JIMMY BX6 Lite เครื่องดูดไรฝุ่นรุ่นใหม่ พร้อมนวัตกรรมตีฝุ่น 18,000 ครั้ง/นาที ปกป้องจากเชื้อโรค 99.99% ในราคาเพียง 2,999 บาท
ในยุคที่ผู้คนให้ความสำคัญกับสุขภาพมากขึ้น โดยเฉพาะปัญหาภูมิแพ้ที่มักมีสาเหตุมาจากไรฝุ่น JIMMY แบรนด์ชั้นนำด้านอุปกรณ์ทำความสะอาด ได้เปิดตัว JIMMY BX6 Lite เครื่องดูดไรฝุ่นรุ่นใหม่ล่าสุด ที่มาพร้อมนวัตกรรมการตีฝุ่นลึกถึง 18,000 ครั้งต่อนาที สามารถปกป้องผู้ใช้จากเชื้อโรคได้ถึง 99.99% นับเป็นอีกก้าวสำคัญในการยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้บริโภค โดยเฉพาะกลุ่มผู้ที่มีอาการแพ้ไรฝุ่น ซึ่งพบว่ามีถึง 70-80% ของผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ในประเทศไทย JIMMY BX6 Lite จึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพและความสะอาดภายในบ้านอย่างมีประสิทธิภาพ
พลังการดูดที่เหนือชั้น พร้อมเทคโนโลยีฆ่าเชื้อล้ำสมัย
JIMMY BX6 Lite โดดเด่นด้วยประสิทธิภาพการทำงานที่ครอบคลุม ด้วยแรงดูดสูงถึง 15,000 Pa จากมอเตอร์กำลัง 600W ทำให้สามารถดูดฝุ่นและไรฝุ่นที่ฝังลึกในเนื้อผ้าได้อย่างหมดจด นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับช่องดูดขนาดใหญ่ 220 มม. ช่วยให้ทำความสะอาดพื้นที่ได้กว้างขึ้นในเวลาอันรวดเร็ว
เทคโนโลยีการฆ่าเชื้อของ JIMMY BX6 Lite ยังน่าประทับใจไม่แพ้กัน ด้วยการผสานการทำงานของรังสีอัลตราไวโอเลต พลังอัลตราโซนิค และฟังก์ชันเป่าลมร้อน 55 องศาเซลเซียส ทำให้สามารถกำจัดเชื้อโรคและแบคทีเรียได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยผ่านการรับรองมาตรฐานจาก Allergy UK ในด้านความเชี่ยวชาญการกำจัดไรฝุ่น
นวัตกรรมอัจฉริยะเพื่อการใช้งานที่สะดวกสบาย
JIMMY BX6 Lite ไม่เพียงแต่มีประสิทธิภาพในการทำความสะอาดเท่านั้น แต่ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีอัจฉริยะที่ช่วยให้การใช้งานสะดวกสบายยิ่งขึ้น เช่น เซ็นเซอร์ตรวจจับฝุ่นอัจฉริยะและหน้าจอแสดงผล LED ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถติดตามความสะอาดของพื้นผิวได้อย่างแม่นยำ
นอกจากนี้ ยังมีโหมดการทำงาน 2 แบบ คือ Light และ Strong ให้ผู้ใช้เลือกใช้ตามความเหมาะสมของพื้นผิวและระดับความสกปรก ด้วยคุณสมบัติเหล่านี้ JIMMY BX6 Lite จึงเป็นมากกว่าแค่เครื่องดูดฝุ่นธรรมดา แต่เป็นผู้ช่วยอัจฉริยะในการดูแลสุขภาพและความสะอาดภายในบ้าน
ราคาและโปรโมชั่นพิเศษ
JIMMY BX6 Lite วางจำหน่ายในราคาเพียง 2,999 บาท พร้อมโปรโมชั่นพิเศษในช่วงเทศกาล 9.9 ด้วยโค้ดส่วนลดสูงสุด 1,000 บาท หรือคิดเป็น 20% สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสั่งซื้อได้ที่ Shopee และ Lazada
ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ Google News
ช่องทางโซลเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok