ในงาน MWC Shanghai 2024 นายเฉิน ห่าว ประธานธุรกิจผู้ให้บริการของ หัวเว่ย ได้กล่าวปาฐกถาพิเศษเกี่ยวกับศักยภาพของนวัตกรรม 5G รุ่นที่ 2 ในการขับเคลื่อนความสำเร็จทางธุรกิจ โดยชี้ให้เห็นว่าเทคโนโลยี 5G กำลังก้าวเข้าสู่ยุคแห่งนวัตกรรมระลอกที่สอง
นายเฉินเปิดเผยว่า ความสำเร็จของ 5G ในประเทศจีนเป็นผลมาจากการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง การนำแนวปฏิบัติที่มีประสิทธิภาพมาใช้ และการสร้างสรรค์นวัตกรรมอย่างไม่หยุดยั้ง โดยคาดการณ์ว่านวัตกรรม 5G รุ่นที่ 2 จะเร่งการสร้างรายได้ใน 3 ด้านหลัก ได้แก่ รูปแบบการใช้งานของผู้ใช้ การผสานรวมของเครือข่าย-คลาวด์-ระบบอัจฉริยะ และการทำงานร่วมกันของอีโคซิสเต็ม
การสร้างคุณค่าใหม่ผ่านนวัตกรรมการใช้งาน
หัวเว่ย 5G รุ่นที่ 2 มุ่งเน้นการสร้างคุณค่าใหม่ให้กับผู้ใช้งานและรูปแบบการใช้งานที่หลากหลาย โดยเฉพาะในด้านไลฟ์สตรีมมิง ซึ่งปัจจุบันมีผู้ลงทะเบียนใช้บริการในจีนถึง 150 ล้านราย ด้วยความเร็วอัปลิงก์ที่สูงและการเข้าถึงเครือข่ายแบบ priority-based ทำให้สามารถตอบสนองความต้องการด้านวิดีโอคุณภาพสูงได้อย่างราบรื่น
นอกจากนี้ เครือข่าย 5G รุ่นที่ 2 ยังรองรับคุณสมบัติใหม่ๆ เช่น อัตราเร่งแบบเฉพาะเจาะจงสำหรับผู้ใช้และบริการ การจัดการประสบการณ์ตามที่กำหนด และการสร้างภาพตามความคิดของผู้ใช้งาน ซึ่งจะช่วยสร้างรูปแบบใหม่ของการไลฟ์สตรีมมิงและเพิ่มมูลค่าให้กับผู้ใช้งานในหลากหลายรูปแบบ
การบูรณาการนวัตกรรมสู่บริการ IoT สำหรับอุตสาหกรรม
หัวเว่ยยังมุ่งเน้นการผสานรวมระหว่างเครือข่าย คลาวด์ และระบบอัจฉริยะ เพื่อสร้างโอกาสใหม่ในการเชื่อมต่อภายในอุตสาหกรรม โดยเฉพาะในด้าน Internet of Vehicles (IoV) และ Internet of Video Things (IoVT) ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนบริการดิจิทัลให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น
นอกจากนี้ เทคโนโลยี RedCap ยังช่วยรองรับบริการเชื่อมต่อประสิทธิภาพสูงในราคาที่เหมาะสม ทำให้ผู้ให้บริการสามารถสร้างมาตรฐานของอุตสาหกรรมได้อย่างรวดเร็ว และพัฒนาแอปพลิเคชันใหม่ที่มีมูลค่าสูงสำหรับบริการ IoT ในอุตสาหกรรม เช่น การผลิตอัจฉริยะและระบบอุตสาหกรรมอัตโนมัติ
การร่วมมือในอุตสาหกรรมเพื่อยกระดับบริการวิดีโอ
หัวเว่ยได้ผลักดันการยกระดับคุณภาพวิดีโอบนมือถือ โดยเรียกร้องให้ผู้เล่นในอุตสาหกรรมร่วมมือกันพัฒนาคอนเทนต์สำหรับเทคโนโลยี 3D ไร้แว่นตา รวมถึงเทคโนโลยีและประสบการณ์อื่นๆ เพื่อเพิ่มปริมาณการรับส่งข้อมูลบนเครือข่าย
นายเฉินกล่าวว่า หัวเว่ยจะสนับสนุนผู้ให้บริการในการขับเคลื่อนนวัตกรรม 5G รุ่นที่ 2 อย่างเต็มที่ พร้อมกับการนำ 5.5G เชิงพาณิชย์มาใช้ เพื่อยกระดับความสำเร็จของธุรกิจ 5G ไปอีกขั้น
ในปี 2567 ซึ่งเป็นปีแรกของการให้บริการ 5G-A เชิงพาณิชย์ การผสานการทำงานระหว่างระบบเครือข่าย คลาวด์ และระบบอัจฉริยะ จะช่วยเพิ่มการใช้งานแอปพลิเคชันอัจฉริยะให้แพร่หลายและสร้างประสบการณ์การใช้งานที่หลากหลายยิ่งขึ้น ซึ่งจะเป็นก้าวสำคัญในการนำทางสู่โลกอัจฉริยะในอนาคต
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: https://carrier.huawei.com/cn/events/mwcs2024