CHANGAN Auto Thailand ทะยานสู่อนาคตรถไฟฟ้า: ฉลองความสำเร็จ 1 ปีด้วยยอดขายทะลุ 8,000 คัน

ในวงการยานยนต์ไฟฟ้าของไทยที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว CHANGAN Auto Thailand ได้สร้างปรากฏการณ์ครั้งใหม่ด้วยการฉลองครบรอบ 1 ปีของการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย พร้อมประกาศความสำเร็จอันน่าทึ่งด้วยยอดขายที่ทะลุ 8,000 คัน นับเป็นก้าวสำคัญของบริษัทรถยนต์ไฟฟ้าจากจีนที่กำลังรุกตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างจริงจัง

จากจุดเริ่มต้นสู่ความสำเร็จในปีแรก

CHANGAN Auto Thailand เริ่มต้นการเดินทางในตลาดไทยด้วยการจดทะเบียนบริษัทและเปิดตัวแบรนด์ CHANGAN อย่างเป็นทางการในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าภายใต้แบรนด์ DEEPAL ในรุ่น S07 และ L07 ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามจากผู้บริโภคชาวไทย ส่งผลให้บริษัทสามารถสร้างภาพลักษณ์ระดับพรีเมียมในตลาดได้อย่างรวดเร็ว

นายเซิน ซิงหัว กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฉางอาน ออโต้ เซาท์อีสเอเชีย จำกัด เปิดเผยว่า “ในระยะเวลาเพียง 1 ปี เราสามารถสร้างยอดขายได้มากกว่า 8,000 คัน และส่งมอบแล้วเกือบ 6,000 คัน โดยเกือบ 5,000 คันเป็น DEEPAL S07 ซึ่งทำให้เราติดอันดับท็อป 10 ของตลาด SUV ทั้งหมด ด้วยส่วนแบ่งการตลาด 2.6% และครองอันดับ 2 ในกลุ่ม C-SUV ด้วยส่วนแบ่งการตลาด 21%”

ความสำเร็จนี้ไม่เพียงแต่สะท้อนให้เห็นถึงการยอมรับของผู้บริโภคเท่านั้น แต่ยังแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของ CHANGAN ในการแข่งขันกับแบรนด์รถยนต์ชั้นนำในตลาดไทย นอกจากนี้ บริษัทยังได้จ่ายภาษีให้กับประเทศไทยเกือบ 1,200 ล้านบาท ซึ่งเป็นการสนับสนุนเศรษฐกิจของประเทศอย่างมีนัยสำคัญ

CHANGAN Auto Thailand

การขยายเครือข่ายและการพัฒนาบริการ

CHANGAN ไม่ได้หยุดอยู่แค่การสร้างยอดขาย แต่ยังมุ่งมั่นในการพัฒนาเครือข่ายการบริการให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ปัจจุบันบริษัทมีโชว์รูมทั่วประเทศกว่า 60 แห่ง โดยเปิดดำเนินการแล้ว 30 แห่ง ครอบคลุม 25 จังหวัดสำคัญ และตั้งเป้าที่จะขยายให้ครบ 100 แห่งภายในปี 2568

นอกจากนี้ CHANGAN Thailand ยังได้พัฒนาคลังอะไหล่ขนาดใหญ่กว่า 3,000 ตารางเมตร ที่สามารถจัดเก็บอะไหล่กว่า 2,000 ประเภท และชิ้นส่วนมากกว่า 40,000 ชิ้น ทำให้สามารถจัดส่งอะไหล่ครอบคลุมกว่า 95% ของประเทศภายใน 24 ชั่วโมง การพัฒนาโครงการ “Project NO.1” และการเปิดศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ดิจิทัลใหม่ยังเป็นการยกระดับคุณภาพการบริการและสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับลูกค้า

แผนการผลิตและการพัฒนาในอนาคต

CHANGAN กำลังก้าวสู่อีกขั้นของการเติบโตด้วยการก่อสร้างโรงงานที่จังหวัดระยอง ซึ่งจะเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์พวงมาลัยขวาของ CHANGAN ทั่วโลก ด้วยเงินลงทุนกว่า 10,000 ล้านบาท โรงงานนี้มีกำหนดเริ่มการผลิตในไตรมาสแรกของปี 2568

นายเซิน ซิงหัว กล่าวว่า “เรามีแผนที่จะเพิ่มอัตราส่วนชิ้นส่วนท้องถิ่นในรุ่นที่ผลิตในประเทศให้ถึง 50% ภายในต้นปีหน้า นอกจากนี้ เรายังได้ว่าจ้างพนักงานท้องถิ่นเกือบ 300 คน คิดเป็น 70% ของพนักงานทั้งหมด และมีแผนส่งพนักงานที่มีทักษะประมาณ 100 คนไปฝึกอบรมที่ฉงชิ่งในเดือนกันยายนนี้”

CHANGAN Auto Thailand

มุมมองต่อตลาดยานยนต์ไฟฟ้าและแผนการในอนาคต

CHANGAN มองว่าแนวโน้มตลาดยานยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกและในประเทศไทยยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยคาดการณ์ว่าในปี 2567 ยอดขายยานยนต์พลังงานใหม่ (NEV) ทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นถึง 17 ล้านคัน โดยจีนจะเป็นผู้นำในตลาดนี้ด้วยยอดขาย NEV ที่คาดว่าจะถึง 11.5 ล้านคัน

สำหรับตลาดไทย แม้จะมีความท้าทายจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวและการอนุมัติสินเชื่อที่เข้มงวดขึ้น แต่อัตราการเข้าถึงตลาด BEV ในเซกเมนต์รถยนต์นั่งส่วนบุคคลยังคงสูงกว่า 15% ซึ่งสอดคล้องกับนโยบาย 30@30 ของรัฐบาลไทย

CHANGAN Thailand มีแผนเปิดตัวแบรนด์ AVATR ในเดือนกันยายน 2567 และจะเปิดตัว DEEPAL E07 ซึ่งเป็นรถยนต์ลูกผสมระหว่าง SUV และกระบะขนาดใหญ่ ในงาน Motor Expo เดือนพฤศจิกายน 2567 นอกจากนี้ ยังมีแผนเปิดตัวรุ่นที่ผลิตในประเทศจากโรงงานระยองในไตรมาสแรกของปี 2568 ซึ่งจะเป็นรุ่นแบบ BEV และ REEV ที่ใช้เทคโนโลยี DEEPAL Super REEV ที่สามารถขับขี่ได้ไกลถึง 1,000 กิโลเมตรจากการชาร์จและเติมน้ำมันเต็มถัง

นายเซิน ซิงหัว กล่าวทิ้งท้ายว่า “ในฐานะบริษัทที่มุ่งมั่นพัฒนาระยะยาวในประเทศไทย เรายึดมั่นในหลักการ ‘By Thai, For Thai, Rooted in Thailand’ โดยมอบผลิตภัณฑ์และบริการที่ดีเยี่ยม เพื่อเป็นการตอบแทนให้กับคนไทยที่ให้การต้อนรับเป็นอย่างดี โครงการ CSR ของเราจะเน้นเรื่องความยั่งยืน การศึกษา และการสนับสนุนชุมชนท้องถิ่น เราเชื่อว่าการตอบแทนชุมชนไม่ใช่แค่ความรับผิดชอบ แต่เป็นสิ่งพิเศษที่เราจะมอบให้ เพื่อสร้างอนาคตที่สดใสและแข็งแกร่งยิ่งขึ้นสำหรับทุกคน”

ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ Google News
ช่องทางโซลเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok

Blogger สาย Multi Function ตามติดเทคโนโลยีมือถือ, แท็บเล็ต, แอพ, เกมคอนโซล, โลกโซเชียล และจักรยาน