ดง เหงียน ผู้สร้างเกม Flappy Bird ชื่อดัง กลับมาทวีตครั้งแรกในรอบ 7 ปี เพื่อปฏิเสธความเกี่ยวข้องกับการฟื้นคืนชีพของเกมในรูปแบบ cryptocurrency ท่ามกลางความสงสัยของแฟนเกมทั่วโลก
เกม Flappy Bird ที่เคยสร้างปรากฏการณ์ถูกลบทิ้งโดยผู้สร้างในช่วงที่กำลังได้รับความนิยมสูงสุด กลับมาอีกครั้งในรูปแบบที่ไม่คาดคิด ดง เหงียน ผู้พัฒนาเกมคนเดิมได้ออกมายืนยันว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการฟื้นคืนชีพของเกมในครั้งนี้ ซึ่งดูเหมือนจะเป็นโปรเจกต์ที่เกี่ยวข้องกับ cryptocurrency
การกลับมาของ Flappy Bird ครั้งนี้ เป็นกระแสขึ้นมาเมื่อช่วงอาทิตย์ที่แล้ว หลังจากมีการโปรโมตเกมใหม่ที่ดำเนินการโดย Flappy Bird Foundation โดยทางบริษัทอ้างว่าได้รับสิทธิ์ในการพัฒนาต่อ แต่จากการตรวจสอบพบว่าบริษัทดังกล่าวเพียงแค่จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าที่หมดอายุของ เหงียน เท่านั้น ไม่ได้มีการซื้อขายลิขสิทธิ์อย่างถูกต้อง
ดงเหงียน ได้ทวีตข้อความสั้น ๆ เพื่อยืนยันว่าไม่ได้ขายลิขสิทธิ์ Flappy Bird ให้กับใคร และไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเกมกลับมาพัฒนาใหม่ ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลที่ถูกค้นพบว่าบริษัทที่นำ Flappy Bird กลับมาเพียงแค่ใช้ประโยชน์จากเครื่องหมายการค้าที่หมดอายุเท่านั้น
การฟื้นคืนชีพของ Flappy Bird ในครั้งนี้มีความเชื่อมโยงกับ cryptocurrency และ NFT (Non-Fungible Token) อย่างชัดเจน โดยทางบริษัทได้ประกาศว่า “Flappy Bird ตำนานเกมดังจะกลับมาบินสูงกว่าเดิมบน Solana ในโลกของ Web 3.0 ศิลปิน นักพัฒนา และครีเอเตอร์สามารถสร้าง เล่น และหารายได้จาก IP ของ Flappy Bird ได้”
อย่างไรก็ตาม การกลับมาของ Flappy Bird ในรูปแบบนี้ได้สร้างความไม่พอใจให้กับแฟนเกมจำนวนมาก โดยเฉพาะเมื่อทราบว่าเป็นโปรเจกต์ที่เกี่ยวข้องกับ crypto ทำให้หลายคนออกมาวิพากษ์วิจารณ์และแสดงความไม่เห็นด้วยผ่านโซเชียลมีเดีย
แม้ว่า Flappy Bird เวอร์ชันใหม่จะมีการเพิ่มเติมฟีเจอร์ใหม่ๆ เช่น นกหลากหลายแบบ และระบบ loot box แต่ก็ไม่ได้รับการตอบรับที่ดีนัก เนื่องจากขาดการมีส่วนร่วมของผู้สร้างเกมคนดั้งเดิม รวมถึงความไร้เอกลักษณ์ดั้งเดิมของเกม จนเหมือนว่าเป็นเพียงแค่เอาชื่อเสียงในอดีตของเจ้านกตัวนี้มาหากินเท่านั้น
ความพยายามในการนำ Flappy Bird กลับมาในรูปแบบ crypto นี้ สะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มของอุตสาหกรรมเกมที่กำลังเคลื่อนตัวเข้าสู่โลกของ Web 3.0 และ blockchain อย่างไรก็ตาม การดำเนินการโดยไม่ได้รับความยินยอมจากเจ้าของผลงานเดิมอาจส่งผลเสียต่อชื่อเสียงของแบรนด์และความเชื่อมั่นของผู้เล่นในระยะยาว
ปัจจุบันทาง Flappy Bird Foundation ยังไม่มีการออกมาเคลื่อนไหวหรือให้รายละเอียดใดๆ จากเหตุการณ์ครั้งนี้
ข้อมูลจาก Forbes
ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ Google News
ช่องทางโซลเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok