วีซ่า เปิดตัวนวัตกรรมล่าสุด “Visa Flexible Credential” ที่จะปฏิวัติวงการบัตรเครดิตและเดบิต โดยให้ผู้ถือบัตรสามารถใช้ข้อมูลชุดเดียวในการเข้าถึงวิธีการชำระเงินที่หลากหลาย นวัตกรรมนี้ไม่เพียงแต่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคยุคดิจิทัล แต่ยังเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาระบบการชำระเงินให้สะดวก ปลอดภัย และยืดหยุ่นมากขึ้น
หนึ่งบัตร หลากหลายทางเลือกการชำระเงิน
Flexible Credential เป็นโซลูชันของวีซ่า ที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน โดยการศึกษาของวีซ่าพบว่า มากกว่าครึ่งของผู้ใช้บัตรชำระเงินต้องการเข้าถึงหลายบัญชีโดยใช้ข้อมูลตัวตนเพียงชุดเดียว นวัตกรรมนี้ช่วยให้ผู้ถือบัตรสามารถเลือกวิธีการชำระเงินที่หลากหลายได้จากบัตรใบเดียว ไม่ว่าจะเป็นการใช้บัตรเดบิต บัตรเครดิต หรือแม้แต่การเลือกผ่อนชำระแบบ 4 งวด
นอกจากนี้ ผู้ถือบัตรยังสามารถใช้บริการซื้อก่อนจ่ายทีหลัง (Buy Now, Pay Later) หรือแม้แต่การชำระด้วยคะแนนสะสมได้อย่างง่ายดาย โดยใช้เพียงชุดข้อมูลยืนยันผู้ใช้ของวีซ่าเพียงชุดเดียว ความยืดหยุ่นนี้ไม่เพียงแต่เพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้บริโภค แต่ยังช่วยให้พวกเขาสามารถจัดการการเงินของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
การขยายตัวในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
วีซ่าได้เริ่มนำร่องการใช้งาน Flexible Credential ในหลายประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกแล้ว โดยในญี่ปุ่น บริษัท ซูมิโตโม มิตซุย การ์ด (Sumitomo Mitsui Card Company: SMCC) เป็นสถาบันการเงินแห่งแรกที่นำโซลูชันนี้มาใช้ภายใต้ชื่อ “โอลีฟ” (Olive) ปัจจุบัน บริการนี้มีให้ใช้งานแล้วในฮ่องกง ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม
การขยายตัวอย่างรวดเร็วนี้แสดงให้เห็นถึงความต้องการของตลาดและความพร้อมของผู้บริโภคในการรับเทคโนโลยีการชำระเงินรูปแบบใหม่ วีซ่ามีแผนที่จะเปิดตัว Flexible Credential ในตลาดอื่นๆ ของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเพิ่มเติมในปีนี้ ซึ่งจะช่วยขยายฐานผู้ใช้งานและสร้างมาตรฐานใหม่ในอุตสาหกรรมการชำระเงิน
ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการเงินและการค้า
การเปิดตัว Flexible Credential ของวีซ่า ไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคเท่านั้น แต่ยังมีนัยสำคัญต่อภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมการเงินโดยรวม สำหรับร้านค้า นวัตกรรมนี้เปิดโอกาสให้พวกเขาสามารถนำเสนอทางเลือกการชำระเงินที่หลากหลายมากขึ้นแก่ลูกค้า โดยไม่จำเป็นต้องเพิ่มความซับซ้อนในระบบการรับชำระเงิน
ในส่วนของสถาบันการเงิน Flexible Credential ช่วยให้พวกเขาสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ยืดหยุ่นและตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้มากขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องออกบัตรหลายใบให้กับลูกค้าคนเดียวกัน นอกจากนี้ ยังช่วยลดต้นทุนในการบริหารจัดการบัตรและเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการ
ความปลอดภัยและการคุ้มครองข้อมูล
ในยุคที่ความปลอดภัยของข้อมูลเป็นประเด็นสำคัญ วีซ่าได้ให้ความสำคัญกับการปกป้องข้อมูลของผู้บริโภคเป็นอย่างมาก Flexible Credential ใช้เทคโนโลยีโทเค็น (tokenization) ซึ่งเป็นวิธีการเข้ารหัสข้อมูลบัญชีผู้ถือบัตร ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการทำธุรกรรม
เทคโนโลยีนี้ไม่เพียงแต่ช่วยป้องกันการรั่วไหลของข้อมูล แต่ยังให้อำนาจแก่ผู้บริโภคในการควบคุมว่าใครสามารถเข้าถึงข้อมูลของพวกเขาได้ ผู้ใช้งานสามารถกำหนดว่าข้อมูลของตนเองจะถูกแชร์กับใครและที่ไหน รวมถึงสามารถยกเลิกการแชร์ข้อมูลได้ด้วยตนเองผ่านแอปพลิเคชันของธนาคาร
ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีการเงินอย่าง Visa Flexible Credential กำลังเปลี่ยนโฉมหน้าของอุตสาหกรรมการชำระเงิน โดยมอบประสบการณ์ที่สะดวก ปลอดภัย และยืดหยุ่นให้กับผู้บริโภค ในขณะเดียวกันก็เปิดโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ให้กับร้านค้าและสถาบันการเงิน การพัฒนานี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของวีซ่าในการสร้างระบบนิเวศทางการเงินที่ครอบคลุมและยั่งยืนสำหรับทุกคน
ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ Google News
ช่องทางโซลเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok
