GrabTalk AI-led Organization

แกร็บ เผยกลยุทธ์ “AI-led Organization” เน้นนวัตกรรมขับเคลื่อนองค์กร

แกร็บ ประเทศไทย ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีในภูมิภาค เปิดเผยแนวทางการพัฒนาสู่การเป็นองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ (AI-led Organization) พร้อมเผยโฉมนวัตกรรมล่าสุดที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคดิจิทัล ในงานแถลงข่าวที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 24 กันยายน 2567

แนวทางการพัฒนาเทคโนโลยีของแกร็บ

แกร็บ มุ่งมั่นสู่การเป็นองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ โดยเน้นการพัฒนาผ่าน 3 ตัวแปรหลัก ได้แก่ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) อุปกรณ์ที่เชื่อมโยงด้วยอินเทอร์เน็ต (IoT) และโซลูชันนวัตกรรมบนแอปพลิเคชัน (In-app Solutions) เพื่อแก้ปัญหาและตอบโจทย์ผู้บริโภคในยุคดิจิทัล การผสมผสานเทคโนโลยีทั้งสามนี้ช่วยให้แกร็บสามารถพัฒนาบริการที่ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ได้อย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

คุณวรฉัตร ลักขณาโรจน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ แกร็บ ประเทศไทย กล่าวว่า “แกร็บยึดมั่นในพันธกิจ GrabForGood หรือ ‘แกร็บ เพื่อชีวิตที่ดีกว่า’ ที่มุ่งพัฒนาและนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อยกระดับคุณชีวิตของผู้คนในภูมิภาคมาโดยตลอด” โดยแนวทางการพัฒนาเทคโนโลยีของแกร็บเริ่มต้นจากการศึกษาพฤติกรรมการใช้ชีวิตและทำความเข้าใจอินไซต์ของผู้บริโภค รวมถึงคนในวงจรธุรกิจ (Ecosystem) เพื่อนำไปพัฒนาต่อยอดให้เกิดผลในวงกว้าง การเข้าใจความต้องการของผู้ใช้อย่างลึกซึ้งนี้ช่วยให้แกร็บสามารถพัฒนานวัตกรรมที่ไม่เพียงแต่แก้ปัญหาเฉพาะหน้า แต่ยังสามารถคาดการณ์และตอบสนองความต้องการในอนาคตได้อีกด้วย

พร้อมกันนี้ แกร็บ ได้เปิดตัวนวัตกรรมล่าสุดที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของผู้บริโภค

ฟีเจอร์บัญชีครอบครัว (Family Account) ช่วยให้ผู้ใช้บริการสามารถเรียกรถ ติดตามการเดินทาง และชำระค่าบริการให้กับสมาชิกในครอบครัวได้อย่างสะดวกสบาย ฟีเจอร์นี้ไม่เพียงแต่อำนวยความสะดวกในการจัดการค่าใช้จ่าย แต่ยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับสมาชิกในครอบครัว โดยเฉพาะเด็กและผู้สูงอายุ ที่สามารถถูกติดตามการเดินทางได้อย่างใกล้ชิด

ฟูดล็อกเกอร์ (Food Lockers) เป็นตู้ฝากอาหารเดลิเวอรีที่ออกแบบมาเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับพนักงานออฟฟิศ แก้ปัญหาการรับอาหารไม่ทันเวลา โดยระบบจะแจ้งเตือนผู้สั่งอาหารเมื่อไรเดอร์นำอาหารมาฝากไว้ในล็อกเกอร์ ซึ่งช่วยลดการปฏิสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและรักษาคุณภาพของอาหารให้อยู่ในสภาพที่ดีจนกว่าผู้สั่งจะมารับ

แผนที่ในอาคาร (Indoor Map) ช่วยให้คนขับประหยัดเวลาในการค้นหาร้านอาหารภายในห้างหรืออาคาร ลดระยะเวลาในการค้นหาได้ถึง 20% เทคโนโลยีนี้ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของคนขับ แต่ยังช่วยลดการใช้พลังงานและลดมลพิษจากการขับรถวนหาร้านอาหารอีกด้วย

แกร็บ เผยกลยุทธ์

เป้าหมายการพัฒนาเทคโนโลยีของ แกร็บ เป้าหมายสู่ AI-led Organization

แกร็บมุ่งพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อตอบโจทย์ใน 4 ประเด็นหลัก ซึ่งครอบคลุมทั้งด้านธุรกิจและสังคม โดยมีรายละเอียดดังนี้:

  1. การเสริมประสิทธิภาพการทำงาน (Efficiency): แกร็บใช้เทคโนโลยี AI และ Machine Learning เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานทั้งระบบ ตัวอย่างเช่น ระบบจัดสรรคำสั่งซื้อแบบทันเวลาพอดี (Just-in-Time Allocation) ที่ใช้ AI วิเคราะห์ปัจจัยต่างๆ เช่น ตำแหน่งของคนขับ สภาพการจราจร และเวลาในการเตรียมอาหาร เพื่อจัดสรรคำสั่งซื้อให้กับคนขับได้อย่างเหมาะสมที่สุด ช่วยลดเวลารอคอยและเพิ่มจำนวนการส่งมอบสินค้าต่อวันได้มากขึ้น
  2. การเพิ่มศักยภาพและผลิตผล (Productivity): แกร็บพัฒนาเครื่องมือและแพลตฟอร์มที่ช่วยเพิ่มผลิตภาพให้กับพาร์ทเนอร์ในระบบนิเวศ เช่น ระบบบริหารจัดการร้านอาหารที่ช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถจัดการคำสั่งซื้อ สต็อกสินค้า และรายงานยอดขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ยังมีระบบวิเคราะห์ข้อมูลที่ช่วยให้ร้านค้าเข้าใจพฤติกรรมของลูกค้าและสามารถปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจได้อย่างเหมาะสม
  3. การยกระดับประสบการณ์การใช้งาน (Experience): แกร็บนำเทคโนโลยี AI มาใช้ในการปรับแต่งประสบการณ์การใช้งานให้เหมาะสมกับผู้ใช้แต่ละคน ตัวอย่างเช่น ระบบแนะนำร้านอาหารและสินค้าที่เรียนรู้จากประวัติการสั่งซื้อและความชอบของผู้ใช้ ทำให้การค้นหาและสั่งซื้อสินค้าเป็นไปอย่างสะดวกและตรงใจมากขึ้น นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ๆ เช่น การชำระเงินด้วยใบหน้า (Face Pay) ที่ช่วยให้การทำธุรกรรมเป็นไปอย่างรวดเร็วและปลอดภัยยิ่งขึ้น
  4. การสร้างผลกระทบเชิงบวกทางสังคม (Impact): แกร็บตระหนักถึงบทบาทของเทคโนโลยีในการแก้ปัญหาสังคมและสิ่งแวดล้อม จึงได้พัฒนานวัตกรรมที่ตอบโจทย์ด้านนี้ เช่น โครงการ GrabForGood Fund ที่ใช้เทคโนโลยี Blockchain ในการบริหารจัดการเงินบริจาคอย่างโปร่งใสและมีประสิทธิภาพ หรือการพัฒนาแพลตฟอร์ม GrabAcademy ที่ให้การศึกษาและฝึกอบรมทักษะดิจิทัลแก่พาร์ทเนอร์คนขับและร้านค้า เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและเพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจ

การมุ่งเน้นทั้ง 4 ด้านนี้ช่วยให้แกร็บสามารถพัฒนาเทคโนโลยีที่ไม่เพียงแต่ตอบโจทย์ทางธุรกิจ แต่ยังสร้างคุณค่าให้กับสังคมโดยรวม นายวรฉัตร เน้นย้ำว่า “เป้าหมายสูงสุดของเราคือการใช้เทคโนโลยีเพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อชีวิตของผู้คนในภูมิภาค ไม่ว่าจะเป็นการสร้างรายได้ที่มั่นคงให้กับพาร์ทเนอร์คนขับและร้านค้า การอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวันของผู้บริโภค หรือการมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาสังคมและสิ่งแวดล้อม”

นอกจากนี้ แกร็บยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาเทคโนโลยีอย่างมีความรับผิดชอบ โดยมีการจัดตั้งคณะกรรมการจริยธรรมด้าน AI เพื่อกำกับดูแลการใช้เทคโนโลยี AI ให้เป็นไปอย่างโปร่งใสและเป็นธรรม รวมถึงการลงทุนในด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์เพื่อปกป้องข้อมูลของผู้ใช้บริการและพาร์ทเนอร์

ด้วยแนวทางการพัฒนาเทคโนโลยีที่ครอบคลุมและคำนึงถึงผลกระทบในวงกว้าง แกร็บหวังว่าจะสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้กับระบบนิเวศทางธุรกิจและสังคมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้อย่างยั่งยืน

GrabTalk AI-led Organization

การใช้เทคโนโลยีเพื่อกลุ่มเป้าหมายต่างๆ

แกร็บได้นำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมายต่างๆ โดยสำหรับผู้ใช้บริการ นอกจากฟีเจอร์บัญชีครอบครัวและฟูดล็อกเกอร์แล้ว แกร็บยังพัฒนาระบบแนะนำร้านอาหารและสินค้าที่เหมาะสมกับรสนิยมของแต่ละบุคคล โดยใช้ AI วิเคราะห์พฤติกรรมการสั่งซื้อ

สำหรับคนขับและไรเดอร์ แกร็บใช้ AI และ Machine Learning (ML) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน เช่น ระบบจัดสรรคำสั่งซื้อแบบทันเวลาพอดี (Just-in-Time Allocation) ที่ช่วยลดระยะเวลารอคอยและเพิ่มโอกาสในการรับงานมากขึ้น นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาระบบนำทางอัจฉริยะที่คำนึงถึงสภาพการจราจรแบบเรียลไทม์ ช่วยให้คนขับเลือกเส้นทางที่เหมาะสมที่สุด

ในส่วนของผู้ประกอบการร้านค้า-ร้านอาหาร แกร็บใช้ AI เพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ เช่น การสร้างภาพอาหารด้วย AI ที่ช่วยให้ร้านอาหารสามารถนำเสนอเมนูได้อย่างน่าสนใจ แม้จะไม่มีทักษะการถ่ายภาพมืออาชีพ นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาบริการสินเชื่อดิจิทัลที่ใช้ ML ในการประเมินความเสี่ยงและอนุมัติวงเงินที่เหมาะสม ช่วยให้ผู้ประกอบการเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น

ในด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม แกร็บพัฒนาเทคโนโลยีด้านความปลอดภัย เช่น ระบบยืนยันตัวตนของคนขับด้วยการสแกนใบหน้า (Biometric Authentication) และระบบบันทึกเสียงระหว่างการเดินทาง (AudioProtect) ที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้ทั้งผู้โดยสารและคนขับ นอกจากนี้ ยังมีฟีเจอร์เพื่อสิ่งแวดล้อม เช่น ฟีเจอร์ไม่รับช้อนส้อมพลาสติกและฟีเจอร์ชดเชยคาร์บอน ที่ช่วยลดปริมาณขยะพลาสติกและส่งเสริมการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

สำหรับพนักงานภายในองค์กร แกร็บส่งเสริมการใช้เทคโนโลยี AI ในการทำงาน ผ่านโปรแกรมพัฒนาและฝึกอบรม รวมถึงพัฒนาเครื่องมือภายในองค์กร เช่น GrabGPT ที่ช่วยในการสร้างเนื้อหาและวิเคราะห์ข้อมูล และ Mystique ที่ช่วยในการเขียนคำโฆษณา ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของทีมการตลาดและครีเอทีฟ

คุณวรฉัตรกล่าวทิ้งท้ายว่า “สำหรับแกร็บ เราไม่ได้มุ่งเน้นการใช้หรือพัฒนาเทคโนโลยีที่ต้องล้ำสมัยที่สุด แต่เราให้ความสำคัญกับเป้าหมายของคนในอีโคซิสเต็มและอรรถประโยชน์ของเทคโนโลยี คือ ต้องตอบโจทย์และแก้ปัญหาของคนในอีโคซิสเต็มได้จริงๆ สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม” แนวทางนี้สะท้อนให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ของแกร็บที่มุ่งเน้นการพัฒนาเทคโนโลยีที่มีความหมายและสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคม

การเปิดเผยกลยุทธ์ AI-led Organization ของแกร็บครั้งนี้ ไม่เพียงแต่แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของบริษัท แต่ยังสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผ่านการผสมผสานระหว่างนวัตกรรมและความเข้าใจในความต้องการของผู้ใช้บริการอย่างแท้จริง

ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ Google News
ช่องทางโซลเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok

Blogger สาย Multi Function ตามติดเทคโนโลยีมือถือ, แท็บเล็ต, แอพ, เกมคอนโซล, โลกโซเชียล และจักรยาน