ORA 07 รถยนต์ไฟฟ้าสปอร์ตคูเป้ ดีไซน์โดดเด่นและสมรรถนะที่น่าประทับใจ แต่หลายคนอาจยังลังเลระหว่างรุ่น LONG RANGE และ LONG RANGE ULTRA ว่ารุ่นไหนจะเหมาะสมกับการใช้งานของตนมากกว่ากัน เรามาลองเปรียบเทียบจุดเด่นและข้อสังเกตของทั้งสองรุ่นอย่างละเอียด พร้อมวิเคราะห์ความคุ้มค่าในแง่มุมต่างๆ เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกซื้อได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น
สมรรถนะและระยะทางวิ่ง
ทั้งรุ่น LONG RANGE และ LONG RANGE ULTRA มีสมรรถนะที่เท่ากัน โดยมีกำลังมอเตอร์ไฟฟ้าสูงสุด 150 กิโลวัตต์ (204 แรงม้า) และแรงบิดสูงสุด 340 นิวตัน-เมตร สามารถวิ่งได้ไกลสูงสุด 640 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง (ตามมาตรฐาน NEDC) ซึ่งถือว่าเป็นระยะทางที่ค่อนข้างไกลเมื่อเทียบกับรถยนต์ไฟฟ้าในระดับราคาเดียวกัน
ด้วยสมรรถนะที่เท่ากันนี้ ทั้งสองรุ่นจึงเหมาะสำหรับการใช้งานในเมืองและการเดินทางระยะไกล โดยไม่ต้องกังวลเรื่องแบตเตอรี่หมดกลางทาง ผู้ใช้สามารถขับขี่ได้อย่างมั่นใจในทุกเส้นทาง นอกจากนี้ ทั้งสองรุ่นยังมาพร้อมระบบ Intelligent One Pedal ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเร่งหรือชะลอความเร็วได้เพียงคันเร่งเดียว ซึ่งช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่และช่วยประหยัดพลังงานได้อีกด้วย
ดีไซน์ภายนอกและภายใน
ในด้านรูปลักษณ์ภายนอก ทั้งสองรุ่นมีดีไซน์ที่เหมือนกัน โดดเด่นด้วยรูปทรงซูเปอร์สตรีมไลน์ที่ได้แรงบันดาลใจจากการไหลของน้ำ พร้อมล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว และยางขนาด 235/50 R18 ตัวรถมีความยาว 4,871 มม. กว้าง 1,862 มม. และสูง 1,500 มม. ซึ่งให้ความรู้สึกสปอร์ตและหรูหราในเวลาเดียวกัน
ทั้งสองรุ่นมาพร้อมไฟหน้า LED ทรงกลมที่ให้ความสว่างชัดเจน และมีระบบไฟอัจฉริยะต่างๆ เช่น ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ และระบบปรับไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติ นอกจากนี้ยังมีหลังคาแก้วแบบพาโนรามิคขนาดใหญ่ที่ช่วยให้ห้องโดยสารดูโปร่งและกว้างขวางขึ้น
ส่วนภายในห้องโดยสาร รุ่น LONG RANGE ULTRA มีความหรูหราและสะดวกสบายมากกว่า โดยมีเบาะนั่งคนขับพร้อมระบบ Memory Seat และ Welcome Seat รวมถึงระบบระบายอากาศและระบบเบาะนวดไฟฟ้าสำหรับเบาะคู่หน้า ส่วนในรุ่น LONG RANGE ธรรมดาจะมีเฉพาะเบาะนั่งคนขับ ปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง
นอกจากนี้ รุ่น LONG RANGE ULTRA ยังมีประตูท้ายเปิด-ปิดไฟฟ้าพร้อมระบบแฮนด์ฟรี และสปอยเลอร์หลังไฟฟ้า ซึ่งเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานมากขึ้น
ระบบความบันเทิงและการเชื่อมต่อ
ทั้งสองรุ่นมาพร้อมหน้าจอกลางขนาด 12.3 นิ้ว และหน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ขนาด 10.25 นิ้ว แต่รุ่น LONG RANGE ULTRA มีหน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่บนกระจกด้านหน้า (Head-up display) เพิ่มเติม ช่วยให้ผู้ขับขี่รับข้อมูลได้สะดวกยิ่งขึ้น โดยไม่ต้องละสายตาจากถนน
ระบบความบันเทิงของทั้งสองรุ่นรองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สายทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto พร้อมระบบนำทาง และการแสดงข้อมูลการขับขี่ต่างๆ นอกจากนี้ยังมีระบบชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย กำลังสูงถึง 50W ช่วยให้การชาร์จสมาร์ตโฟนสะดวกและรวดเร็ว
พร้อมทั้งในรุ่น LONG RANGE ULTRA ยังมาพร้อมลำโพง Infinity® 11 ตำแหน่ง พร้อมระบบแอมพลิฟายเออร์อิสระที่ให้คุณภาพเสียงระดับสูง มอบประสบการณ์ความบันเทิงกระตุ้นโสตประสาทแบบรอบทิศทาง อีกทั้งยังมาพร้อมกับระบบปรับระดับเสียงอัตโนมัติตามความเร็ว ทำให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารเพลิดเพลินไปกับเสียงดนตรีได้อย่างไม่มีสะดุด ลื่นไหล เพิ่มความสนุกในทุกการเดินทาง
ระบบความปลอดภัยและการช่วยเหลือผู้ขับขี่
ทั้งสองรุ่นมีระบบความปลอดภัยและการช่วยเหลือผู้ขับขี่ที่ครบครัน เช่น ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมการช่วยเข้าโค้งอัจฉริยะ (Intelligent ACC) ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน (LKA) และระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติบนทางตรงและทางแยก (AEBI)
อย่างไรก็ตาม รุ่น LONG RANGE ULTRA ยังมีเซนเซอร์กะระยะ 6 จุดทั้งด้านหน้าและหลัง รวม 12 ตำแหน่ง ที่จะช่วยให้การประมวลผลข้อมูลของรถยนต์ทั้งด้านหน้าและด้านหลังของรถมีความแม่นยำมากยิ่งขึ้น พร้อมฟีเจอร์เพิ่มเติมที่น่าสนใจ เช่น ระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติ 3 รูปแบบ (IIP) ซึ่งสามารถช่วยจอดรถทั้งแบบขนาน แนวตั้ง และแนวเฉียง และระบบช่วยถอยหลังอัตโนมัติ (ARA) ที่สามารถบันทึกเส้นทางและถอยหลังกลับได้ในระยะ 50 เมตรโดยอัตโนมัติ ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกในการจอดรถและการขับขี่ในพื้นที่แคบได้เป็นอย่างดี
ราคาและความคุ้มค่า
ORA 07 LONG RANGE มีราคาจำหน่ายที่ 1,299,000 บาท ในขณะที่รุ่น LONG RANGE ULTRA มีราคา 1,399,000 บาท ซึ่งต่างกันกว่า 100,000 บาท โดยเงินส่วนต่างนี้จะได้อุปกรณ์และฟีเจอร์เพิ่มเติมหลายรายการ เช่น ระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติ เบาะนวดไฟฟ้า หน้าจอ Head-up display และระบบเครื่องเสียง Infinity®
ดังนั้นควรพิจารณาว่าฟีเจอร์เพิ่มเติมเหล่านี้มีความจำเป็นต่อการใช้งานของคุณหรือไม่ หากต้องการความสะดวกสบายและฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครัน รุ่น LONG RANGE ULTRA อาจเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่ากว่า โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ต้องขับรถเป็นประจำหรือต้องการความสะดวกสบายสูงสุด
อย่างไรก็ตาม หากต้องการประหยัดงบประมาณ รุ่น LONG RANGE ก็ยังคงมอบสมรรถนะและคุณสมบัติพื้นฐานที่ครบถ้วน โดยเฉพาะในด้านสมรรถนะและระยะทางวิ่งที่เท่ากับรุ่น LONG RANGE ULTRA ซึ่งอาจเพียงพอสำหรับผู้ใช้งานทั่วไปที่ไม่ต้องการฟีเจอร์พิเศษมากนัก
สรุปแล้ว การเลือกระหว่าง ORA 07 LONG RANGE และ LONG RANGE ULTRA ขึ้นอยู่กับความต้องการ ลักษณะการใช้งาน และงบประมาณของแต่ละบุคคล ทั้งสองรุ่นมีจุดเด่นที่น่าสนใจ โดยรุ่น LONG RANGE ULTRA เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกสบายและเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยมากขึ้น รวมถึงระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ที่ครบครัน ในขณะที่รุ่น LONG RANGE เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการประสิทธิภาพพื้นฐานที่ดีในราคาที่ประหยัดกว่า
นอกจากรุ่น LONG RANGE และ LONG RANGE ULTRA แล้ว ORA 07 ยังมีรุ่น PERFORMANCE ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน รุ่นนี้มาพร้อมกับมอเตอร์ไฟฟ้าแบบคู่ที่ทรงพลังกว่า โดยให้กำลังสูงสุดถึง 300 กิโลวัตต์ (408 แรงม้า) และแรงบิดสูงสุด 680 นิวตัน-เมตร พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ (4WD) แม้จะมีระยะทางวิ่งที่น้อยกว่าเล็กน้อยที่ 550 กิโลเมตรต่อการชาร์จ รุ่น PERFORMANCE ยังมาพร้อมล้ออัลลอยขนาดใหญ่ขึ้นที่ 19 นิ้ว และยางขนาด 235/45 R19 เพื่อเพิ่มสมรรถนะในการยึดเกาะถนน โดยมีราคาจำหน่ายที่ 1,499,000 บาท เป็นอีกตัวเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงสุดและให้ประสบการณ์ขับขี่ในสมรรถนะที่เหนือกว่า
สำหรับ ORA 07 รุ่น LONG RANGE ULTRA จำหน่ายแล้วในราคา 1,399,000 บาท มาพร้อมกับโปรโมชันสุดพิเศษมากมายจากทาง เกรท วอล มอเตอร์ ระยะเวลาโปรโมชันตั้งแต่ 1 – 31 สิงหาคม 2567 รวมมูลค่าสูงสุดถึง 180,000 บาท ได้แก่
- ดอกเบี้ยพิเศษ 0.99% เมื่อดาวน์ 25% ผ่อน 48 เดือน* มูลค่าสูงสุดไม่เกิน 62,000 บาท
- ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง นาน 1 ปีเต็ม มูลค่าสูงสุดไม่เกิน 25,000 บาท (ข้อกำหนดและเงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด)
- ฟรี GWM โฮมชาร์จเจอร์ พร้อมติดตั้งในระยะสายไฟยาวไม่เกิน 15 เมตร 1 ครั้ง จากตู้ควบคุมไฟฟ้าในบ้าน (ตู้เมน) (ไม่รวมแท่นชาร์จ) มูลค่าสูงสุดไม่เกิน 60,000 บาท
- ฟรี ค่าอะไหล่และค่าแรงบำรุงรักษาตามระยะทาง (GWM Pro Service Inclusive – GPSI) สูงสุดไม่เกิน 5 ครั้ง ภายในระยะเวลา 5 ปี หรือระยะทาง 75,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน และไม่รวมอะไหล่สิ้นเปลือง) มูลค่า 13,000 บาท**
- ฟรี บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน (Roadside Assistance) ตลอด 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 5 ปี มูลค่า 10,000 บาท**
- ฟรี บริการระบบตรวจสอบและสั่งการรถผ่านอินเทอร์เน็ต* (Telematic Service) พร้อมแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตภายในรถ (Internet in Vehicle) ระยะเวลา 3 ปี มูลค่า 10,500 บาท
- ฟรี ม่านบังแดดหลังคา GWM มูลค่า 1,200 บาท
- ฟรี กรอบป้ายทะเบียนและพรม GWM มูลค่ารวม 2,000 บาท
- ด้านการรับประกันคุณภาพ ORA 07 รุ่น LONG RANGE ULTRA มาพร้อมการรับประกันคุณภาพรถใหม่ ครอบคลุมระยะเวลา 5 ปี หรือระยะทาง 150,000 กิโลเมตร** (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) และการรับประกันแบตเตอรี่ EV เป็นระยะเวลา 8 ปี หรือ 180,000 กิโลเมตร** (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
* เนื่องจากสถานการณ์ดอกเบี้ยลอยตัวในปัจจุบัน บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ให้อัตราดอกเบี้ยพิเศษ เฉพาะเมื่อจองและส่งเอกสารทำสัญญาตามเงื่อนไขที่บริษัทฯ กำหนดเท่านั้น หลังจากช่วงเวลาดังกล่าว อัตราดอกเบี้ยพิเศษจะเป็นไปตามที่บริษัทฯ และสถาบันการเงินที่ร่วมรายการกำหนด
** เงื่อนไขการให้บริการเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด ดูรายละเอียดได้ที่ GWM Thailand – Service