ควอลคอมม์ เทคโนโลยีส์ ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการในฐานะพาร์ทเนอร์ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทั้งทีมชายและหญิง โดยแบรนด์ Snapdragon จะปรากฏบนเสื้อแข่งใหม่สำหรับฤดูกาล 2024/25 รวมถึงชุดเยือนและชุดที่สาม
ความร่วมมือครั้งนี้เน้นย้ำถึงบทบาทของ Snapdragon ในการขับเคลื่อนประสบการณ์ดิจิทัลระดับพรีเมียมผ่านอุปกรณ์กว่า 3 พันล้านเครื่องทั่วโลก ทั้งสมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ แว่นตา VR อุปกรณ์เกมมิ่ง อุปกรณ์สวมใส่ และยานยนต์
Adidas ได้เปิดตัวชุดเหย้าใหม่ล่าสุด โดยทีมชายจะสวมใส่ครั้งแรก ในทัวร์พรีซีซั่นยุโรปและสหรัฐอเมริกา รวมถึงเกม Snapdragon Cup ที่ซานดิเอโกในวันที่ 31 กรกฎาคม
วิดีโอเปิดตัวนำแสดงโดยตำนานทีม เอริค คันโตน่า สะท้อนถึงพลัง อารมณ์ และความคิดสร้างสรรค์ที่เขาแสดงออกในฐานะนักเตะ ชุดเยือนและชุดที่สามจะวางจำหน่าย ในเดือนกรกฎาคม
แฟนๆ สามารถสัมผัสประสบการณ์ AR โดยสแกนโลโก้ Snapdragon บนเสื้อ ซึ่งจะพาพวกเขาเข้าสู่สนาม Old Trafford และนำเสนอคอนเทนต์พิเศษตลอดทั้งฤดูกาล
ฌอง- คล็อด บลองก์ ซีอีโอของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กล่าวว่า “การเปิดตัวชุดเหย้าใหม่ของเราคือช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นก่อนเริ่มทุกฤดูกาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปีนี้ที่เรายินดีต้อนรับ Snapdragon เป็นพันธมิตรเสื้อรายใหม่ของเรา”
“แม้ว่าเสื้อจะเป็นสัญลักษณ์ที่ชัดเจนที่สุดในความร่วมมือของเรา แต่เรารอคอยที่จะใช้โปรเซสเซอร์ของ Snapdragon เพื่อมอบประสบการณ์ที่แปลกใหม่ให้กับแฟน ๆ ทั่วโลก สร้างการมีส่วนร่วมของเหล่าแฟน ๆ กับสโมสรฟุตบอลที่พวกเขารักให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น เรามุ่งมั่นที่จะผลักดันขอบเขตของสิ่งที่เป็นไปได้อยู่เสมอ และรู้สึกตื่นเต้นที่ได้เป็นพาร์ทเนอร์ร่วมกับบริษัทระดับแนวหน้าด้านนวัตกรรม”
ดอน แมคไกวร์ รองอาวุโส ประธานและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดของ Qualcomm Incorporated กล่าวว่า “เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะได้ขยายความร่วมมือกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และได้เห็นแบรนด์ Snapdragon ปรากฏบนชุดแข่งของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยความหลงใหลจากแฟนบอล 1.1 พันล้านคน และผู้ติดตามทั่วโลก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นหนึ่งในชื่อที่โด่งดังที่สุดในวงการกีฬาระดับโลก ในฐานะพาร์เนอร์ที่ปรากฏอยู่บนหน้าของเสื้อฤดูกาลใหม่ของสโมสร เรามุ่งมั่นที่จะผลักดันแบรนด์ Snapdragon ให้ก้าวไปอีกขั้น ไม่เพียงแต่สร้างการรับรู้เท่านั้น แต่ยังเพิ่มความเข้าใจและความผูกพันกับ Snapdragon ในการขับเคลื่อนประสบการณ์อันน่าทึ่งผ่านอุปกรณ์นับพันล้านเครื่อง”