ในขณะที่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้า (EV) กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในประเทศไทย MSI แบรนด์ชั้นนำระดับโลกที่เป็นที่รู้จักในวงการเกมมิ่ง ได้ก้าวเข้าสู่ตลาดพลังงานสีเขียวด้วยการเปิดตัวเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะรุ่นใหม่ล่าสุด “MSI EV Premium” และ “EV Life” ในประเทศไทย ผลิตภัณฑ์นี้ไม่เพียงแต่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ MSI ในการพัฒนาเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แต่ยังตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นของผู้ใช้รถ EV ในประเทศอีกด้วย
เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะของ MSI โดดเด่นด้วยคุณสมบัติที่ทันสมัยและการออกแบบที่ใส่ใจในรายละเอียด ผลิตในไต้หวันโดยใช้วัสดุคุณภาพสูง เครื่องชาร์จนี้ได้รับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยระดับสากล รวมถึง TISI และ IEC นอกจากนี้ยังมีระดับการป้องกัน IP55 และ IK08 ทำให้สามารถติดตั้งได้ทั้งภายในและภายนอกอาคาร ที่น่าสนใจคือ เครื่องชาร์จของ MSI เป็นเครื่องแรกของโลกที่ได้รับการรับรองให้ใช้งานได้ที่ระดับความสูงถึง 3,000 เมตร
คุณสมบัติเด่นที่น่าสนใจของเครื่องชาร์จ MSI EV Premium ได้แก่ หน้าจอแสดงผลขนาด 7 นิ้วที่แสดงสถานะการชาร์จอย่างชัดเจน และระบบยืนยันตัวตนด้วยบัตร RFID ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน ในขณะที่ทั้งรุ่น EV Premium และ EV Life สามารถใช้งานร่วมกับแอปพลิเคชัน “EV Life” บนมือถือ ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถควบคุมและตรวจสอบการชาร์จได้จากระยะไกล
MSI ไม่เพียงแต่นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพสูง แต่ยังแสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ในการสร้างอนาคตที่ยั่งยืน บริษัทมุ่งมั่นที่จะลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิลและส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด โดยการผสานรวมเทคโนโลยี AI เข้ากับผลิตภัณฑ์ด้านพลังงานใหม่และการกักเก็บพลังงาน
สำหรับผู้ที่สนใจ เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะของ MSI ทั้งรุ่น EV Life และ EV Premium สามารถสั่งซื้อได้แล้ววันนี้ผ่านเว็บไซต์ทางการของ MSI ประเทศไทย
สรุปสเปคเครื่องชาร์จ MSI EV Premium และ EV Life
- กำลังไฟเข้า: 1 เฟส 200 – 240 VAC
- กำลังชาร์จ: 3.2 – 14.4 kW
- กระแสชาร์จ: 1 เฟส 16 – 60 A
- ประเภทสายชาร์จ: Type 2 (IEC 62196) / NACS (เลือกได้)
- ความยาวสาย: 5 ม. / 7.5 ม. (เลือกได้)
- การเชื่อมต่อ: Bluetooth (EV Life), LAN, WIFI, 4G LTE (เลือกได้สำหรับ EV Premium)
- การป้องกัน: IP55, IK08; IP67 (สายชาร์จ)
- อุณหภูมิใช้งาน: -30 ถึง 50 °C
- การติดตั้ง: ติดผนังหรือขาตั้ง (เลือกได้)
ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ Google News
ช่องทางโซลเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok