AIS ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านบริการโรมมิ่งระหว่างประเทศ เปิดตัว “ซิมโรมมิ่ง เบอร์มงคล SIM2Fly 5G Max” ครั้งแรกในไทย เอาใจนักท่องเที่ยวสายมู พร้อมมอบเครื่องรางเทพเจ้ามังกรเขียว ปลุกเสกโดย อาจารย์คฑา ชินบัญชร เสริมดวงการเดินทาง
AIS ผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลชั้นนำของไทย ได้เปิดตัวบริการใหม่ล่าสุดเพื่อตอบโจทย์นักเดินทางและนักท่องเที่ยวสายมู กับ “ซิมโรมมิ่งเบอร์มงคล SIM2Fly 5G Max” ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของวงการโทรคมนาคมไทยที่นำเสนอซิมโรมมิ่งพร้อมเบอร์มงคล โดยมุ่งเน้นการเสริมสิริมงคลในด้านการเงิน การงาน ความรัก สุขภาพ และความปลอดภัยในการเดินทางต่างประเทศ
นางเบญจพร กำเพ็ชร หัวหน้าส่วนงานการตลาดกลุ่มลูกค้าพรีเพด AIS กล่าวว่า “ตลาดเบอร์มงคลเป็นกลุ่ม Segment ที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง แม้จะเป็นตลาดเฉพาะที่เน้นความเชื่อและศรัทธา แต่ก็เป็นโอกาสให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์ดิจิทัลที่เหนือกว่าของ AIS ด้วยเช่นกัน เราจึงได้คัดสรรเบอร์มงคลมานำเสนอเป็นซิมโรมมิ่งเบอร์มงคล SIM2Fly 5G MAX เป็นครั้งแรก เพื่อให้ลูกค้าเดินทางได้อย่างอุ่นใจด้วยเบอร์มงคลที่ใช่ พร้อมรับประสบการณ์การใช้งานดิจิทัลที่ดีที่สุด”
ซิมโรมมิ่งเบอร์มงคล SIM2Fly 5G MAX นี้ได้รับการคัดสรรเบอร์มงคลที่มีผลรวมที่มีความหมายในด้านต่างๆ พร้อมมอบประสบการณ์การใช้งานด้วยเน็ตเต็มสปีด 13GB ใช้งานได้ 10 วัน และสิทธิ์โทรออกและรับสายฟรี 10 นาที ครอบคลุมการใช้งานกว่า 33 ประเทศในเอเชียและออสเตรเลีย ในราคาเพียง 599 บาท
พิเศษสำหรับลูกค้าที่ซื้อ SIM2Fly 5G MAX ในช่วงเดือนกันยายน 2567 ถึง มกราคม 2568 จะได้รับเครื่องรางเทพเจ้ามังกรเขียวฟรี (สินค้ามีจำนวนจำกัด) ซึ่งได้รับการปลุกเสกโดย อาจารย์คฑา ชินบัญชร ณ วัดทิพยวารีวิหาร กรุงเทพฯ เพื่อเสริมความมั่นใจและสิริมงคลในการเดินทาง
AIS ยังคงตอกย้ำความเป็นที่ 1 ในด้านการให้บริการโรมมิ่งที่ครอบคลุมพื้นที่การใช้งานมากที่สุดในโลก ด้วยโครงข่ายสัญญาณที่มีคุณภาพสูงและครอบคลุมประเทศต่างๆ อย่างกว้างขวาง ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถติดต่อสื่อสารและใช้งานอินเทอร์เน็ตได้อย่างต่อเนื่องและไม่สะดุดระหว่างการเดินทาง
ลูกค้าที่สนใจสามารถหาซื้อ ซิมโรมมิ่ง เบอร์มงคล SIM2Fly 5G MAX ได้ที่ AIS Shop ทุกสาขาและช่องทางออนไลน์ “AIS official store” บน Shopee, Lazada และ TikTok สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมสามารถดูได้ที่เว็บไซต์ทางการของ AIS
ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ Google News
ช่องทางโซลเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok