การออกแบบที่เรียบง่ายแต่มีเอกลักษณ์นี้ ทำให้ Galaxy Buds3 และ Buds3 Pro เป็นทั้งอุปกรณ์เสริมที่ใช้งานได้ดีและเป็นแฟชั่นไอเท็มที่สามารถใส่ได้ในทุกโอกาส
แบตเตอรี่อึด ใช้งานได้ทั้งวัน
แบตเตอรี่ของ Galaxy Buds3 และ Buds3 Pro นั้นถือว่าอึดทนและตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างยอดเยี่ยม Buds3 สามารถใช้งานต่อเนื่องได้นานถึง 5 ชั่วโมงเมื่อเปิด ANC และ 6 ชั่วโมงเมื่อปิด ANC ส่วน Buds3 Pro นั้นทำได้ดีกว่า โดยใช้งานได้ 6 ชั่วโมงเมื่อเปิด ANC และ 7 ชั่วโมงเมื่อปิด ANC เมื่อรวมกับพลังงานจากเคสชาร์จแล้ว ทั้งสองรุ่นสามารถใช้งานได้รวมสูงสุดถึง 30 ชั่วโมง ซึ่งเพียงพอสำหรับการใช้งานตลอดทั้งวันหรือแม้กระทั่งการเดินทางระยะยาว
นอกจากนี้ Samsung ยังติดตั้งระบบชาร์จเร็วให้กับทั้งสองรุ่น ทำให้คุณสามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้อย่างรวดเร็วเมื่อจำเป็น แม้ว่าแบตเตอรี่จะใกล้หมด คุณก็ไม่ต้องกังวล เพราะการชาร์จเพียงไม่กี่นาทีก็สามารถใช้งานต่อได้อีกหลายชั่วโมง ความสามารถด้านแบตเตอรี่นี้ทำให้ Galaxy Buds3 และ Buds3 Pro เป็นคู่หูที่เชื่อถือได้สำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน การเดินทาง หรือการออกกำลังกาย
กันน้ำกันฝุ่น ไม่กลัวเหงื่อ
ทั้งสองรุ่นมาพร้อมกับมาตรฐานการกันน้ำและฝุ่นระดับ IP57 สำหรับตัวหูฟัง ซึ่งหมายความว่าหูฟังสามารถทนต่อการจุ่มน้ำลึกถึง 1 เมตรเป็นเวลา 30 นาที และสามารถป้องกันฝุ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ คุณสมบัตินี้ทำให้ผู้ใช้สามารถสวมใส่หูฟังได้อย่างมั่นใจในสถานการณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกายที่มีเหงื่อออกมาก การวิ่งกลางสายฝน หรือแม้แต่การใช้งานในสภาพอากาศที่มีฝุ่นละอองมาก
เปรียบเทียบ Buds3 vs Buds3 Pro
พรีวิว Galaxy Buds3 และ Buds3 Pro เราขอสรุปความแตกต่างกันของหูฟังทั้ง 2 รุ่นนี้ และมาดูว่ารุ่นไหนเหมาะสำหรับใคร
- ระบบลำโพง: Buds3 ใช้ระบบ 1-Way 11mm Dynamic Driver ในขณะที่ Buds3 Pro ใช้ระบบ 2-Way ที่ประกอบด้วย 10.5mm Dynamic Driver และ 6.1mm Planar Tweeter ทำให้ Buds3 Pro มีคุณภาพเสียงที่ดีกว่า โดยเฉพาะในย่านความถี่สูง
- ฟีเจอร์ด้านเสียง: Buds3 Pro มีฟีเจอร์ Adaptive Noise Control ที่ปรับการตัดเสียงรบกวนอัตโนมัติตามสภาพแวดล้อม ในขณะที่ Buds3 ไม่มีฟีเจอร์นี้
- Voice Detect: เฉพาะ Buds3 Pro ที่มีฟีเจอร์นี้ ซึ่งจะสลับเป็นโหมด ambient โดยอัตโนมัติเมื่อตรวจจับได้ว่าผู้ใช้กำลังพูด
- การออกแบบ: Buds3 Pro มีดีไซน์ “blade” ที่ดูพรีเมียมกว่าและมี Blade Lights เพิ่มความสวยงาม
- อายุการใช้งานแบตเตอรี่: Buds3 Pro มีอายุการใช้งานที่นานกว่าเล็กน้อย โดยใช้งานได้นานถึง 7 ชั่วโมง (เมื่อปิด ANC) เทียบกับ Buds3 ที่ใช้งานได้ 6 ชั่วโมง
ถ้าจะให้แนะนำว่ารุ่นไหนเหมาะกับใคร Buds3 Pro เป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการคุณภาพเสียงระดับสูงสุด ชอบฟีเจอร์ล้ำสมัย เหมาะอย่างยิ่งสำหรับนักฟังเพลงที่พิถีพิถัน หรือผู้ที่ต้องใช้งานหูฟังในสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย เนื่องจากระบบ ANC แบบ Adaptive ที่ทำงานให้อัตโนมัติ
ส่วน Buds3 เหมาะสำหรับผู้ใช้ทั่วไปที่ต้องการหูฟังคุณภาพดี มีฟีเจอร์ครบครัน แต่ในราคาที่ย่อมเยากว่า เหมาะสำหรับผู้ที่ใช้งานทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นการฟังเพลง ดูหนัง หรือใช้โทรศัพท์ โดยไม่จำเป็นต้องมีฟีเจอร์พิเศษมากมาย แต่ยังคงได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ยอดเยี่ยม
ราคา และการวางจำหน่าย Samsung Galaxy Buds3 | Bud3 Pro
Galaxy Buds3 Series มาพร้อมดีไซน์ที่ทันสมัย บางเฉียบ และสวมใส่สบาย มีให้เลือกสองสี ได้แก่ Silver และ White
- Galaxy Buds3 Pro ราคา 7,490 บาท
- Galaxy Buds3 ราคา 5,490 บาท
เปิดให้สั่งจองล่วงหน้าตั้งแต่วันที่ 10 กรกฎาคม และจะวางจำหน่ายทั่วไปในวันที่ 24 กรกฎาคมเป็นต้นไป