Meta ร่วมกับ Kantar เปิดเผยผลการวิเคราะห์เชิงเปรียบเทียบล่าสุด ศึกษา 10 แคมเปญโฆษณาของแบรนด์สินค้าอุปโภคบริโภคในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ครอบคลุม 4 ประเทศ ได้แก่ ไทย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม ในช่วงปี 2565-2566 พบว่าแคมเปญบนแพลตฟอร์มของ Meta สร้างผลตอบแทนจากการโฆษณา (ROAS) สูงสุดถึง 1.8 เท่า เมื่อเทียบกับแพลตฟอร์มอื่น ผลการศึกษานี้มีความสำคัญอย่างยิ่งในภูมิภาคที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว และคาดว่าจะมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 5 ของโลกในอนาคตอันใกล้
แคมเปญบน Meta ให้ผลตอบแทนสูงสุด
ผลการศึกษาพบว่าแคมเปญบนแพลตฟอร์มของ Meta สามารถสร้างยอดขายได้อย่างมีประสิทธิภาพทั้งในช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ โดยมี ROAS สูงถึง 1.8 เท่า ซึ่งมากกว่าแพลตฟอร์มดิจิทัลอื่นๆ และสื่อโทรทัศน์ แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของ Meta ในการขับเคลื่อนธุรกิจ นอกจากนี้ ยังพบว่าแคมเปญบน Meta สามารถสร้างยอดขายได้ถึง 16% ของยอดขายสื่อที่เพิ่มขึ้น ด้วยส่วนแบ่งการใช้จ่ายเพียง 10% เท่านั้น ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความคุ้มค่าของการลงทุนโฆษณาบนแพลตฟอร์มนี้
อัตราการเปลี่ยนผู้ชมเป็นลูกค้า (Conversion) สูงสุด
การศึกษายังพบว่าแคมเปญบน Meta มีอัตรา Conversion สูงสุดที่ 22% หมายความว่า 1 ใน 5 ของผู้ที่เห็นโฆษณาบนแพลตฟอร์มของ Meta ตัดสินใจซื้อสินค้า ซึ่งสูงกว่าโทรทัศน์ (20%) และสื่อดิจิทัลอื่นๆ (13%) ข้อมูลนี้แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของ Meta ในการกระตุ้นการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคที่มีการแข่งขันสูงในตลาด
การเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายกว้างขวาง
แคมเปญบน Meta สามารถเข้าถึงผู้ชมได้ 59% ซึ่งใกล้เคียงกับโทรทัศน์และสูงกว่าแพลตฟอร์มดิจิทัลอื่นๆ ที่ 43% นอกจากนี้ เมื่อใช้ร่วมกับสื่อโทรทัศน์ ยังสามารถเพิ่มยอดขายได้อีก 12% และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายเพิ่มขึ้นอีก 43% ข้อมูลนี้ชี้ให้เห็นถึงประสิทธิภาพของการใช้กลยุทธ์การตลาดแบบบูรณาการ โดยการผสมผสานระหว่างสื่อดั้งเดิมอย่างโทรทัศน์กับแพลตฟอร์มดิจิทัลอย่าง Meta สามารถเสริมซึ่งกันและกันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของแคมเปญโดยรวม
ต้นทุนการหาลูกค้าใหม่ต่ำที่สุด
การทำแคมเปญบน Meta สามารถเพิ่มลูกค้าใหม่ได้มากที่สุดด้วยต้นทุนเพียง 3.90 ดอลลาร์สหรัฐต่อลูกค้าใหม่หนึ่งราย ซึ่งต่ำที่สุดเมื่อเทียบกับแพลตฟอร์มอื่น ข้อมูลนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับแบรนด์ที่ต้องการขยายฐานลูกค้าในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีการแข่งขันสูง นอกจากนี้ Meta ยังแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภครุ่นใหม่ โดยเฉพาะ Gen Z และมิลเลนเนียล ซึ่งคิดเป็น 44% ของยอดขายทางดิจิทัลทั้งหมด
คุณคิชอร์ ภัทรสารดี ผู้อำนวยการด้านวิทยาการการตลาดของ Meta ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า ผลการศึกษานี้แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของแพลตฟอร์ม Meta ในการสร้างผลตอบแทนจากการลงทุน การเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย และการสร้างพฤติกรรมการซื้อ ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าและพันธมิตรสามารถวางแผนกลยุทธ์การตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
นอกจากนี้ ฮาร์เรียท ซิงห์ หัวหน้ากลุ่มสื่อและดิจิทัลประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของ PepsiCo ยังได้แสดงความคิดเห็นว่า การใช้ผลการศึกษาด้านพฤติกรรมผู้บริโภคร่วมกับแพลตฟอร์มของ Meta ช่วยให้บริษัทสามารถออกแบบประสบการณ์ของแบรนด์ที่เชื่อมโยงกับผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้เกิดการมีส่วนร่วมที่เพิ่มขึ้นและสร้างการเติบโตทางธุรกิจอย่างยั่งยืน
ผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดผลการศึกษาเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของ Kantar การศึกษานี้นับเป็นก้าวสำคัญในการเข้าใจพลวัตของตลาดดิจิทัลในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับแบรนด์ที่ต้องการประสบความสำเร็จในภูมิภาคนี้