Fujifilm instax mini Link 3 สมาร์ทโฟนปรินเตอร์ เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ราคา 4,490 บาท

ฟูจิฟิล์ม ประเทศไทย เปิดตัว instax mini Link 3 สมาร์ตโฟนปรินเตอร์รุ่นล่าสุด มาพร้อมกับฟีเจอร์ instax AiR Studio และ Click to Collage สามารถปรินต์ภาพจากสมาร์ตโฟนลงบนฟิล์ม instax ขนาดมินิได้อย่างง่ายดาย

instax mini Link เป็นปรินเตอร์พกพาที่ได้รับความนิยมจากผู้ใช้ทั่วโลก ด้วยลูกเล่นมากมายที่ช่วยสร้างความทรงจำพิเศษระหว่างกลุ่มเพื่อน ในรุ่นที่ 3 นี้ เพิ่มฟีเจอร์ใหม่อย่าง instax AiR Studio ช่วยให้ผู้ใช้สามารถถ่ายรูปด้วยเอฟเฟกต์ AR แบบ 3 มิติลงในภาพถ่ายได้ ส่วน Click to Collage ช่วยสร้างภาพปะต่อจากหลายช็อตเหมือนการถ่ายรูปที่โฟโต้บูธ ฟังก์ชันใหม่เหล่านี้ช่วยมอบช่วงเวลาสนุกๆ ให้กลุ่มเพื่อนทั้งกลุ่มเล็กและกลุ่มใหญ่ ทำให้การถ่ายและปรินต์ภาพสนุกสนานยิ่งขึ้นสำหรับทุกคน

ดีไซน์สวยงามพร้อมสีสันทันสมัย

ดีไซน์ของ Link 3 ยังคงเอกลักษณ์ของซีรีส์ mini Link ด้วยลายเส้นแนวตั้งและโลโก้ instax ที่มีไฟ LED สามสีสว่างขึ้นเมื่อเปิดเครื่อง สะท้อนความสนุกสนานได้เป็นอย่างดี โดยตัวเครื่องมีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีขาว CLAY WHITE, สีชมพู ROSE PINK และสีเขียว SAGE GREEN ตอบโจทย์ความชอบและสะท้อนตัวตนของผู้ใช้แต่ละคน

นอกจากนี้ ฟูจิฟิล์มยังประกาศวางจำหน่ายฟิล์มขนาดมินิรุ่นใหม่ “SPRINKLES” ที่จะเพิ่มความสนุกให้กับการถ่ายภาพด้วยดีไซน์สีสันสดใสที่ได้แรงบันดาลใจมาจากลวดลายเม็ดน้ำตาลตกแต่งขนมหลากสีสัน ซึ่งเป็นหนึ่งในเอฟเฟกต์ AR ใน instax AiR Studio อีกด้วย

ฟีเจอร์ใหม่เพิ่มความสนุกในการถ่ายภาพ

นอกจากการปรินต์ภาพนิ่งและวิดีโอจากสมาร์ตโฟนแล้ว Link 3 ยังมาพร้อมฟังก์ชัน instax AiR Studio ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเพิ่มเอฟเฟกต์ AR แบบสามมิติลงในภาพได้ตามต้องการ โดยมีเอฟเฟกต์ให้เลือกใช้ 3 แบบ ได้แก่ “Back” สำหรับสร้างฉากหลัง “Decor” สำหรับตกแต่งบริเวณรอบๆ และ “Effect” สำหรับสร้างภาพถ่ายที่โดนใจด้วยเอฟเฟกต์ AR ที่เคลื่อนไหวได้ ผู้ใช้สามารถเลือกใช้เอฟเฟกต์ AR เพียงอย่างเดียว หรือผสมผสานหลายๆ อย่างเพื่อตกแต่งก็ทำได้ตามใจ

อีกหนึ่งฟีเจอร์ใหม่คือ Click to Collage ที่ช่วยให้ผู้ใช้สร้างภาพปะต่อได้ผ่านแอปโดยสามารถเปลี่ยนท่าทางตอนถ่ายภาพได้สูงสุด 6 ภาพ คล้ายกับการถ่ายภาพในโฟโต้บูธ เมื่อปรินต์ภาพปะต่อที่สร้างขึ้นด้วย Link 3 ฟีเจอร์ instax Animation จะรวมแต่ละภาพเข้าด้วยกันเป็นวิดีโอแบบฟลิปบุ๊ก โดยผู้ใช้สามารถสแกนคิวอาร์โค้ดที่ปรินต์บนภาพ instax เพื่อดูวิดีโอ, ปรินต์รูปจากวิดีโอฟลิปบุ๊กให้กับเพื่อนและครอบครัว หรือจะกดแชร์ลงในโซเชียลมีเดียก็ทำได้

Fujifilm instax mini Link 3

แอป instax UP! เวอร์ชันใหม่เพิ่มความสนุกในการใช้งาน

ฟูจิฟิล์มยังได้อัปเกรดแอป instax UP! เป็นเวอร์ชันใหม่ โดยเพิ่มฟีเจอร์ instax Days ที่ช่วยให้ผู้ใช้สร้างปฏิทินส่วนตัวด้วยการเพิ่มชื่อกิจกรรมลงในภาพปรินต์ instax ที่ถ่ายไว้ ทำให้สามารถย้อนกลับไปดูความทรงจำได้สะดวก และยังสามารถโพสต์ปฏิทินของตนเองไปยังโซเชียลมีเดียได้โดยตรง

นอกจากนี้ แอป instax UP! ยังสามารถแปลงภาพปรินต์ instax เป็นไฟล์ดิจิทัลได้อย่างง่ายดายผ่านการสแกนภาพปรินต์รวมถึงกรอบภาพ โดยยังได้โทนสีอันนุ่มนวลเป็นเอกลักษณ์ของ instax แอปนี้สามารถเชื่อมต่อกับแอปของ Link 3 ได้ จึงส่งภาพปรินต์ instax จากแอปไปยัง instax UP! เพื่อเก็บไฟล์ในรูปแบบดิจิทัลได้

instax mini Evo รุ่นพิเศษฉลองครบรอบ 90 ปี

กล้อง instax mini Evo รุ่นพิเศษฉลองครบรอบ 90 ปี ของฟูจิฟิล์ม

นอกจากนี้ ฟูจิฟิล์มยังได้เปิดตัวกล้อง instax mini Evo FUJIFILM 90th Anniversary Special Kit รุ่นลิมิเต็ดเพื่อฉลองครบรอบ 90 ปีของบริษัท โดยมีจำนวนจำกัดเพียง 30,000 เครื่องทั่วโลก ตัวกล้องมีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีทอง TITANIUM GOLD และสีเงิน DARK SILVER พร้อมอุปกรณ์เสริมสุดพิเศษ เช่น ฝาปิดเลนส์ สายคล้อง และเคสกล้อง

mini Evo เป็นกล้องอินสแตนท์ไฮบริดที่ผสานเทคโนโลยีดิจิทัล รองรับการใช้ฟิล์มขนาดมินิที่เปิดตัวในปี 2021 ตัวกล้องมาพร้อมรูปแบบเลนส์ 10 แบบ เช่น Soft Focus และ Light Leak รวมถึงรูปแบบฟิล์ม 10 แบบ เช่น Monochrome และ Retro ซึ่งผู้ใช้สามารถนำทั้งสองเอฟเฟกต์มาใช้ร่วมกันเพื่อถ่ายทอดภาพถ่ายได้ถึง 100 แบบ

instax mini Link3 จะเริ่มวางจำหน่ายในประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 28 สิงหาคม 2567 ราคา 4,490 บาท ส่วนกล้อง instax mini Evo รุ่นพิเศษจะวางจำหน่ายในเร็วๆ นี้ ผู้สนใจสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดได้ทางช่องทางโซเชียลมีเดียของ Instax Thailand

ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ Google News
ช่องทางโซลเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok

Blogger สาย Multi Function ตามติดเทคโนโลยีมือถือ, แท็บเล็ต, แอพ, เกมคอนโซล, โลกโซเชียล และจักรยาน