ในตอนนี้กระแสความสนใจของ iPhone 16 ที่กำลังจะเปิดตัวในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ อาจจะดูไม่ได้หวือหวามากนัก เนื่องจากข้อมูลที่หลุดออกมา ดูเหมือนว่าปีนี้จะมีการอัปเกรดที่ไม่ได้ก้าวกระโดดมากนัก แต่นักวิเคราะห์ชั้นนำกลับมองข้ามไปยังปีหน้าด้วยความคาดหวังที่สูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ iPhone 17 Air ที่คาดว่าจะเป็นความหวังใหม่ของแอปเปิลในการกระตุ้นยอดขายและสร้างความตื่นเต้นให้กับวงการสมาร์ทโฟนอีกครั้งในปี 2025
แม้ว่า iPhone 16 ที่กำลังจะเปิดตัวในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าจะมีการอัปเกรดที่น่าสนใจ แต่ก็ยังไม่ถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ตามข่าวลือ iPhone 16 และ 16 Plus จะมาพร้อมกับระบบกล้องหลังใหม่ที่สามารถถ่ายวิดีโอแบบ Spatial สำหรับ Apple Vision Pro ได้ และจะมีปุ่ม Action Button เช่นเดียวกับรุ่น Pro ปีที่แล้ว ส่วนชิปประมวลผลจะเป็น A18 พร้อม RAM 8GB สำหรับทุกรุ่น โดยรุ่น Pro จะมีชิปที่แรงกว่า นอกจากนี้ iPhone 16 Pro และ Pro Max จะมีหน้าจอใหญ่ขึ้นเป็น 6.3 นิ้วและ 6.9 นิ้วตามลำดับ พร้อมรองรับ Wi-Fi 7 และมีกล้องเพอริสโคปซูม 5 เท่าบนรุ่น Pro ขนาดเล็ก
Jeff Pu นักวิเคราะห์ชื่อดังได้เปิดเผยข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับแผนการของแอปเปิลสำหรับ iPhone รุ่นปี 2025 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง iPhone 17 Air หรือที่บางคนเรียกว่า iPhone 17 Slim ซึ่งคาดว่าจะเป็นรุ่นใหม่ที่มาแทนที่ iPhone 17 Plus โดยจะวางตำแหน่งอยู่ระหว่างรุ่นพื้นฐานและรุ่น Pro มีจุดเด่นหลักคือดีไซน์ที่บางเฉียบกว่าไอโฟนทุกรุ่นที่เคยมีมา นับเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่อาจดึงดูดผู้บริโภคได้อย่างมาก
นอกจาก iPhone 17 Air แล้ว ในไลน์อัพ iPhone 17 ทั้งหมดยังคาดว่าจะมาพร้อมกับการอัปเกรดที่น่าสนใจหลายประการ อาทิ การปรับปรุงดีไซน์ใหม่ทั้งหมด กล้องหน้าความละเอียด 24 ล้านพิกเซลสำหรับทุกรุ่น และสำหรับรุ่น Pro จะมีกล้องเพอริสโคปความละเอียด 48 ล้านพิกเซลที่ให้ประสิทธิภาพการซูมออปติคัลที่ดีขึ้น รวมถึง Dynamic Island ที่มีขนาดเล็กลงและในรุ่น Pro Max และใน iPhone 17 รุ่น Pro จะมี RAM ขนาด 12GB
ปัจจัยสำคัญอีกประการ ที่อาจช่วยกระตุ้นยอดขาย iPhone 17 คือการที่ผู้ใช้ iPhone 12 จำนวนมาก อาจพร้อมที่จะเปลี่ยนเครื่องใหม่ เนื่องจาก iPhone 12 ถือเป็นรุ่นที่สร้างยอดขายทะลุเป้าด้วยฟีเจอร์สำคัญอย่างดีไซน์ใหม่ รองรับ 5G และ MagSafe ซึ่งตามสถิติพบว่าผู้ใช้ส่วนใหญ่มักเปลี่ยนโทรศัพท์ทุก 3 ปี ดังนั้น ช่วงเวลาของ iPhone 17 จึงอาจเป็นจังหวะที่เหมาะสมสำหรับการอัปเกรดของผู้ใช้กลุ่มนี้
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าความคาดหวังต่อ iPhone 17 จะสูง แต่ก็ยังมีเวลาอีกกว่าหนึ่งปีก่อนที่แอปเปิลจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดต่างๆ ได้อีก ในขณะเดียวกัน ผู้ที่สนใจซื้อ iPhone ใหม่ในปัจจุบันก็ยังมีทางเลือกในการพิจารณารุ่นเก่าที่มีราคาย่อมเยากว่าได้เช่นกัน
ต้องมารอดูกันว่า iPhone 17 Air และไลน์อัพใหม่ทั้งหมดของไอโฟนในปี 2025 จะสามารถเป็นความหวังของแอปเปิลในการฟื้นฟูยอดขายและสร้างความตื่นเต้นให้กับตลาดสมาร์ทโฟนอีกครั้งได้หรือไม่ ด้วยการผสมผสานระหว่างนวัตกรรมด้านดีไซน์ การอัปเกรดกล้อง และประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้น และด้วยระยะเวลาอีกปีกว่าๆ ความสามารถของ Apple Intelligence ก็น่าจะได้รับการพัฒนาให้ใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้น
เพราะถ้าหากมองไปทางคู่แข่งทางฟากฝั่งของ Android ที่นอกจากทางด้านของฮาร์ดแวร์ที่เริ่มเปิดตลาดสมาร์ทโฟนจอพับได้มาก่อนหลายปี (แต่แอปเปิลยังอยู่ในขั้นของการพัฒนา) รวมถึงฟีเจอร์ด้าน Generative AI ที่นำหน้าไปก่อนแล้ว ต้องรอดูว่าทาง Apple เองจะพัฒนาไอโฟนของตนให้น่าสนใจและตื่นเต้นกว่าที่ผ่านมาได้มากน้อยเพียงใด
ปี 2025 น่าจะเป็นปีที่นวัตกรรมของสมาร์ทโฟน จะก้าวไปอีกขั้นและมีความน่าตื่นเต้นกับความสามารถที่ชาญฉลาด และตัวเครื่องที่มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน
อ้างอิงข้อมูลจาก : 9to5Mac
ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ Google News
ช่องทางโซลเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok