เอ็มบาสซี ดิโพลแมท สกรีน ผู้ให้บริการโรงภาพยนตร์ชั้นนำ จัดงาน “Cinematicverse Movie Coming Attraction 2025” เพื่อนำเสนอภาพยนตร์ที่จะเข้าฉายในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2024 และตลอดปี 2025 พร้อมเปิดตัวกลยุทธ์การตลาดแบบ 360 องศา มุ่งเน้นการสร้างประสบการณ์ให้กับลูกค้าผ่านสื่อโฆษณาหลากหลายรูปแบบ
คุณไบรอัน ฮอลล์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็กซ์เซกคิวทีฟ ซีนิม่า คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า แม้ว่าแพลตฟอร์มวิดีโอสตรีมมิ่งจะเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่ธุรกิจโรงภาพยนตร์ยังคงมีศักยภาพในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากประสบการณ์การรับชมในโรงภาพยนตร์มีความแตกต่างและเหนือกว่าการรับชมผ่านช่องทางอื่น ๆ ทั้งในด้านคุณภาพของภาพ เสียง และบรรยากาศโดยรวม
ข้อมูลจากผลสำรวจพฤติกรรมผู้ชมและรายได้ของภาพยนตร์ที่เข้าฉายในปี 2024 แสดงให้เห็นว่า ผู้ชมกำลังกลับมาใช้บริการโรงภาพยนตร์มากขึ้นหลังจากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย โดยในปี 2023 มีจำนวนผู้ชมถึง 90% เมื่อเทียบกับปี 2019 นอกจากนี้ ยังมีภาพยนตร์หลายเรื่องทั้งจากฮอลลีวูดและไทยที่ทำรายได้สูงเกิน 100 ล้านบาท
สำหรับปี 2025 คาดการณ์ว่าจะมีภาพยนตร์ฟอร์มใหญ่เข้าฉายอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงเดือนพฤษภาคมถึงกรกฎาคม และตุลาคมถึงธันวาคม ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซั่นของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ ทั้งนี้ มีการคาดการณ์ว่าจำนวนผู้ชมจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในช่วงเวลาดังกล่าว
เอ็มบาสซี ดิโพลแมท สกรีน ได้นำเสนอกลยุทธ์การตลาดแบบ 360 องศา เพื่อสร้างประสบการณ์ให้กับลูกค้าและเพิ่มมูลค่าให้กับแบรนด์พันธมิตร โดยประกอบด้วย 3 แนวทางหลัก ได้แก่
- การใช้สื่อโฆษณาในโรงภาพยนตร์ที่หลากหลาย มีไลน์อัปหนังฟอร์มยักษ์จากฮอลลีวูด และหนังไทยที่ทยอยกำหนดเข้าฉายอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งคอนเทนต์ทางเลือกที่ไม่ใช่ภาพยนตร์ (Alternative Content) ด้วยความหลากหลายของคอนเทนต์ครอบคลุมทั้งตลาด Mass และตลาด Localization ส่งผลให้จำนวนคนชมภาพยนตร์จะเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก
- การทำ CRM Program ผ่านกลยุทธ์ “เนมมิ่ง สปอนเซอร์” โรงภาพยนตร์เพื่อช่วยให้แบรนด์ใกล้ชิดกับกลุ่มเป้าหมายที่ชื่นชอบความบันเทิงนอกบ้าน พร้อมมอบประสบการณ์ให้กับลูกค้า และสร้างเอนเกจเม้นต์ได้เป็นอย่างดี โดยปัจจุบัน ทางสปอนเซอร์หลักของ Embassy Diplomat Screen ได้แก่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) , ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) , เครื่องดื่มตราช้าง บริษัทไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน)
- จัด Campaign Promotion ซึ่งทางโรงภาพยนตร์เปิดมานานกว่า 10 ปี และมีฐานลูกค้าประจำ member มากกว่า 2,000 รายต่อปี ที่เป็นลูกค้า Heavy User ที่ดูหนังไม่น้อยกว่า 4 ครั้งต่อเดือน โดยสามารถสร้างสรรค์กิจกรรมเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้ามากขึ้น โดยมุ่งเน้นสร้าง Brand Awareness ให้เข้าไปอยู่ในใจกลุ่มเป้าหมาย
ทางเอ็มบาสซี ดิโพลแมท สกรีน มุ่งหวังที่จะสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจสื่อโฆษณาในโรงภาพยนตร์ ซึ่งมีจุดเด่นที่แตกต่างจากสื่อโฆษณาประเภทอื่น โดยสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างครอบคลุมและมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ บริษัทเชื่อมั่นว่าแนวทางดังกล่าวจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับพันธมิตรทางธุรกิจในระยะยาว