เตรียมพบกับการแข่งขันฟุตบอลระดับตำนานครั้งยิ่งใหญ่ “Battle of The Reds Thailand 2024 ศึกตำนานแดงเดือด” ที่จะระเบิดความมัน ใจกลางกรุงเทพฯ ในวันที่ 12 ตุลาคม 2567 โดย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.), และ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกับพันธมิตรผู้สนับสนุนจัดการแข่งขันครั้งประวัติศาสตร์นี้
แมตช์การแข่งขันพิเศษครั้งนี้ จะนำนักเตะดาวดังระดับตำนานของสองทีมยักษ์ใหญ่แห่งพรีเมียร์ลีกอังกฤษ “แมนเชสเตอร์ เรดส์” และ “ลิเวอร์พูล เรดส์” มาประชันฝีเท้าให้แฟนบอลชาวไทยได้ชมกันอย่างใกล้ชิด ณ สนามกีฬาแห่งชาติ (ศุภชลาศัย) พร้อมกิจกรรมต้อนรับสุดพิเศษที่จะพานักเตะระดับโลกสัมผัสความเป็นไทยอย่างเต็มอิ่ม นับเป็นโอกาสอันดีที่แฟนบอลชาวไทยจะได้ชมฝีเท้าของนักเตะในตำนานที่เคยสร้างความประทับใจ มาวาดลวดลายฝีเท้าอย่างสุดมัน
Sport Tourism กระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกีฬาและการท่องเที่ยว
นายนิธี สีแพร รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การจัดการแข่งขันครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในการสนับสนุนการจัดการแข่งขันกีฬาเพื่อการท่องเที่ยว (Sport Tourism) แบบบูรณาการ โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวในประเทศไทย
นอกจากนี้ ยังเป็นการตอกย้ำความพร้อมของประเทศไทยในการเป็น Sport Destination ระดับโลก และเป็นเครื่องมือในการดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ โดยเฉพาะแฟนบอลของสองทีมดังระดับโลกอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ ลิเวอร์พูล
นายนิธียังกล่าวเพิ่มเติมว่า “การจัดการแข่งขันครั้งนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินงาน ‘Amazing Thailand Grand Tourism Year 2025’ ตามนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวของรัฐบาล ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างรายได้ให้กับประเทศไทยในหลายมิติ ทั้งด้านการท่องเที่ยว การบริการ และธุรกิจที่เกี่ยวข้อง”
ทัพนักเตะระดับตำนานร่วมระเบิดแข้ง
การแข่งขัน “Battle of the Reds Thailand 2024” ครั้งนี้ได้รวบรวมนักเตะระดับตำนานของทั้งสองทีมมาร่วมลงสนามอย่างคับคั่ง โดยทีม “แมนเชสเตอร์ เรดส์” นำทัพโดย พอล สโคลส์ กองกลางจอมเทคนิค, หลุยส์ ซาฮา กองหน้าผู้ทรงพลัง, เวส บราวน์ กองหลังแกร่ง, ลี ชาร์ป ปีกจอมเลื้อย, เท็ดดี้ เซอริงแฮม กองหน้าผู้เก๋าประสบการณ์
นอกจากนี้ยังมี คีธ กิลเลสพี ปีกความเร็วสูง, รัสเซลล์ เบียร์ดสมอร์ กองกลางสารพัดประโยชน์, แดนนี ซิมป์สัน แบ็คขวาตัวเก่ง และ พอล ราชับกา ผู้รักษาประตูมากประสบการณ์
ส่วนทีม “ลิเวอร์พูล เรดส์” ก็ยกทัพมาทั้ง ไมเคิล โอเวน อดีตดาวยิงทีมชาติอังกฤษ, ร็อบบี ฟาวเลอร์ กองหน้าตำนานของทีม, สตีฟ แม็คมานามาน กองกลางทักษะสูง, เอมิล เฮสกีย์ กองหน้าร่างยักษ์, ยอห์น อาร์เน รีเซ แบ็คซ้ายปอดเหล็ก
พร้อมด้วย เกล็น จอห์นสัน แบ็คขวาทีมชาติอังกฤษ, แพทริก แบร์เกอร์ กองกลางชาวเช็ก, ฌิบริล ซิสเซ กองหน้าทีมชาติฝรั่งเศส, วลาดิเมียร์ ซมิเซอร์ กองกลางชาวเช็ก และ เดวิด ทอมป์สัน กองกลางรุ่นใหญ่ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นนักเตะที่ได้รับความนิยมจากแฟนบอลทั่วโลก
กิจกรรมพิเศษสัมผัสวัฒนธรรมไทย
นางสาวลอร่า ยังค์ ตัวแทนผู้สนับสนุน เผยว่า นอกจากการแข่งขันฟุตบอลแล้ว ยังมีกิจกรรมพิเศษมากมายที่จะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวและสร้างกระแสให้ประเทศไทยเป็นที่รู้จักมากขึ้น โดยมีกำหนดการดังนี้
9 ตุลาคม 2567 งานดินเนอร์ไทยเฮอริเทจพร้อมการแสดงทางวัฒนธรรม เพื่อต้อนรับนักฟุตบอลทั้งสองทีม
10 ตุลาคม 2567
- การแข่งขันกอล์ฟเพื่อการกุศล ณ ไดนาสตี้ กอล์ฟ คันทรีคลับ จังหวัดนครปฐม
- เยี่ยมชมสถานที่สำคัญอย่างพระบรมมหาราชวังและวัดพระศรีรัตนศาสดาราม
- ดินเนอร์มื้อค่ำสไตล์ไทยเฮอริเทจ สัมผัสความอร่อยจากร้านอาหารชื่อดังและสตรีทฟู้ดไทย
11 ตุลาคม 2567
- กิจกรรม บีบีจี ฟุตบอลแคมป์ สนับสนุนโดย ซีพี-เมจิ ณ สนามกีฬาแห่งชาติ (ศุภชลาศัย)
- ล่องเรือรับประทานอาหารค่ำท่ามกลางบรรยากาศพระอาทิตย์ตกของแม่น้ำเจ้าพระยา
“ทุกกิจกรรมล้วนมุ่งหวังที่จะมอบประสบการณ์ที่ดีและสร้างความประทับใจให้แก่นักฟุตบอลทุกคน ซึ่งจะช่วยเผยแพร่แง่มุมอันดีงามของประเทศไทยไปสู่สายตาแฟนๆ ฟุตบอลทั่วโลกได้อย่างแน่นอน” นางสาวลอร่า ยังค์ กล่าวเสริม
ความคาดหวังและผลกระทบต่อวงการฟุตบอลไทย
การจัดการแข่งขัน “Battle of the Reds Thailand 2024” นอกจากจะเป็นการสร้างความตื่นเต้นให้กับแฟนบอลชาวไทยแล้ว ยังคาดว่าจะส่งผลดีต่อวงการฟุตบอลไทยในระยะยาว โดยเฉพาะการสร้างแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนที่รักในกีฬาฟุตบอล
นอกจากนี้ ยังเป็นโอกาสอันดีที่ผู้จัดการทีม โค้ช และนักฟุตบอลไทยจะได้เรียนรู้และแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับนักเตะระดับตำนานของโลก ซึ่งอาจนำไปสู่การพัฒนาวงการฟุตบอลไทยในอนาคต
แฟนบอลที่สนใจร่วมชมเกมการแข่งขันประวัติศาสตร์ครั้งนี้ สามารถเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับวันที่ 12 ตุลาคม 2567 ณ สนามกีฬาแห่งชาติ (ศุภชลาศัย) กรุงเทพมหานคร ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook | Instagram | TikTok
ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ Google News
ช่องทางโซลเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok
