การ์ทเนอร์ เปิดเผยตัวเลขคาดการณ์ล่าสุด ชี้ปี 2568 จำนวนยานยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกจะเพิ่มขึ้น 33% แตะระดับ 85 ล้านคัน โดยจีนและยุโรปครองส่วนแบ่งตลาดรวมกันถึง 82% ขณะที่ไทยมีแนวโน้มเติบโต 49% คิดเป็น 77,800 คัน
ทั้งนี้ การ์ทเนอร์ ระบุว่า แม้มีอุปสรรคหลายด้านในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าช่วงที่ผ่านมา แต่ยอดรวมปี 2567 ยังคงแตะ 64 ล้านคัน โดยรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ (BEV) จะมีสัดส่วนสูงถึง 73% ของตลาดรวม พร้อมคาดการณ์ว่าภายในปี 2573 ผู้ผลิตจะสามารถรีไซเคิลแบตเตอรี่ได้สูงถึง 95% ช่วยบรรเทาปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบ
ตามรายงานล่าสุดของ โจนาธาน ดาเวนพอร์ท ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัยของการ์ทเนอร์ เปิดเผยว่า การเติบโตของตลาดยานยนต์ไฟฟ้าในปี 2568 จะขับเคลื่อนโดยจีนและยุโรปเป็นหลัก โดยมีส่วนแบ่งตลาด 58% และ 24% ตามลำดับ ทั้งนี้ จีนจะยังคงครองความเป็นผู้นำตลาดด้วยจำนวนรถยนต์ไฟฟ้า 49 ล้านคัน ตามด้วยยุโรป 20.6 ล้านคัน และอเมริกาเหนือ 10.4 ล้านคัน
สำหรับ รถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ (BEV) คาดว่าจะมีจำนวนเพิ่มขึ้น 35% เป็น 62 ล้านคันในปี 2568 ขณะที่ รถยนต์ไฟฟ้าปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) จะเติบโตช้ากว่าที่ 28% หรือ 23 ล้านคัน ด้านตลาดไทยมีแนวโน้มเติบโตโดดเด่น โดยคาดว่าจะมีรถยนต์ไฟฟ้ารวมกว่า 77,800 คัน เพิ่มขึ้น 49% จากปีก่อน แบ่งเป็น BEV 57,900 คัน และ PHEV 19,880 คัน
ดาเวนพอร์ทกล่าวว่า เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนวัตถุดิบ ผู้ผลิตกำลังเร่งพัฒนาเทคโนโลยีการรีไซเคิลแบตเตอรี่ โดยคาดว่าภายในอีก 6 ปี หรือปี 2573 จะสามารถรีไซเคิลได้สูงถึง 95% ซึ่งจะช่วยลดการพึ่งพาการขุดแร่ใหม่ เนื่องจากแบตเตอรี่ที่ใช้แล้วมีความเข้มข้นของโลหะหายากสูงกว่าแร่ธรรมชาติ การรีไซเคิลจึงไม่เพียงช่วยลดต้นทุนการผลิต แต่ยังเป็นการจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์อย่างมีความรับผิดชอบ
ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ Google News
ช่องทางโซลเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok