เจาะลึกเบื้องหลัง การพัฒนากล้องในสมาร์ทโฟน สู่เทคโนโลยี ถ่ายภาพ Ultra Clear Camera with AI ใน realme 13 Pro Series ก่อนเปิดตัวอย่างเป็นทางการเร็วๆ นี้ พร้อมทดสอบพรีวิวการใช้งานกล้อง
เรียลมี จัดงานรอบพรีวิว “realme AI Imaging Media Preview Event” ที่กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา เป็นการเผยข้อมูลด้านนวัตกรรมกล้องบนสมาร์ทโฟน ที่พัฒนามาสู่ยุคการถ่ายภาพด้วยปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่จะมาในสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ “realme 13 Pro Series”
โดยในงานนี้ ทางทีมงาน TechOffside ได้เข้าร่วมอีเวนท์ด้วยเช่นกัน และด้วยเป็นการเน้นนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับเทคโนโลยีกล้องและการถ่ายภาพก่อนการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ จึงยังไม่มีการให้ข้อมูลเกี่ยวกับดีไซน์รวมถึงสเปคของ realme 13 Pro Series ในงานครั้งนี้
เราได้สรุปเนื้อหาสำคัญ เกี่ยวกับเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่จะมาใน realme 13 Pro Series ว่ามีจุดเด่นและความสามารถพัฒนาขึ้นจากรุ่นก่อนๆ อย่างโดดเด่น รวมถึงได้ไปทดสอบลองใช้งานการถ่ายภาพเบื้องต้นอีกด้วย
ครั้งแรกกับเซ็นเซอร์ภาพ Sony LYT-701 บน realme 13 Pro Series
เป็นการร่วมมือกันของ realme และ Sony ที่จะนำเอาเซ็นเซอร์ภาพ Sony LYT-701 ความละเอียด 50MP ที่มีความคมชัดสูง พร้อมระบบ OIS ลดการสั่นไหวพร้อมเทคโนโลยี AI มาใช้ในกล้องหลักของ realme 13 Pro Series ที่มีประสิทธิภาพในการถ่ายภาพทัดเทียมกับระดับกล้องมืออาชีพ
รวมถึงยังใช้เซ็นเซอร์ LYT-600 กับกล้อง Periscope 3x ความละเอียด 50MP ทำให้สามารถเก็บภาพในระยะซูมที่สวยคมชัดในทุกสถานการณ์ ทั้งการถ่ายภาพทิวทัศน์ รวมไปถึงการถ่ายภาพพอร์ตเทรตในสภาพแสงน้อยให้ดูเป็นธรรมชาติ
HYPERIMAGE+ เทคโนโลยี AI ที่ปฏิวัติวงการถ่ายภาพ
เป็นสถาปัตยกรรมการถ่ายภาพด้วย AI ล่าสุดที่ realme พัฒนาขึ้นสำหรับ realme 13 Pro Series เพื่อยกระดับการถ่ายภาพด้วยสมาร์ทโฟนไปสู่อีกระดับ โดยเป็นการผสานรวมกันระหว่างฮาร์ดแวร์กล้องคุณภาพสูง กับการประมวลผลด้วย AI อันทรงพลัง
ด้วยประสิทธิภาพของเซ็นเซอร์ Sony LYT-701 และ LYT-600 ที่สามารถเก็บภาพที่มีคุณภาพสูง ทำงานร่วมกับอัลกอริธึม AI ในการประมวลผลและปรับแต่งภาพด้วยฟีเจอร์ขั้นสูงอย่าง
AI Hyper RAW เป็นการใช้ปัญญาประดิษฐ์ในการประมวลผลข้อมูลภาพ RAW ตั้งแต่ระดับเซ็นเซอร์ ช่วยเพิ่มความคมชัดของภาพและขยายช่วงไดนามิกให้ดีขึ้น ทำให้สามารถเก็บรายละเอียดในส่วนสว่างและมืดได้มากขึ้น รวมถึงยังช่วยลดสัญญาณรบกวน (noise) ในภาพ เพิ่มความแม่นยำในการแสดงสี ส่งผลให้ภาพถ่ายที่ได้มีคุณภาพสูง มีความยืดหยุ่นในการปรับแต่งภายหลัง และให้ผลลัพธ์ที่สมจริงที่สุด
AI Pure Bokeh เป็นเทคโนโลยีล้ำสมัยที่ realme พัฒนาขึ้นเพื่อสร้างเอฟเฟกต์ bokeh ที่สวยงามและเป็นธรรมชาติ ระบบนี้ใช้ปัญญาประดิษฐ์ในการวิเคราะห์องค์ประกอบของภาพ แยกแยะวัตถุที่เป็นจุดโฟกัส ฉากหน้า พื้นที่ระยะกลาง และฉากหลังได้อย่างแม่นยำ จากนั้นจึงประมวลผลและปรับแต่งความเบลอของฉากหลังให้ดูนุ่มนวลและสมจริง ทำให้วัตถุหลักในภาพโดดเด่นขึ้นมา ผลลัพธ์ที่ได้คือภาพถ่ายที่มีมิติ สวยงาม ราวกับถ่ายด้วยกล้อง DSLR คุณภาพสูง
AI Natural Skin Tone เป็นฟีเจอร์ที่ออกแบบมาเพื่อปรับแต่งโทนสีผิวให้ดูเป็นธรรมชาติและสวยงาม โดยใช้ AI ในการวิเคราะห์สีผิวของบุคคลในภาพ คำนึงถึงปัจจัยต่างๆ เช่น แสง เงา และสภาพแวดล้อม จากนั้นจึงปรับแต่งโทนสีผิวให้สมดุลและสมจริง โดยไม่ทำให้ดูผิดธรรมชาติหรือเกินจริง ระบบนี้สามารถรองรับความหลากหลายของสีผิว ทำให้ภาพถ่ายบุคคลมีความสวยงาม สมจริง และเป็นธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นผิวสีใดก็ตาม
AI Ultra Clarity เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยยกระดับความคมชัดของภาพถ่ายให้สูงขึ้น โดยใช้ AI ในการวิเคราะห์และประมวลผลภาพ ระบบนี้สามารถแยกแยะรายละเอียดต่างๆ ในภาพ และเพิ่มความคมชัดให้กับส่วนที่สำคัญ โดยไม่ทำให้เกิดสัญญาณรบกวนหรือ artifacts ที่ไม่พึงประสงค์ นอกจากนี้ AI Ultra Clarity ยังสามารถปรับปรุงภาพถ่ายที่มีความละเอียดต่ำให้มีคุณภาพสูงขึ้น ทำให้ภาพมีรายละเอียดที่คมชัด สีสันสดใส และมีความสมจริงมากขึ้น แม้จะถ่ายในสภาพแสงที่ไม่เอื้ออำนวยก็ตาม
นอกจากนี้ realme 13 Pro Series ยังเป็นสมาร์ตโฟนที่ได้ผ่านการรับรองมาตรฐานกล้องความละเอียดสูงจาก TÜV Rheinland ซึ่งเป็นองค์กรชั้นนำระดับโลกด้านการทดสอบและรับรองคุณภาพ ซึ่งให้ความสำคัญในเรื่องของความคมชัดในการถ่ายภาพเป็นเรื่องพื้นฐานที่สำคัญที่สุด ไม่ว่าจะใช้ในสภาพแสงแบบใด ก็สามารถถ่ายภาพได้คมชัดในะดับยอดเยี่ยม
ทดสอบลองใช้ ถ่ายภาพ ด้วยกล้องของ realme 13 Pro Series
ในงานนี้ เราได้ทดสอบลองใช้งาน realme 13 Pro Series เครื่องจริงก่อนการเปิดตัวเป็นครั้งแรก โดยกำหนดให้ทดสอบเฉพาะในส่วนของกล้องเพียงอย่างเดียวเท่านั้น และนี่คือความรู้สึกหลังจากที่ได้ใช้งานในการถ่ายภาพในหลากหลายสถานการณ์ ทั้งเรื่องของสภาพแสง ระยะการซูม การถ่ายพอร์ตเทรต การถ่ายภาพในเวลากลางคืน และการปรับแต่งภาพด้วย AI
การใช้งานในสภาวะแสงที่แตกต่าง : ในการทดสอบเราได้ใช้ถ่ายภาพทั้งแบบในอาคารที่มีสภาพแสงค่อนข้างน้อย, ถ่ายกลางแจ้งในสภาพแดดไม่แรงมาก เนื่องจากในวันนั้นมีเมฆค่อนข้างมาก โดยรวมถึอว่าทำได้น่าประทับใจ คือภาพมีการจัดการรายละเอียดของภาพทั้งในส่วนของเงามืดและแสงสว่างที่ดี ไม่ได้มืดสนิทหรือขาวโพลน
ทดสอบการซูม : ประสิทธิภาพของกล้องนั้น สามารถซูมได้ไกลสุดถึงระดับ 120x แบบดิจิทัล จากที่ทดสอบลองใช้ ในระยะที่รู้สึกว่ามีความคมชัดระดับที่น่าพอใจ จะอยู่ที่ 10x-20x คือได้ความคมชัด รวมถึงยังมีระบบการล็อคเฟรมภาพในระหว่างซูมให้นิ่งได้โดยไม่ต้องใช้ขาตั้งกล้อง ทำให้เวลาถือด้วยมือแล้วซูมไกลๆ ก็ยังเล็งภาพได้ง่ายขึ้น
โบเก้ที่ดูเป็นธรรมชาติ : ทั้งในโหมดการถ่ายภาพและพอร์ตเทรต ที่สามารถเลือกปรับค่ารูรับแสงได้ ตัวโบเก้ที่เกิดขึ้นในฉากหลังนั้น ทำออกมาดูเป็นธรรมชาติ ไม่ได้ดูประดิษฐ์จนหลอกตา อยู่ในระดับที่น่าพึงพอใจ และทำได้ดีทั้งกล้องหลังและกล้องหน้า
การถ่ายภาพในเวลากลางคืน : การจัดการทั้งเรื่องของความสว่างในภาพ, noise และแสงสว่างที่คมชัดไม่พร่ามัว รายละเอียดและคอนทราสต์สูง สวนการถ่ายพอร์ตเทรตก็จะได้โบเก้ที่สวยงามด้วยเช่นกัน
การถ่ายพอร์ตเทรต : ทำได้ดีมาก โดยในโหมดพอร์ตเทรตจะเลือกได้ระหว่า 1x กับ 3x ทำให้ได้ระยะเลนส์การถ่ายถ่ายภาพบุคคลที่ 2 ระยะมุมมอง โดยที่ 3x นั้นเป็นระยะที่โอเคมากสำหรับการถ่ายพอร์ตเทรตแบบโคลสอัพ ที่ดึงฉากหลังให้เข้ามาใกล้และละลายอย่างสวยงาม
AI Ultra Clarity : ฟีเจอร์ปรับแต่งภาพที่อาจจะมีความไม่คมชัดในรายละเอียด หรือภาพที่มีความละเอียดต่ำ ให้มีความคมชัดและคอนทราสต์ดีขึ้น
AI Smart Removal : ความสามารถในการเลือกลบบุคคลหรือวัตถุในภาพ โดยเมื่อวงแล้วก็จะทำการลบออกแล้วแต่งภาพให้อย่างแนบเนียน จากที่ลองใช้คือลบแล้วแต่ได้ค่อนข้างเนียนเลยทีเดียว
realme 13 Pro Series เตรียมเปิดตัวภายในเดือนกรกฎาคมนี้
กำหนดการเปิดตัวของ realme 13 Pro Series นั้นจะจัดขึ้นภายในเดือนกรกฎาคมนี้ โดยจะจัดที่ประเทศอินเดีย สำหรับประเทศไทยติดตามการอัปเดตข้อมูลเพิ่มเติมจากทาง เรียลมี ประเทศไทย ได้เร็วๆ นี้ครับ