Honda ประเทศไทย ประกาศ เปิดจอง สิทธิ์เป็นเจ้าของ Honda Civic ใหม่ เจเนอเรชันที่ 11 ตั้งแต่วันที่ 1-22 สิงหาคม 2567 โดยจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 23 สิงหาคม 2567 พร้อมกันทั้งที่งาน Big Motor Sale 2024 และโชว์รูม Honda ทั่วประเทศ รถยนต์รุ่นนี้มาพร้อมการอัปเกรดดีไซน์และเทคโนโลยีใหม่ๆ มากมาย
ดีไซน์ภายนอกสปอร์ตโฉบเฉี่ยว
Honda Civic ใหม่ ได้รับการอัปเดตดีไซน์ภายนอกให้ดูสปอร์ตและทันสมัยยิ่งขึ้น โดดเด่นด้วยกระจังหน้าและกันชนหน้าดีไซน์ใหม่ที่เพิ่มความสปอร์ต ไฟท้าย LED รมดำที่เสริมเอกลักษณ์ ทำให้รถดูมีเสน่ห์และโดดเด่นบนท้องถนน การปรับปรุงดีไซน์ครั้งนี้ไม่เพียงแต่เพิ่มความสวยงามเท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านอากาศพลศาสตร์อีกด้วย
นอกจากนี้ รุ่น e:HEV RS ยังมาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว Matte Black ดีไซน์ใหม่ ที่ช่วยเสริมลุคสปอร์ตให้โดดเด่นยิ่งขึ้น ในขณะที่รุ่น EL+ ได้เพิ่มขนาดล้ออัลลอยเป็น 17 นิ้ว ซึ่งช่วยเพิ่มความสง่างามและความมั่นคงในการขับขี่ Honda ยังเพิ่มทางเลือกสีใหม่ให้กับลูกค้า โดยรุ่น EL+ และ e:HEV EL+ มีสีน้ำเงินแคนยอนริเวอร์ (เมทัลลิก) ให้เลือก ในขณะที่รุ่น e:HEV RS มีสีแดงอิกไนต์ (เมทัลลิก) เป็นตัวเลือกพิเศษ
ภายในกว้างขวางพร้อมเทคโนโลยีทันสมัย
ห้องโดยสารของ Civic ใหม่ ยังคงความกว้างขวางสะดวกสบาย แต่เพิ่มความทันสมัยด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ มากมาย ระบบ Google built-in ที่ติดตั้งมาในทุกรุ่นย่อยช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเข้าถึงแอปและบริการของ Google ได้โดยตรงผ่านหน้าจอระบบสัมผัสขนาด 9 นิ้ว นอกจากนี้ยังรองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย ทำให้การเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนเป็นเรื่องง่าย
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบระบบเสียงคุณภาพสูง รุ่น e:HEV RS มาพร้อมระบบเครื่องเสียงพร้อมลำโพง BOSE 12 ตำแหน่ง ที่ให้เสียงคุณภาพระดับพรีเมียม ทุกรุ่นยังได้รับการติดตั้งช่องเชื่อมต่อ USB Type C 4 ช่อง แบ่งเป็น 2 ช่องด้านหน้าและ 2 ช่องด้านหลัง เพื่อความสะดวกในการชาร์จอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ นอกจากนี้ Honda ยังเพิ่มความสะดวกสบายด้วยเบาะนั่งด้านหลังแบบแยกพับ 60:40 และช่องปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนหลังในทุกรุ่น ทำให้การเดินทางไกลสะดวกสบายยิ่งขึ้น
ขุมพลังให้เลือก 2 แบบ
Honda Civic ใหม่ มีให้เลือก 2 ระบบขับเคลื่อน เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของผู้ใช้ ระบบแรกคือ ระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV ที่ผสานการทำงานระหว่างมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัวกับเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว ระบบนี้ให้แรงบิดสูงสุดถึง 315 นิวตัน-เมตร ทำให้การเร่งทำได้อย่างฉับไว และยังประหยัดน้ำมันได้ถึง 25 กิโลเมตร/ลิตร สามารถขับได้ไกลถึง 800 กิโลเมตรด้วยน้ำมันเต็มถัง
อีกทางเลือกคือเครื่องยนต์เบนซิน VTEC TURBO 1.5 ลิตร ที่ให้กำลังสูงสุด 178 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 240 นิวตัน-เมตร ที่ 1,700 – 4,500 รอบต่อนาที ขุมพลังนี้ให้อัตราเร่งที่ดีและความรู้สึกสปอร์ตในการขับขี่ โดยยังคงรักษาอัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีที่ 17.2 กิโลเมตร/ลิตร ทั้งสองระบบขับเคลื่อนนี้ช่วยให้ Civic ใหม่สามารถตอบสนองความต้องการได้ทั้งในแง่ของสมรรถนะและประสิทธิภาพการใช้พลังงาน
เทคโนโลยีความปลอดภัยครบครัน
ความปลอดภัยเป็นหนึ่งในจุดเด่นของ Honda Civic ใหม่ โดยทุกรุ่นย่อยมาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัย Honda SENSING ที่ได้รับการพัฒนาประสิทธิภาพการทำงานให้ดียิ่งขึ้น ระบบนี้ประกอบด้วยฟีเจอร์ความปลอดภัยหลายอย่าง เช่น ระบบเตือนและช่วยเหลือการชนด้านหน้า ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน และระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุและเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ขับขี่
นอกจากนี้ ในรุ่น e:HEV EL+ และ e:HEV RS ยังได้เพิ่มเติมเซนเซอร์กะระยะหน้า 4 จุด และหลัง 4 จุด ช่วยให้การจอดรถและการเคลื่อนที่ในพื้นที่แคบเป็นเรื่องง่ายขึ้น Honda ยังเพิ่มโหมดการขับขี่แบบ Individual ในรุ่น e:HEV ซึ่งช่วยให้ผู้ขับสามารถปรับแต่งการตอบสนองของรถยนต์ได้ตามความต้องการ ทำให้การขับขี่มีความยืดหยุ่นและเป็นส่วนตัวมากขึ้น ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจของ Honda ในการพัฒนาระบบความปลอดภัยและการควบคุมรถให้ตอบโจทย์ผู้ใช้มากที่สุด
ราคาและการจำหน่าย
Honda จะประกาศราคาอย่างเป็นทางการของ Civic ใหม่ในวันที่ 23 สิงหาคม 2567 แต่ได้เปิดเผยราคาประมาณการไว้เพื่อให้ลูกค้าได้พิจารณาเบื้องต้น โดยรุ่น e:HEV RS ซึ่งเป็นรุ่นท็อปมีราคาประมาณ 1,23X,XXX บาท รุ่น e:HEV EL+ ราคาประมาณ 1,09X,XXX บาท และรุ่น EL+ ราคาประมาณ 1,03X,XXX บาท ทั้งนี้ ราคาดังกล่าวยังไม่รวมราคาสีพิเศษ (มุก) ซึ่งอาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
ผู้สนใจสามารถจองสิทธิ์เป็นเจ้าของ Honda Civic ใหม่ ได้ตั้งแต่วันที่ 1-22 สิงหาคม 2567 เปิดจอง แล้วที่โชว์รูม Honda ทั่วประเทศ โดย Honda มีข้อเสนอพิเศษสำหรับลูกค้าที่จองและรับรถตั้งแต่วันที่ 23 สิงหาคม ถึง 31 ตุลาคม 2567 ด้วยการมอบบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 5,000 บาท นอกจากนี้ยังมีข้อเสนอดอกเบี้ยพิเศษสำหรับลูกค้าและครอบครัวที่เป็นเจ้าของรถยนต์ Honda อยู่แล้ว รวมถึงแคมเปญ “Honda Happy Trade-in” สำหรับลูกค้าที่ต้องการเปลี่ยนรถเก่าเป็นรถใหม่