เสียวหมี่ รายได้ เพิ่มขึ้น 32% ผลจากการเข้าสู่ตลาด ยานยนต์ไฟฟ้า

เสียวหมี่ (Xiaomi) ประสบความสำเร็จในการก้าวกระโดดเข้าสู่ตลาด ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) อย่างน่าประทับใจ ด้วยผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2024 ของบริษัท ที่เพิ่มขึ้นเกิดคาด แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จอย่างท่วมท้นจากการขยายธุรกิจสู่วงการยานยนต์ ซึ่งไม่เพียงแต่สร้างรายได้ที่น่าตื่นตาตื่นใจ แต่ยังเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงอนาคตที่สดใสของเสียวหมี่ในตลาด EV

ผลประกอบการที่เกินความคาดหมาย

ด้วยผลประกอบการที่แข็งแกร่งในไตรมาส 2 ปี 2024 บริษัทรายงานรายได้รวมที่ 88.9 พันล้านหยวน (ประมาณ 12.46 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 32% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ตัวเลขนี้สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 85.8 พันล้านหยวน

ความสำเร็จนี้ไม่ได้มาจากธุรกิจสมาร์ทโฟนที่เป็นที่รู้จักกันดีของ เสียวหมี่ เท่านั้น แต่ยังมาจากการเข้าสู่ตลาด ยานยนต์ไฟฟ้า อีกด้วย ธุรกิจยานยนต์ของเสียวหมี่สร้าง รายได้ ถึง 6.2 พันล้านหยวน (ประมาณ 869.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในไตรมาสนี้ ซึ่งนับเป็นการเริ่มต้นที่น่าประทับใจสำหรับบริษัทที่เพิ่งเข้าสู่ตลาด EV

การเติบโตอย่างก้าวกระโดดในตลาดสมาร์ทโฟน

แม้ว่าการเข้าสู่ตลาด EV จะเป็นที่จับตามอง แต่ธุรกิจสมาร์ทโฟนของเสียวหมี่ก็ยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ในไตรมาส 2 บริษัทส่งมอบสมาร์ทโฟนได้ถึง 42.3 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้น 27.4% เมื่อเทียบกับปีก่อน ส่งผลให้เสียวหมี่ครองส่วนแบ่งตลาดถึง 14.8% ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่าประทับใจในตลาดที่มีการแข่งขันสูง

ความสำเร็จนี้เป็นผลมาจากกลยุทธ์ของเสียวหมี่ในการนำเสนอสมาร์ทโฟนที่มีประสิทธิภาพสูงในราคาที่จับต้องได้ ทำให้บริษัทสามารถแข่งขันกับแบรนด์ชั้นนำระดับโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เสียวหมี่ รายได้ รถยนต์ไฟฟ้า

ก้าวแรกที่แข็งแกร่งในตลาดยานยนต์ไฟฟ้า

การเข้าสู่ตลาดยานยนต์ไฟฟ้าของเสียวหมี่เริ่มต้นด้วยการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่น SU7 ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยมีราคาตั้งแต่ 30,800 ถึง 42,000 ดอลลาร์สหรัฐ ทำให้ได้การตอบรับจากตลาดในประเทศจีนอย่างท่วมท้น โดยมียอดสั่งจองถึง 88,898 คันภายใน 24 ชั่วโมงแรกหลังเปิดตัว

ในไตรมาส 2 ปี 2024 เสียวหมี่สามารถส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าได้ถึง 27,307 คัน และตั้งเป้าที่จะส่งมอบให้ได้ 10,000 คันต่อเดือน

ถึงแม้ว่าธุรกิจยานยนต์จะยังขาดทุนอยู่ที่ 1.8 พันล้านหยวน (ประมาณ 252 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในไตรมาสนี้ แต่ประธานบริษัท หลู่ เว่ยปิง (Lu Weibing) มั่นใจว่าธุรกิจนี้จะสามารถทำกำไรได้เมื่อการผลิตเพิ่มขึ้น โดยเสียวหมี่ตั้งเป้าที่จะส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าให้ได้ถึง 120,000 คันภายในสิ้นปีนี้

มุมมองต่ออนาคตของเสียวหมี่ในตลาด EV

การเข้าสู่ตลาดยานยนต์ไฟฟ้าของเสียวหมี่แสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ในการขยายธุรกิจและความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับแนวโน้มเทคโนโลยีล่าสุด การที่บริษัทสามารถสร้างรายได้จากธุรกิจ EV ได้อย่างรวดเร็วนั้น เป็นสัญญาณที่ดีสำหรับอนาคตของเสียวหมี่ในตลาดนี้

อย่างไรก็ตาม การแข่งขันในตลาด EV นั้นรุนแรงและมีผู้เล่นรายใหญ่หลายราย (โดยเฉพาะในประเทศจีน) คาดว่าเสียวหมี่จะต้องเผชิญกับความท้าทายในการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่ยอมรับในฐานะผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้า และการพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าให้ทัดเทียมกับคู่แข่งที่มีประสบการณ์มากกว่า

ข้อมูลจาก Neowin

Blogger สาย Multi Function ตามติดเทคโนโลยีมือถือ, แท็บเล็ต, แอพ, เกมคอนโซล, โลกโซเชียล และจักรยาน