รีวิว LAMY safari note+ ราคา

รีวิว LAMY safari note+ ปากกาลูกลื่นสำหรับจดบันทึกบน iPad

รีวิว LAMY safari note+ ปากกาสำหรับ iPad โดดเด่นด้วยรูปทรงสวยงามอันเป็นเอกลักษณ์ของลามี่ ถือจับเขียนได้ถนัดมือเหมือนจดเขียนบนกระดาษ แต่ที่น่าเสียดายก็คือ ความดีงามในการใช้งานตามแบบปากกา Lamy คือข้อดีทั้งหมดแล้วของปากกาด้ามนี้!

ถือว่าเป็นสินค้าที่เป็นกระแสเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา เมื่อ Lamy แบรนด์เครื่องเขียนจากเยอรมัน เปิดตัวปากกาสไตลัสสำหรับใช้งานกับ iPad ออกมา โดยใช้ดีไซน์ของปากการุ่น Safari ที่เป็นรุ่นยอดนิยมที่สุด ทำให้ชาวเน็ต (รวมถึงผมด้วยอีกคน) อยากจะได้มาใช้ เพราะดีไซน์ของมันนี่ล่ะ

และวันนี้ทาง Lamy ประเทศไทยก็เปิดวางจำหน่ายแล้ว โดยเปิดขายใน ราคา 3,200 บาท สามารถสั่งซื้อได้ทางเว็บไซต์ Lamy.co.th หรือหาซื้อตามเคาเตอร์ของลามี่ก็ได้ แน่นอนว่าผมกดสั่งสินค้า และถูกจัดส่งมาถึงบ้านภายในเวลาอันรวดเร็วเพียงแค่ 2 วัน ก็ได้มันมาอยู่ในมือเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

รีวิว LAMY safari note+ ราคา

แกะกล่อง ลองสัมผัส ดูดีไซน์

ในแพ็กเกจของ LAMY safari note+ นั้น จะมีตัวปากกามาให้ พร้อมกับสาย USB-A to USB-C แบบสั้น สำหรับการเสียบชาร์จแบตเตอรี่ และหัวสไตลัสสำรองให้มาอีก 2 หัว พร้อมคู่มือการใช้งานฉบับสั้น พร้อมกับใบรับประกันสินค้า 2 ปี

ตัวปากกาจะมีสีให้เลือกทั้งหมด 4 สีด้วยกันคือ สี Steel Black, All Black, Red และ White และใสส่วนของหัวปากกาจะเป็นสีที่เข้ากับตัวด้าม (ยกเว้นสีขาวที่จะเป็นหัวปากกาสีเทา) โดยที่ตัวปากกาทุกสีจะมีความมันวาว ด้วยวัสดุของตัวปากกาเป็นพลาสติก

สเปคของตัวปากกานั้น มีขนาดมิติอยู่ที่ 2.28 x 1.57 มิลลิเมตร และยาว 9.53 มิลลิเมตร มีน้ำหนักอยู่ที่ 26.5 กรัม (รวมปลอกปากกา) แน่นอนว่ามันหนักกว่า Apple Pencil อยู่พอสมควร แต่ด้วยการออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ในทรงของ Safari นั้น มันจึงถือได้อย่างถนัดมือดีมากๆ

ตัวปากกาที่ดีไซน์ถอดแบบมาจากรุ่น Safari แบบ 100% ที่มีให้ทั้งตัวปลอกปากกาเหมือนกัน จะมีความแตกต่างเพิ่มเติมคือที่ด้านท้ายของปากกาจะมีช่อง USB-C สำหรับเสียบชาร์จแบตเตอรี่

ที่ด้ามปากกาจะมีปุ่มฟังก์ชั่น 2 ปุ่มเพื่อใช้งานเป็นคีย์ลัดเพื่อการสั่งงาน โดยจะรองรับกับแอพที่เป็นพาร์ทเนอร์กับ Lamy รวมถึงจะเป็นสวิทช์เปิดปิดด้วย โดยกดปุ่มล่าง (ใกล้หัวปากกา) กดค้างไว้ 5 วินาทีเพื่อเปิดใช้งาน และกดปุ่มบนค้าง 5 วินาทีเพื่อปิดการทำงาน หรือถ้าไม่มีการใช้งานประมาณ 5 นาทีก็จะปิดตัวเองให้

ตรงกลางของด้ามปากกา จะเป็นไฟแสดงสถานะการทำงานโดยจะเป็นสีน้ำเงินเมื่อเปิดใช้งาน และเป็นสีส้มกระพริบเมื่อกำลังชาร์จ และเป็นสีเขียวเมื่อทำการชาร์จเต็ม

เริ่มต้นการใช้งาน LAMY safari note+

Lamy Safari Note+ ทำงานโดยเชื่อมต่อกับ iPad ผ่าน Bluetooth โดยจะรองรับใช้งานกับ iPad เท่านั้น ไม่สามารถใช้งานกับ Android ได้ โดยจะรองรับกับทุกรุ่นที่วางขายตั้งแต่ปี 2018 ได้แก่

  • iPad mini ตั้งแต่รุ่นที่ 5 ขึ้นไป
  • iPad ตั้งแต่ Gen 6 ขึ้นไป
  • iPad Air ตั้งแต่รุ่นที่ 3 ขึ้นไป
  • iPad Pro 11 นิ้วทุกรุ่น
  • iPad Pro 12.9 นิ้ว ตั้งแต่รุ่นที่ 3 ขึ้นไป

การเชื่อมต่อใช้งานนั้น ไม่สามารถเชื่อมผ่านเมนูคำสั่ง Bluetooth ได้ แต่จะต้องเชื่อมต่อผ่านทางแอป LAMY safari note+ ที่ค้นหาและโหลดจาก App Store ได้เลย

เมื่อเข้ามาในแอป ให้ทำการเปิดตัว LAMY safari note+ ติดเป็นไฟสีน้ำเงิน ให้พร้อมทำงาน และเลือกทำการเชื่อมต่อจากในแอป จนมาถึงหน้าที่ขึ้นวงกลมสีน้ำเงินกลางจอ ให้เราเอาตัวปากกามาจิ้มที่วงกลมนั้น ก็จะทำการเชื่อมต่อให้ โดยจะให้เราตั้งชื่อของปากกา รวมถึงเลือกสีของปากกา (ระบบไม่สามารถ detact ได้เอง) เท่านี้ก็เชื่อมต่อพร้อมใช้งานได้แล้ว

ตัวแอปนี้ นอกจากจะเอาไว้สำหรับเชื่อมต่อแล้ว ยังเอาไว้สำหรับเช็คไฟล์อัปเดตเฟิร์มแวร์ใหม่ให้กับตัวปากกาได้อีกด้วย

ประสิทธิภาพการใช้งานดี แต่ว่า…

รีวิว Lamy Safari Note+

ผมทดสอบลองใช้งานคู่กับ iPad Pro 11 นิ้ว ชิป M4 รุ่นใหม่ล่าสุด ด้วยการใช้งานที่เป็นการเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth ทำให้ความหน่วงในการเขียนบนหน้าจอนั้นค่อนข้างต่ำ เวลาเขียนจึงให้ความรู้สึกที่ใกล้เคียงกับการเขียนบนกระดาษจริง

หัวปากกาเป็นยางที่ส่วนตัวผมว่าให้ความรู้สึกที่ใกล้เคียงกับการใช้ Apple Pencil รวมถึงขนาดของหัวก็ใกล้เคียงกัน จึงให้สัมผัสเวลาเขียนที่ค่อนข้างดีและลื่นมือ

ฟีเจอร์ด้านการเขียนอื่นๆ ของ LAMY safari note+ ก็จะมีความสามารถรับรูแรงกดน้ำหนักได้ 2048 ระดับ และรองรับการเขียนแบบแรเงาได้ รวมถึงตัวปุ่มฟังก์ชัน 2 ปุ่มที่ใช้เรียกคีย์ลัดหรือสลับเปลี่ยนเครื่องมือที่ใช้บ่อยๆ ได้ แต่ว่าฟีเจอร์เหล่านี้จะรองรับเฉพาะแอปที่เป็นพาร์ทเนอร์กับทาง Lamy เท่านั้น

และนี่คือข้อจำกัดอันใหญ่หลวงของปากกาด้ามนี้…

สรุป รีวิว LAMY safari note+ คุ้มแค่ไหน น่าซื้อหรือไม่?

หลังจากที่ผมได้ทดสอบลองใช้งาน ในส่วนของการจับถือและเขียนนั้น ต้องยอมรับเลยว่าเป็นสไตลัสสำหรับเขียนบน iPad ที่ถือจับได้เหมาะมือมากๆ ด้วยปกติเป็นคนที่ใช้ปากกาของ Lamy อยู่แล้ว ยิ่งทำให้ได้ฟิลลิ่งที่เคยเขียนบนกระดาษ ทั้งการเขียนตัวอักษรหรือจดบันทึก พอมาใช้เขียนบน iPad ก็เขียนได้ถนัดมือดีมาก ยกให้เป็นสไตลัสทีถือจับได้ดีที่สุดเท่าที่ใช้มา

แต่อย่างที่ผมเกริ่นไปตอนต้น การออกแบบและความเหมาะมือในการเขียนแบบปากกา Lamy คือจุดเด่นจุดเดียวของ LAMY safari note+ เพราะที่เหลือนั้นเต็มไปด้วยข้อจำกัดที่ทำให้ประสบการณ์ใช้งานหลายอย่างด้อยลงไปอย่างรุนแรง

ประเด็นสำคัญก็คือ การใช้งานแบบเต็มฟีเจอร์นั้น จะทำได้เฉพาะกับแอปที่เป็นพาร์ทเนอร์ร่วมกับ Lamy ซึ่งปรากฎว่ามันมีน้อยมากๆ แถมยังไม่รองรับกับแอปยอดนิยม รวมไปถึงกับแอปของ Apple เองก็ใช้งานได้ไม่เต็มที่ด้วยเช่นกัน

การใช้งานร่วมกับแอปส่วนใหญ่ (หรือเกือบทั้งหมด) LAMY safari note+ จึงทำได้เพียงแค่การเขียนหน้าจอเพียงอย่างเดียว ไม่สามารถเขียนแบบเส้นเล็กเส้นหน้าตามน้ำหนักกด

เท่าที่เช็คแอปที่รองรับแรงกดและปุ่มฟังก์ชั่นนั้น ปัจจุบันมีเพียง Linearity Curve, Linearity Move, Calculator Max, Charcoal, Pen: Calendar for iPad ทั้งเท่านี้ เท่านั้น (ข้อมูลจากเว็บของ Lamy)

รีวิว Lamy Safari Note+

ส่วนกับแอปที่นิยมใช้งานกันไม่ว่าจะเป็น GoodNotes, Procreate, Sketchbook , Noteability ฯลฯ รวมไปถึง Notes และ Freeform ของ Apple เอง จะใช้ได้แค่เขียนเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

ดังนั้นที่ผมให้นิยามของ LAMY safari note+ ว่าเป็น “ปากกาลูกลื่นสำหรับ iPad” ก็เพราะว่านี่คือหัวปากกาที่ดีที่สุดที่ทำได้ สำหรับการเขียนจดบันทึกเพียงอย่างเดียว ไม่เหมาะสำหรับการวาดภาพหรืองานศิลปะอย่างยิ่ง เพราะไม่สามารถรองรับแรงกดของปากกาได้ เชื่อเลยว่าคุณจะรู้สึกหงุดหงิดมากๆ กับข้อจำกัดที่ดูเหมือนเป็นสิ่งพื้นฐานของสไตลัสควรจะมี แต่ไม่สามารถทำได้กับปากกาด้ามนี้

รีวิว Lamy Safari Note+

หรือถ้าหากคุณมี Apple Pencil ใช้ด้วย กะว่าจะใช้ร่วมกันกับ LAMY safari note+ ก็จะเจอปัญหาอีกอย่างก็คือ ถ้าหากสลับไปเชื่อมต่อแล้วใช้ Apple Pencil ก็จะทำให้ใช้ LAMY safari note+ พร้อมกันด้วยไม่ได้ ถ้าจะสลับกลับมาคือ ต้องยกเลิกการเชื่อมต่อแล้วเชื่อมต่อใหม่ทุกครั้ง หรือไม่ก็ต้องรีสตาร์ทเครื่องเลย

พอมาถึงเรื่องของราคาที่ 3,200 บาท ต้องยอมรับว่าค่อนข้างสูง ราคาอยู่ระดับเดียวกันกับ Apple Pencil USB-C ที่มีฟังก์ชั่นการใช้งานได้ครบครันกว่ามากๆ ต่างอย่างเดียวก็คือดีไซน์เท่านั้น

คุณอาจจะเห็นว่าผมชื่นชมกับดีไซน์ของปากกานี้มาก แต่ก็ต้องบอกว่ามันมีจุดด้อยในการออกแบบด้วยเช่นกัน จะเห็นว่ามันมีปลอกปากกาสำหรับเสียบเก็บป้องกันหัวปากกา โดยปกติแล้วเวลาถอดปลอกออก ก็จะเอาไปเสียบที่ท้ายปากกากันใช้มั้ย แต่ว่า LAMY safari note+ ทำไม่ได้ครับ เอามาเสียบคือหลวมไม่ล็อค นั่นคือเวลาใช้ก็ระวังอย่าลืมหรือทำปลอกหายเชียว

ถ้าถามว่า LAMY safari note+ คุ้มหรือไม่ถ้าจะซื้อมาใช้ ส่วนตัวแล้วคงแนะนำว่า ถ้าคุณเป็นแฟนของ Lamy ที่ชอบเรื่องดีไซน์ หรือสะสมปากกา อยากมีไว้สำหรับเอาไว้จดบันทึกบน iPad และอยากแตกต่างจากคนอื่นที่ใช้ Apple Pencil ปากกาด้ามนี้ตอบโจทย์คุณได้ และไม่มี

แต่ว่ามันน่าช้ำใจตรงที่ นอกจากความสวยงามแล้ว สิ่งที่ควรจะทำได้และ Apple Pecil รวมไปถึงปากกา 3rd party ราคาไม่ถึงพันบาททำได้ แต่ LAMY safari note+ ไม่สามารถทำได้ ก็อาจจะทำให้คุณเหนื่อยหน่ายกับมันไม่น้อย เราก็คาดหวังว่า Lamy จะมีการอัปเดตเฟิร์มแวร์ให้ใช้งานร่วมกับแอปมากกว่านี้ในอนาคต

สุดท้ายแนะนำว่าให้ไปที่เคาท์เตอร์ของ Lamy ตามแผนกเครื่องเขียนในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ เพื่อลองถือจับและเขียนจริงๆ ดูก่อนก็ได้ ผมเชื่อว่าน่าจะพอมีให้ทดสอบลองใช้ก่อนที่จะซื้อ บางทีอาจจะถูกใจคนชอบจดชอบเขียนก็ได้

ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ Google News
ช่องทางโซลเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok

รีวิว LAMY safari note+ ปากกาลูกลื่นสำหรับจดบันทึกบน iPad
ดีไซน์สวย เหมาะสำหรับเค่เอาไว้จดบันทึกบน iPad เท่านั้น
ปากกาสไตลัสดีไซน์ไอคอนิค ถือจับถนัดมือดีมาก แต่ไม่รองรับแรงกด ปุ่มคีย์ลัดใช้ไม่ได้ กับแอปยอดนิยมและแอปของแอปเปิล ส่วนแอปที่รองรับก็น้อยมากๆ
ดีไซน์ การออกแบบ
85
ฟีเจอร์การใช้งาน
30
ความคุ้มค่าราคา
40
Reader Rating0 Votes
0
จุดเด่น
ดีไซน์สวยอันเป็นเอกลักษณ์ของ Lamy
แบตเตอรี่ใช้งานได้นาน
ขนาดถือจับเขียนได้ถนัดมือ
ความหน่วงในการเขียนค่อนข้างน้อย
ข้อสังเกต
ใช้งานได้เต็มความสามารถเฉพาะแอปที่รองรับเท่านั้น และมีน้อยมาก
กับแอปอื่นๆ ใช้ได้แค่เป็นสไตลัสเท่านั้น
ราคาค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับ Apple Pencil
ชาร์จผ่านพอร์ต USB-C ไม่มีชาร์จไร้สาย
ใช้ได้กับ iPad อย่างเดียว ไม่รองรับ Android
รองรับแรงกดแค่ 2048 ระดับ โดยที่ปัจจุบันส่วนใหญ่รองรับถึง 4096 ระดับแล้ว
ปลอกปากกาถอดแล้วเสียบเก็บที่ท้ายด้ามปากกาไม่ได้
52

Blogger สาย Multi Function ตามติดเทคโนโลยีมือถือ, แท็บเล็ต, แอพ, เกมคอนโซล, โลกโซเชียล และจักรยาน