แอปเปิล เปิดตัว iPhone 16 และ iPhone 16 Plus อย่างเป็นทางการแล้ว โดยมาพร้อมนวัตกรรมล่าสุดที่จะยกระดับประสบการณ์การใช้งานสมาร์ทโฟนให้ก้าวไปอีกขั้น ทั้งชิป A18 ประสิทธิภาพสูง กล้อง Fusion 48MP และฟีเจอร์ใหม่มากมาย
การอัปเกรดใหม่ใน iPhone 16 และ iPhone 16 Plus ที่น่าจับตามองก็คือ ระบบกล้องที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ ชิปประมวลผล A18 ที่ทรงพลัง และการรองรับ Apple Intelligence อย่างเต็มรูปแบบ นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มปุ่ม Action และตัวควบคุมกล้องใหม่ที่ช่วยให้การถ่ายภาพและวิดีโอเป็นเรื่องง่ายกว่าที่เคย
ดีไซน์สวยงามพร้อมความทนทาน เพิ่มปุ่ม Action
iPhone 16 และ iPhone 16 Plus มาพร้อมดีไซน์ที่สวยงามและทนทาน โดยใช้วัสดุคุณภาพสูงอย่างกระจก Ceramic Shield เจเนอเรชั่นล่าสุดที่แข็งแกร่งกว่ารุ่นแรกถึง 50% และแข็งแกร่งกว่ากระจกบนสมาร์ทโฟนทั่วไปถึง 2 เท่า
iPhone 16 มาพร้อมหน้าจอขนาด 6.1 นิ้ว ในขณะที่ iPhone 16 Plus มีหน้าจอขนาดใหญ่กว่าที่ 6.7 นิ้ว ทั้งสองรุ่นใช้เทคโนโลยีหน้าจอ Super Retina XDR แบบ OLED ที่ให้ความสว่างสูงและสีสันสมจริง พร้อมฟีเจอร์ Dynamic Island ที่แสดงการแจ้งเตือนและข้อมูลสำคัญแบบไดนามิก
นอกจากนี้ยังมีการเพิ่ม ปุ่ม Action ที่ช่วยให้ผู้ใช้เข้าถึงฟังก์ชั่นต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วเพียงแค่กดปุ่มเดียว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดกล้อง ไฟฉาย หรือแม้แต่การปลดล็อคและล็อครถยนต์ผ่านแอป FordPass
ตัวเครื่องได้รับการออกแบบใหม่ภายในเพื่อรองรับแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ขึ้น พร้อมระบบระบายความร้อนที่มีประสิทธิภาพสูง ช่วยให้ใช้งานได้นานขึ้นและประสิทธิภาพคงที่แม้ใช้งานหนัก
ตัวควบคุมกล้อง (Camera Control)
Apple ได้นำเสนอนวัตกรรมใหม่อย่าง ตัวควบคุมกล้อง (Camera Control) ที่ผสมผสานฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์เข้าด้วยกันอย่างลงตัว ช่วยยกระดับประสบการณ์การใช้กล้องให้ดียิ่งขึ้น
ตัวควบคุมกล้องประกอบด้วยสวิตช์ที่ให้ความรู้สึกเหมือนการกดปุ่มจริง พร้อมเซ็นเซอร์แรงกดความแม่นยำสูงและเซ็นเซอร์แบบคาปาซิทีฟ ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเปิดกล้อง ถ่ายภาพ และเริ่มบันทึกวิดีโอได้อย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ ยังมีส่วนแสดงภาพตัวอย่างแบบใหม่ที่ช่วยให้ผู้ใช้จัดองค์ประกอบภาพได้ง่ายขึ้น รวมถึงปรับการซูม ค่าแสง และมิติความชัดลึกได้อย่างสะดวกเพียงแค่เลื่อนนิ้วบนตัวควบคุมกล้อง
ตัวควบคุมกล้องยังรองรับการทำงานร่วมกับ Apple Intelligence โดยผู้ใช้สามารถกดค้างที่ตัวควบคุมเพื่อเรียกใช้งานฟีเจอร์อัจฉริยะต่างๆ เช่น การระบุวัตถุในภาพ การค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ หรือแม้แต่การเพิ่มกิจกรรมจากโปสเตอร์ลงในปฏิทิน
ที่สำคัญ นักพัฒนาสามารถนำตัวควบคุมกล้องไปใช้ในแอปพลิเคชันของตนเองได้ เปิดโอกาสให้มีการสร้างสรรค์ฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่ใช้ประโยชน์จากฮาร์ดแวร์นี้ได้อย่างหลากหลาย
กล้องคู่ที่ให้ประสบการณ์ถ่ายภาพขั้นสุด
ไฮไลท์สำคัญของ iPhone 16 และ iPhone 16 Plus คือระบบกล้องใหม่ที่ทรงพลัง โดยมี กล้อง Fusion 48MP พร้อมเทเลโฟโต้ 2 เท่า ที่ให้คุณภาพระดับออปติคัล ทำให้เหมือนมีกล้อง 2 ตัวในกล้องเดียว
กล้อง Fusion 48MP นี้ใช้เทคโนโลยีการรวมพิกเซล (pixel binning) เพื่อให้ได้ภาพที่มีรายละเอียดสูงและแสงที่ดีในทุกสภาพการถ่ายภาพ โดยในโหมดปกติจะให้ภาพความละเอียด 12MP ที่มีคุณภาพสูง แต่ผู้ใช้สามารถเลือกถ่ายภาพที่ความละเอียดเต็ม 48MP ได้เช่นกัน
กล้องอัลตร้าไวด์ 12MP ใหม่มาพร้อมออโต้โฟกัสสำหรับการถ่ายภาพมาโคร และรับแสงได้มากขึ้นถึง 2.6 เท่า ช่วยให้ได้ภาพถ่ายที่มีคุณภาพสูงขึ้นในทุกสภาพแสง โดยเฉพาะในสภาพแสงน้อย
นอกจากนี้ยังสามารถถ่ายภาพและวิดีโอเชิงมิติพื้นที่ได้ เพื่อรองรับการรับชมบน Apple Vision Pro ในอนาคต พร้อมฟีเจอร์ Photographic Styles เจเนอเรชั่นใหม่ที่ช่วยให้ปรับแต่งภาพถ่ายได้ตามสไตล์ที่ต้องการ โดยมีความเข้าใจในโทนสีผิวจริงที่อยู่ใต้ผิวหนังมากขึ้น
ระบบกล้องใหม่นี้ยังรองรับการบันทึกวิดีโอพร้อมระบบเสียงตามตำแหน่ง (spatial audio) ที่ให้ประสบการณ์การรับชมที่สมจริงยิ่งขึ้นเมื่อรับชมด้วย AirPods หรือ Apple Vision Pro
ชิป A18 เร็วแรง เล่นเกมไม่มีสะดุด
หัวใจสำคัญของ iPhone 16 และ iPhone 16 Plus คือชิป A18 ที่สร้างขึ้นด้วยเทคโนโลยี 3 นาโนเมตร รุ่นที่ 2 มาพร้อมประสิทธิภาพและการประหยัดพลังงานที่ดียิ่งขึ้นแบบก้าวกระโดด
CPU แบบ 6-core ทำงานเร็วกว่าชิป A16 Bionic ถึง 30% ขณะที่ใช้พลังงานน้อยลง 30% ส่วน GPU แบบ 5-core ก็เร็วกว่าถึง 40% และประหยัดพลังงานมากกว่า 35%
Neural Engine แบบ 16-core ใน A18 ได้รับการปรับปรุงใหม่ โดยสามารถประมวลผลได้เร็วกว่า A16 Bionic ถึง 2 เท่า ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของ AI และ Machine Learning โดยเฉพาะสำหรับโมเดลเจเนอเรทีฟขนาดใหญ่
ชิป A18 ยังรองรับเทคโนโลยีเรย์เทรซซิ่งที่เร่งความเร็วด้วยฮาร์ดแวร์ ทำให้เกมต่างๆ แสดงพฤติกรรมของแสงได้สมจริงยิ่งขึ้น โดยมีอัตราเฟรมสูงกว่าเรย์เทรซซิ่งที่ใช้ซอฟต์แวร์ถึง 5 เท่า ทำให้ iPhone 16 และ iPhone 16 Plus สามารถรันเกมระดับ AAA ได้อย่างลื่นไหล
ไม่ขาดการเชื่อมต่อพร้อมความปลอดภัยของผู้ใช้
iPhone 16 และ iPhone 16 Plus มาพร้อมความสามารถในการเชื่อมต่อที่ครอบคลุมยิ่งขึ้น โดยเฉพาะ ข้อความผ่านดาวเทียม ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถส่งและรับข้อความได้แม้อยู่ในพื้นที่อับสัญญาณ
นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ วิดีโอสดสำหรับ SOS ฉุกเฉิน ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถแชร์วิดีโอสดหรือรูปภาพกับศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉินได้ในระหว่างการโทรฉุกเฉิน เพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ใช้
ภายในปีนี้ บริการช่วยเหลือบนท้องถนนผ่านดาวเทียมจะขยายการให้บริการไปยังสหราชอาณาจักร ช่วยให้ผู้ใช้สามารถขอความช่วยเหลือได้แม้อยู่ในพื้นที่ห่างไกล
รองรับ Apple Intelligence เต็มรูปแบบ
iPhone 16 และ iPhone 16 Plus ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับ Apple Intelligence อย่างเต็มรูปแบบ โดยสามารถใช้งานโมเดลเจเนอเรทีฟที่สร้างโดย Apple เพื่อทำความเข้าใจและสร้างภาษากับรูปภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ผู้ใช้สามารถใช้เครื่องมือการเขียนที่ครอบคลุมทั่วทั้งระบบ ซึ่งช่วยในการปรับแต่งการเขียน พิสูจน์อักษร และสรุปเนื้อหาของข้อความได้อย่างชาญฉลาด นอกจากนี้ยังสามารถสร้าง Genmoji ที่ไม่ซ้ำใคร และใช้ Image Playground เพื่อสร้างรูปภาพสนุกๆ ได้อย่างรวดเร็วด้วยเทคโนโลยี AI
Siri ได้รับการปรับปรุงใหม่ให้มีความเป็นธรรมชาติและยืดหยุ่นมากขึ้น สามารถเข้าใจภาษาได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น และรักษาบริบทของคำขอได้ดีขึ้น ผู้ใช้สามารถโต้ตอบกับ Siri ได้ทั้งด้วยเสียงและการพิมพ์ โดยสามารถสลับระหว่างสองวิธีนี้ได้อย่างลื่นไหล
Apple Intelligence ยังช่วยในการสรุปการแจ้งเตือน และแสดงข้อความที่สำคัญต่อเวลาด้วยคุณสมบัติข้อความที่มีความสำคัญในแอปเมล ช่วยให้ผู้ใช้จัดการข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
นอกจากนี้ ยังมีฟีเจอร์การบันทึก ถอดข้อความ และสรุปเนื้อหาจากเสียงในแอปโน้ตและโทรศัพท์ โดยเมื่อมีการเริ่มบันทึกเสียงในแอปโทรศัพท์ขณะสนทนา ระบบจะแจ้งเตือนผู้ที่อยู่ในสายโดยอัตโนมัติ และเมื่อวางสาย Apple Intelligence จะสรุปเนื้อหาเพื่อช่วยทบทวนประเด็นสำคัญได้อย่างรวดเร็ว
ที่สำคัญ Apple Intelligence ยังใช้เทคโนโลยี Private Cloud Compute ซึ่งช่วยรักษาความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของข้อมูลผู้ใช้ โดยสามารถประมวลผลได้ทั้งบนตัวเครื่องและบนเซิร์ฟเวอร์ Apple Silicon โดยเฉพาะ ถือเป็นความก้าวหน้าที่สำคัญในด้านความเป็นส่วนตัวของ AI
ใส่ใจสิ่งแวดล้อม
Apple ยังคงให้ความสำคัญกับการรักษาสิ่งแวดล้อม โดย iPhone 16 และ iPhone 16 Plus ใช้วัสดุรีไซเคิลโดยรวมมากกว่า 30% ซึ่งรวมถึงอะลูมิเนียมรีไซเคิล 85% ในตัวเครื่อง
แบตเตอรี่ทำจากโคบอลต์รีไซเคิล 100% และเป็นครั้งแรกที่มีการใช้ลิเทียมรีไซเคิลมากกว่า 95% นอกจากนี้บรรจุภัณฑ์ยังใช้เยื่อไม้เป็นหลัก เพื่อลดการใช้พลาสติก
ราคาและการวางจำหน่าย
iPhone 16 และ iPhone 16 Plus เปิดตัว พร้อมมีให้เลือก 5 สี ได้แก่ น้ำเงินอัลตร้ามารีน เขียวอมฟ้า ชมพู ขาว และดำ โดยมีให้เลือกทั้งความจุ 128GB, 256GB และ 512GB
ราคาจำหน่าย เปิดตัว เริ่มต้นที่ 29,900 บาท สำหรับ iPhone 16 และ 34,900 บาท สำหรับ iPhone 16 Plus โดยจะเริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 20 กันยายนนี้
สำหรับประเทศไทย ผู้สนใจสามารถสั่งจองล่วงหน้าได้ตั้งแต่วันที่ 13 กันยายน เวลา 19:00 น. ผ่านทาง Apple Store online และ Apple Store ทั่วประเทศ
ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ Google News
ช่องทางโซลเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok
