GoPro HERO13 Black และ GoPro HERO กล้องแอคชันรุ่นใหม่ ยกระดับการถ่ายภาพผจญภัยสู่อีกขั้น

GoPro เปิดตัวกล้องแอคชั่นรุ่นใหม่ล่าสุด HERO13 Black มาพร้อมประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น และ HERO กล้องแอคชัน 4K ที่เล็กและเบาที่สุด ทั้งสองรุ่น ทางโกโปรได้พัฒนาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งาน ทั้งมือใหม่แลมืออาชีพ โดยจะพร้อมวางจำหน่ายทั่วโลกภายในเดือนกันยายนนี้

GoPro HERO13 Black: เรือธงประสิทธิภาพสูงสุด

HERO 13 Black เป็นการผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีล้ำสมัยและความเป็นไปได้ในการสร้างสรรค์ที่ไม่มีที่สิ้นสุด ด้วยความสามารถในการบันทึกวิดีโอคุณภาพสูงสุด 5.3K ที่ 60 เฟรมต่อวินาที ระบบกันสั่น HyperSmooth พร้อมทั้งยังมีเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ที่น่าสนใจมากมาย

หนึ่งในฟีเจอร์เด่นคือ Incredible 13x Burst Slo-Mo ที่สามารถบันทึกภาพได้สูงสุด 400 เฟรมต่อวินาทีที่ความละเอียด HD 720p รวมถึง 5.3K ที่ 120 เฟรมต่อวินาที และ 900p ที่ 360 เฟรมต่อวินาที ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างวิดีโอสโลว์โมชั่นที่น่าทึ่งได้

นอกจากนี้ ยังมีการปรับปรุงแบตเตอรี่ Enduro ใหม่ ให้ความจุเพิ่มขึ้น 10% และมีประสิทธิภาพการใช้พลังงานที่ดีขึ้น ช่วยยืดเวลาการใช้งานในทุกสภาพอากาศ โดย HERO13 Black สามารถบันทึกวิดีโอต่อเนื่องได้นานถึง 1.5 ชั่วโมงที่ความละเอียด 4K30 และ 5.3K30 และมากกว่า 2.5 ชั่วโมงที่ความละเอียด 1080p30

ฟีเจอร์ใหม่ที่น่าสนใจอื่น ๆ ของ HERO13 Black

• Snap and Go Magnetic Latch Mounting: ระบบยึดแม่เหล็กแบบใหม่ที่ช่วยให้ติดตั้งและถอดกล้องได้อย่างรวดเร็ว
• เทคโนโลยี WiFi 6: เพิ่มความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลได้เร็วขึ้นถึง 40%
• วิดีโอ HDR แบบ Hybrid Log Gamma (HLG): มาตรฐานการออกอากาศระดับมืออาชีพ 10 บิต และพื้นที่สี Rec. 2100
• การปรับแต่งเสียงที่ละเอียดยิ่งขึ้น: เลือกระหว่างเสียงที่สมดุลเหมือนจริงหรือโหมดเน้นเสียงพูดที่ชัดเจนยิ่งขึ้น
• GPS + Performance Stickers: ติดตามความเร็ว เส้นทาง ภูมิประเทศ ระดับความสูง และแรง G

นวัตกรรมการยึดติดและการจ่ายไฟ

นอกจากนี้ ทางโกโปรยังได้เปิดตัวอุปกรณ์เสริมใหม่เพื่อเพิ่มความสามารถในการใช้งาน HERO13 Black

• Magnetic Latch (ราคา 24.99 ดอลลาร์สหรัฐ) และ Ball Joint Mounts (ราคา 39.99 ดอลลาร์สหรัฐ): อุปกรณ์ยึดติดใหม่ที่ช่วยให้ย้าย HERO13 Black ระหว่างจุดยึดต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว โดยใช้ระบบสลักคู่แบบใหม่เพื่อยึดกล้องให้แน่นหนา
• Contacto Magnetic Door and Power Cable Kit (ราคา 79.99 ดอลลาร์สหรัฐ): อุปกรณ์เสริมสำหรับเพิ่มพลังงานที่ยึดติดกับฝาข้างแบบพิเศษของ HERO13 Black ด้วยแม่เหล็ก ช่วยให้สามารถเชื่อมต่อแหล่งจ่ายไฟภายนอกได้อย่างรวดเร็ว ง่ายดาย และกันน้ำ

HB-Series Lenses คอลเลกชันเลนส์สร้างสรรค์สุดล้ำ

GoPro ได้เปิดตัว HB-Series Lenses ซึ่งเป็นเลนส์นวัตกรรมใหม่ สามารถใช้ร่วมกับ HERO13 Black โดยที่เลนส์แต่ละตัวจะถูกตรวจจับโดยอัตโนมัติเพื่อปรับการตั้งค่าการทำงานของกล้องให้เหมาะสมที่สุดตามประเภทของเลนส์และสภาพแวดล้อม

เลนส์ HB-Series ประกอบด้วย 4 รุ่น คือ

1. Ultra Wide Lens Mod (ราคา 99.99 ดอลลาร์สหรัฐ): เปลี่ยน HERO13 Black ให้เป็นกล้อง POV ที่สมบูรณ์แบบด้วยมุมมองกว้าง 177° และอัตราส่วนภาพ 1:1 ใหม่
2. Macro Lens Mod (ราคา 129.99 ดอลลาร์สหรัฐ): ขยายความเป็นไปได้ในการสร้างสรรค์ด้วยโฟกัสที่ปรับเปลี่ยนได้ สามารถถ่ายภาพวัตถุได้ใกล้กว่าเลนส์ GoPro มาตรฐานถึง 4 เท่า
3. Anamorphic Lens Mod (ราคา 129.99 ดอลลาร์สหรัฐ): จับภาพวิดีโอมุมกว้างแบบศิลปะด้วยการบิดเบือนน้อยกว่ามุมมองกว้างแบบดั้งเดิม ในอัตราส่วนภาพ 21:9 แบบภาพยนตร์
4. ND Filter 4-Pack (ราคา 69.99 ดอลลาร์สหรัฐ): สร้างการเบลอการเคลื่อนไหวแบบภาพยนตร์ในภาพของคุณได้อย่างง่ายดาย มีให้เลือกทั้ง ND4, ND8, ND16 และ ND32

เลนส์ทั้งหมดนี้เป็นเลนส์เดียวที่รองรับระบบกันสั่น HyperSmooth ของ GoPro และมีคุณสมบัติกันน้ำ กันรอยขีดข่วน พร้อมเคลือบผิวไฮโดรโฟบิก

GoPro HERO เล็กๆ แต่ทรงพลัง

ถือว่าเป็ฯไลน์อัพใหม่ของทางโกโปร เป็นกล้อง 4K ที่เล็กที่สุด เบาที่สุด และใช้งานง่ายที่สุดที่เคยมี มาพร้อมกับคุณสมบัติที่โดดเด่นหลายประการ ตั้งแต่น้ำหนักของกล้องที่เบาเพียง 86 กรัม โดยที่ HERO มีขนาดเล็กกว่า HERO13 Black ถึง 35% และมีน้ำหนักน้อยกว่า 46% แต่ยังคงความทนทานและกันน้ำได้ลึกถึง 5 เมตร เหมาะสำหรับการผจญภัยในทุกสภาพแวดล้อม

HERO สามารถบันทึกวิดีโอความละเอียดสูงถึง 4K และภาพนิ่ง 12MP รวมถึงวิดีโอสโลว์โมชั่น 2.7K ที่ 60 เฟรมต่อวินาที นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับหน้าจอสัมผัสที่ใช้งานง่ายและการควบคุมด้วยปุ่มเดียว

คุณสมบัติเด่นของ HERO ได้แก่:

• อัตราส่วนภาพ 16:9: เหมาะสำหรับการสร้างวิดีโอแนวนอนที่เหมาะกับ YouTube
• ระบบกันสั่น HyperSmooth: ผ่านแอป GoPro Quik
• แบตเตอรี่ Enduro: สามารถบันทึกวิดีโอได้ต่อเนื่องนานถึง 100 นาทีที่การตั้งค่าวิดีโอสูงสุด

แอป GoPro Quik อัปเกรดใหม่ เสริมพลังการสร้างสรรค์

ทั้ง HERO 13 Black และ HERO สามารถใช้งานร่วมกับแอป Quik เพื่อรับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมสำหรับสมาชิก GoPro

• วิดีโอไฮไลท์อัตโนมัติ: เชื่อมต่อ GoPro กับ Wi-Fi ที่บ้าน และแอปจะอัปโหลดภาพและสร้างวิดีโอไฮไลท์พร้อมเพลงและเอฟเฟกต์โดยอัตโนมัติ
• เครื่องมือแก้ไขวิดีโอ: ใช้เครื่องมือที่ใช้งานง่ายเพื่อแก้ไขภาพและวิดีโอแบบมืออาชีพ
• การถ่ายโอนและสำรองข้อมูลที่ง่ายดาย: ถ่ายโอนภาพและวิดีโอไปยังโทรศัพท์ผ่านแอป Quik ได้อย่างง่ายดาย พร้อมพื้นที่จัดเก็บบนคลาวด์แบบไม่จำกัด

ลูกค้า GoPro สามารถปลดล็อกฟีเจอร์เหล่านี้ด้วยการสมัครสมาชิก GoPro แบบ Premium (49.99 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี) หรือ Premium+ (99.99 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี) ผ่านแอป Quik หรือที่เว็บไซต์ GoPro.com

ราคา และ การวางจำหน่าย

HERO13 Black มีราคา 399.99 ดอลลาร์สหรัฐ (ราคาจำหน่ายในประเทศไทย 15,900 บาท) โดยลูกค้าสามารถเลือกซื้อได้ทั้งแบบกล้องเดี่ยว หรือชุด HERO13 Black Creator Edition ในราคา 599.99 ดอลลาร์สหรัฐ (ราคาจำหน่ายในประเทศไทย 23,900 บาท) ซึ่งมาพร้อมกับ Volta Power Grip, Media Mod และ Light Mod โดยจะเริ่มวางจำหน่ายในวันที่ 10 กันยายน 2567

สำหรับ GoPro HERO ราคา 199.99 ดอลลาร์สหรัฐ จะเริ่มวางจำหน่ายวันที่ 22 กันยายน 2567

ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ Google News
ช่องทางโซลเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok