Google Flood Hub

Google Flood Hub เทคโนโลยี AI ช่วยพยากรณ์และเตือนภัยน้ำท่วมล่วงหน้า

ทำความรู้จักกับ Google Flood Hub นวัตกรรม AI ที่สามารถพยากรณ์พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมล่วงหน้าได้ถึง 7 วันได้อย่างแม่นยำ เป็นอีกเครื่องมือที่ช่วยลดความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน ให้ประชาชนรวมถึงหน่วยงานรัฐรับมือกับภัยพิบัติได้อย่างทันท่วงที

ท่ามกลางสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ทวีความรุนแรงขึ้นทุกปี อุทกภัยได้กลายเป็นภัยธรรมชาติที่สร้างความเสียหายมากที่สุดทั่วโลก โดยส่งผลกระทบต่อชีวิตผู้คนกว่า 250 ล้านคนและสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจราว 50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี

ในการตอบสนองต่อวิกฤตการณ์นี้ Google ได้พัฒนาเทคโนโลยี AI ที่ชื่อว่า “Flood Hub” ขึ้น เพื่อช่วยในการพยากรณ์และเตือนภัยน้ำท่วมล่วงหน้าได้อย่างแม่นยำ ครอบคลุมพื้นที่เสี่ยงภัยใน 80 ประเทศทั่วโลก และช่วยปกป้องชีวิตผู้คนกว่า 460 ล้านคน

เทคโนโลยี AI ที่อยู่เบื้องหลัง Flood Hub

Flood Hub ใช้เทคโนโลยี AI ขั้นสูงในการประมวลผลข้อมูลจากแหล่งต่างๆ เช่น ภาพถ่ายดาวเทียม พยากรณ์อากาศ และข้อมูลระดับน้ำในแม่น้ำ เพื่อสร้างแบบจำลองการพยากรณ์น้ำท่วมที่แม่นยำ

ระบบประกอบด้วยแบบจำลอง AI สองส่วนหลัก ได้แก่ Hydrologic Model ซึ่งทำหน้าที่คาดการณ์ปริมาณน้ำในแม่น้ำ และ Inundation Model ที่ทำนายพื้นที่ที่จะได้รับผลกระทบและระดับความลึกของน้ำท่วม การทำงานร่วมกันของสองโมเดลนี้ช่วยให้ Flood Hub สามารถพยากรณ์น้ำท่วมได้ล่วงหน้าถึง 7 วัน

นอกจากนี้ Google ยังได้พัฒนาเทคโนโลยี AI ให้สามารถทำงานได้แม้ในพื้นที่ที่มีข้อมูลจำกัด ทำให้สามารถขยายการให้บริการไปยังประเทศกำลังพัฒนาและชุมชนที่เปราะบางได้มากขึ้น

การเข้าถึงและใช้งาน Flood Hub

FloodHub ถูกออกแบบมาให้ใช้งานง่ายและเข้าถึงได้ฟรีผ่านหลายช่องทาง ผู้ใช้สามารถดูข้อมูลพยากรณ์น้ำท่วมและแผนที่น้ำท่วมได้ผ่านเว็บไซต์ FloodHub โดยตรง นอกจากนี้ Google ยังได้ผนวกข้อมูลการเตือนภัยน้ำท่วมเข้ากับบริการอื่นๆ เช่น Google Search, Google Maps และการแจ้งเตือนบน Android เพื่อให้ข้อมูลสำคัญนี้เข้าถึงผู้คนได้มากที่สุดในยามวิกฤต

สำหรับหน่วยงานภาครัฐและองค์กรช่วยเหลือ Flood Hub ยังมีฟีเจอร์พิเศษที่ช่วยในการวางแผนรับมือภัยพิบัติ เช่น การดูแนวโน้มระดับน้ำในระยะยาว และการสร้างแผนที่น้ำท่วมเฉพาะพื้นที่

ผลกระทบและการขยายขอบเขตการให้บริการ

นับตั้งแต่เริ่มให้บริการในปี 2018 Flood Hub ได้ช่วยเหลือชุมชนในหลายประเทศให้รับมือกับภัยน้ำท่วมได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะในประเทศอินเดียและบังกลาเทศ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมรุนแรงเป็นประจำทุกปี

ล่าสุดในเดือนพฤษภาคม 2023 Google ได้ประกาศขยายการให้บริการ FloodHub ครอบคลุม 80 ประเทศทั่วโลก รวมถึงพื้นที่ในทวีปแอฟริกา เอเชีย-แปซิฟิก ยุโรป และอเมริกาใต้และกลาง ซึ่งหลายประเทศในพื้นที่เหล่านี้มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดน้ำท่วมและได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศรุนแรง

Google Flood Hub
การพยากรณ์ที่คาดการณ์ได้ล่วงหน้า 7 ว้น อย่างกรณีน้ำท่วมที่เชียงราย ก็พยากรณ์หลังจากน้ำท่วมแล้วว่ากำลังลดลง

ความร่วมมือและแผนในอนาคต

Google ไม่ได้ทำงานเพียงลำพังในการพัฒนาและขยายการให้บริการ FloodHub แต่ยังร่วมมือกับองค์กรระหว่างประเทศ เช่น องค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (WMO) ในโครงการ Early Warnings for All ที่มีเป้าหมายให้ทุกคนทั่วโลกสามารถเข้าถึงระบบเตือนภัยล่วงหน้าเกี่ยวกับภัยพิบัติทางธรรมชาติภายในปี 2027

นอกจากนี้ Google.org ยังร่วมมือกับองค์กรอย่าง สหพันธ์สภากาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดงระหว่างประเทศ และ มหาวิทยาลัยเยล ในการพัฒนาเครือข่ายแจ้งเตือนภัยแบบออฟไลน์ โดยอาศัยอาสาสมัครในชุมชนเพื่อกระจายข้อมูลเตือนภัยไปยังพื้นที่ห่างไกลที่อาจไม่มีการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตหรือสมาร์ทโฟน

ในอนาคต Google มีแผนที่จะพัฒนา FloodHub ให้สามารถพยากรณ์และเตือนภัยน้ำท่วมประเภทอื่นๆ เพิ่มเติม เช่น น้ำท่วมฉับพลันและน้ำท่วมในเขตเมือง รวมถึงขยายการใช้ AI เพื่อรับมือกับความท้าทายด้านสภาพอากาศและความยั่งยืนในวงกว้างต่อไป

ข้อมูลจาก
Google : Using AI to make critical flood forecasting information universally accessible
Google : How we are using AI for reliable flood forecasting at a global scale
Google : Helping more people stay safe with flood forecasting

ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ Google News
ช่องทางโซลเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok

Blogger สาย Multi Function ตามติดเทคโนโลยีมือถือ, แท็บเล็ต, แอพ, เกมคอนโซล, โลกโซเชียล และจักรยาน