กรุงเทพมหานคร เดินหน้าผลักดันนโยบายการจัดการขยะอย่างยั่งยืน หลังสภา กทม. มีมติเห็นชอบร่างข้อบัญญัติฯ ปรับปรุงอัตราค่าธรรมเนียมการจัดการสิ่งปฏิกูลและมูลฝอย ฉบับใหม่ เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2567 โดยมีเป้าหมายสร้างแรงจูงใจให้ประชาชนคัดแยกขยะตั้งแต่ต้นทาง ด้วยการลดค่าธรรมเนียมจาก 60 บาท เหลือเพียง 20 บาทต่อเดือน สำหรับครัวเรือนที่ คัดแยกขยะ ขณะที่ผู้ประกอบการรายใหญ่ที่มีปริมาณขยะมาก จะถูกปรับเพิ่มอัตราค่าธรรมเนียมตามปริมาณขยะที่ทิ้ง คาดว่าจะช่วยเพิ่มรายได้ให้ กทม. จากเดิม 166 ล้านบาท เป็น 664 ล้านบาท
การประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมสามัญ สมัยที่สี่ (ครั้งที่ 4) ประจำปี 2567 ณ ห้องประชุมสภากรุงเทพมหานคร อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร 2 ดินแดง โดยมี สุรจิตต์ พงษ์สิงห์วิทยา ประธานสภากรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุม ได้มีมติเห็นชอบร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง ค่าธรรมเนียมการให้บริการในการจัดการสิ่งปฏิกูลหรือมูลฝอยตามกฎหมายว่าด้วยการสาธารณสุข
พุทธิพัชร์ ธันยาธรรมนนท์ สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร เขตยานนาวา ในฐานะประธานคณะกรรมการวิสามัญพิจารณาร่างข้อบัญญัติฯ เปิดเผยว่า การปรับปรุงอัตราค่าธรรมเนียมครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างแรงจูงใจให้ประชาชนร่วมมือลดและคัดแยกมูลฝอยที่แหล่งกำเนิด โดยจะนำปริมาณขยะมาประกอบการคำนวณอัตราค่าธรรมเนียม
สำหรับอัตราค่าธรรมเนียมที่ปรับปรุงใหม่ แบ่งเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่
- กลุ่มที่ 1 ปริมาณไม่เกิน 20 ลิตรต่อวัน เสียค่าธรรมเนียมรวม 60 บาทต่อเดือน
- กลุ่มที่ 2 ปริมาณเกิน 20 ลิตรแต่ไม่เกิน 1 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน คิดค่าธรรมเนียม 120 บาทต่อ 20 ลิตร
- กลุ่มที่ 3 ปริมาณเกิน 1 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน เสียค่าธรรมเนียม 8,000 บาทต่อลูกบาศก์เมตร
จักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ข้อบัญญัติฯ ฉบับใหม่จะมีผลบังคับใช้ในอีก 180 วัน โดยประชาชนสามารถลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิ์ค่าธรรมเนียมลดลงเหลือ 20 บาทต่อเดือนกับทาง กทม. ได้ ผ่านแอปพลิเคชัน หรือที่ฝ่ายรักษาความสะอาดและสวนสาธารณะในสำนักงานเขตทั้ง 50 เขต ซึ่งเจ้าหน้าที่จะดำเนินการตรวจสอบการ คัดแยกขยะ ก่อนให้สิทธิ์
ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ฝ่ายรักษาความสะอาดและสวนสาธารณะ สำนักงานเขตทั้ง 50 เขต หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน กทม. 1555
ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ Google News
ช่องทางโซลเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok