TikTok แพลตฟอร์มวิดีโอสั้นชั้นนำระดับโลก เปิดตัว “#คนไทยรู้ทัน ศูนย์ข้อมูลดิจิทัลต้านภัยออนไลน์” (Anti-Scam Digital Literacy Hub) โดยร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและภาคประชาสังคมกว่า 8 แห่ง เพื่อสร้างความตระหนักรู้และเสริมทักษะการรับมือกับภัยออนไลน์ให้แก่ผู้ใช้งานทั่วประเทศ ความร่วมมือครั้งนี้นับเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับความปลอดภัยทางดิจิทัลให้กับสังคมไทย
ความร่วมมือครั้งสำคัญเพื่อความปลอดภัยในโลกดิจิทัล
การเปิดตัวครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานสำคัญหลายแห่ง อาทิ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (MDES) สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (OCPB) ธนาคารแห่งประเทศไทย (BOT) กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SEC) โดยมีเป้าหมายในการสร้างองค์ความรู้เกี่ยวกับการหลอกลวงและฉ้อโกงทางออนไลน์แห่งแรกในไทยบนแพลตฟอร์ม TikTok
นอกจากนี้ ยังมีการร่วมมือกับสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA) โครงการโคแฟค (COFACT) และสภาองค์กรของผู้บริโภค (TCC) เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งในการต่อต้านภัยคุกคามทางดิจิทัลในทุกมิติ
ปัญหาการฉ้อโกงออนไลน์ที่ทวีความรุนแรง
จากข้อมูลของกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) พบว่าปัจจุบันมีคดีหลอกลวงและการฉ้อโกงกว่า 700 คดีต่อวัน โดย 40% เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมทางอีคอมเมิร์ซ นอกจากนี้ สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ยังเปิดเผยว่าในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2567 มีการร้องเรียนปัญหาออนไลน์แล้วถึง 19,960 กรณี
ปัญหาที่พบมากที่สุดคือปัญหาซื้อขายออนไลน์ (43.44%) รองลงมาคือปัญหาเว็บไซต์ผิดกฎหมาย (31.27%) และปัญหาอื่นๆ (25.29%) ซึ่งรวมถึงการหลอกลวงลงทุน หลอกให้ทำงานออนไลน์ และปัญหาการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล สถานการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการสร้างภูมิคุ้มกันทางดิจิทัลให้กับประชาชน
กลยุทธ์การสร้างภูมิคุ้มกันทางดิจิทัล
นางสาวชนิดา คล้ายพันธ์ Head of Public Policy – TikTok, Thailand กล่าวว่า TikTok เชื่อมั่นในการสร้างภูมิคุ้มกันผ่านการมอบองค์ความรู้ด้านดิจิทัล (Digital Literacy) ให้กับผู้ใช้งาน โดยแคมเปญ #คนไทยรู้ทัน มีจุดประสงค์เพื่อเป็นพื้นที่ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้สื่อสารเพื่อเตือนภัยและเสริมทักษะการรับมือกับกลโกงของมิจฉาชีพในยุคดิจิทัล
แคมเปญนี้ยังมุ่งเน้นการสร้างสรรค์คอนเทนต์ให้ความรู้ตามความเชี่ยวชาญของแต่ละหน่วยงาน โดยใช้ประโยชน์จากความนิยมของแพลตฟอร์ม TikTok ในการเข้าถึงผู้ใช้งานทุกเพศทุกวัยทั่วประเทศไทย
บทบาทของภาครัฐในการป้องกันภัยออนไลน์
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ย้ำถึงความสำคัญของการสร้างความตระหนักรู้และภูมิคุ้มกันด้านดิจิทัลให้กับประชาชน พร้อมเน้นย้ำหลักการป้องกันโกง 4 ไม่: ไม่กดลิงก์ ไม่เชื่อ ไม่รีบ ไม่โอน และแนะนำให้ประชาชนใช้บริการสายด่วน AOC 1441 และ 1212 เมื่อพบเจอปัญหา
นอกจากนี้ กระทรวงดิจิทัลฯ ยังได้มอบหมายให้สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ดูแลช่องทาง call center 1212 ซึ่งเป็นศูนย์ช่วยเหลือและจัดการปัญหาออนไลน์ ที่ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับปัญหาทางธุรกรรมออนไลน์และรับแจ้งเบาะแสบัญชีม้า
การมีส่วนร่วมของภาคประชาสังคมและเอกชน
โครงการโคแฟค (COFACT) ซึ่งเป็นพื้นที่ตรวจสอบข่าวลวง ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการตรวจสอบข้อมูลอย่างรอบคอบในยุคดิจิทัล นางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ ผู้ร่วมก่อตั้งโคแฟค (ประเทศไทย) กล่าวว่า “เราเชื่อว่าความสามารถในการแยกแยะข้อมูลอันเป็นเท็จเป็นอีกหนึ่งพื้นฐานสำคัญของการสร้างสภาพแวดล้อมออนไลน์ที่ปลอดภัย”
ในส่วนของภาคเอกชน TikTok ได้นำทัพครีเอเตอร์ที่มีอิทธิพลบนแพลตฟอร์มเข้ามาเป็นกระบอกเสียงในการเตือนภัยและสร้างองค์ความรู้แก่ผู้ใช้ โดยมุ่งหวังให้สามารถส่งสารที่สำคัญและเป็นประโยชน์ไปถึงกลุ่มผู้ใช้งานทุกเพศทุกวัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การมีส่วนร่วมของประชาชนในการต่อต้านภัยออนไลน์
TikTok เชิญชวนให้ผู้ใช้งานร่วมเป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญผ่านการแชร์คอนเทนต์ไอเดียต่อกรกับกลโกงต่างๆ พร้อมติดแฮชแท็ก #คนไทยรู้ทัน บนแพลตฟอร์ม โดยคอนเทนต์ที่โดดเด่นจะได้รับรางวัลจากกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เช่น iPhone 15 Pro Max, Apple Watch และ iPad Air M2 ตั้งแต่วันที่ 26 กรกฎาคม ถึง 9 สิงหาคม 2567 และจะประกาศผลในวันที่ 19 สิงหาคม 2567
มุ่งสู่อนาคตที่ปลอดภัยในโลกดิจิทัล
การเปิดตัว #คนไทยรู้ทัน ศูนย์ข้อมูลดิจิทัลต้านภัยออนไลน์ ถือเป็นก้าวสำคัญในการสร้างสังคมดิจิทัลที่ปลอดภัยและส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ให้เติบโตอย่างยั่งยืน TikTok ไม่เพียงแต่มุ่งหวังให้แพลตฟอร์มเป็นพื้นที่แห่งความบันเทิงและความคิดสร้างสรรค์เท่านั้น แต่ยังต้องการให้เป็นแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้สำหรับผู้ใช้งานทุกคน
ด้วยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม แคมเปญนี้จึงเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในการสร้างภูมิคุ้มกันทางดิจิทัลให้กับสังคมไทย โดย TikTok และพันธมิตรทุกภาคส่วนพร้อมที่จะร่วมมือกันอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างอนาคตที่ปลอดภัยยิ่งขึ้นในโลกดิจิทัล พร้อมทั้งส่งเสริมให้เกิดการใช้เทคโนโลยีอย่างสร้างสรรค์และมีความรับผิดชอบ เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนของเศรษฐกิจดิจิทัลไทยในระยะยาว
