NVIDIA จัดงาน GeForce RTX AI PC Tour ในกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2024 นำโดย Jeff Yen ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์เทคนิค ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าของเทคโนโลยี AI บนการ์ดจอ RTX ที่ช่วยยกระดับประสิทธิภาพการทำงานในด้านต่างๆ ทั้งการเล่นเกม การสร้างคอนเทนต์ และการใช้งานทั่วไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งความสามารถของ Tensor Cores ที่เป็นตัวเร่งการประมวลผล AI โดยเฉพาะบน GPU ทุกรุ่น ซึ่งปัจจุบันมีแอพพลิเคชันและเกมที่รองรับการทำงานร่วมกับ GeForce RTX และ NVIDIA RTX GPU มากกว่า 600 รายการ บนอุปกรณ์กว่า 100 ล้านเครื่องทั่วโลก
ในงานนี้ ทีมงาน TechOffside เราได้ไปร่วมและได้สัมผัสความล้ำหน้าของเทคโนโลยีของ AI ของ NVIDIA ที่มีการพัฒนาอย่างมาอย่างต่อเนื่อง และนี่คือหลากหลายเทคโนโลยีที่สามารถประมวลผลบนคอมพิวเตอร์ของคุณ ที่เปี่ยมด้วยประสิทธิภาพขั้นสูง ที่สามารถทำงานคำสั่งที่ซับซ้อนได้อย่างรวดเร็วระดับเรียลไทม์ ยกระดับทั้งการเล่นเกมที่ไม่เคยทำได้ และการทำงานต่างๆ ในแต่วันได้อย่างน่าทึ่ง
เทคโนโลยี NVIDIA ACE & Digital Human
การสาธิตครั้งนี้ได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถของ NVIDIA Audio2Face ที่ใช้ NVIDIA Omniverse™ ในการสร้างแอนิเมชันใบหน้าและการซิงค์ริมฝีปากจากเสียงพูด โดยใช้ AI ในการประมวลผล ทำให้ตัวละครสามารถแสดงอารมณ์และท่าทางที่สมจริง
นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาร่วมกับ Inworld AI เพื่อสร้างตัวละคร NPC ที่สามารถโต้ตอบกับผู้เล่นได้แบบเรียลไทม์ ทั้งหมดนี้ประมวลผลบนเครื่องพีซีที่ใช้ GeForce RTX โดยตรง ตามด้วยการสาธิตเกม Mecha BREAK จาก Amazing Seasun Games ที่ใช้โมเดลภาษาขนาดเล็กในการสร้างการโต้ตอบกับตัวละคร ผู้เล่นสามารถสั่งการด้วยเสียงหรือข้อความ เช่น การเปลี่ยนสีหุ่นยนต์ตามที่ต้องการ
อีกหนึ่งไฮไลท์คือการสาธิตเกม Legends จากค่าย Perfect World Games ที่นำเสนอการพัฒนาเทคโนโลยี NVIDIA ACE และมนุษย์ดิจิทัลโดยใช้โมเดลภาษาขนาดใหญ่ ตัวละคร Yun Ni สามารถมองเห็นและระบุบุคคลหรือวัตถุในโลกจริงผ่านกล้องคอมพิวเตอร์ด้วย ChatGPT-4O แม้ปัจจุบันจะรองรับเพียงภาษาอังกฤษและจีนแมนดาริน แต่นี่เป็นก้าวสำคัญของการพัฒนาเกมในอนาคต
เทคโนโลยี AI ในเกม (DLSS3.5, Ray Tracing, และ NVIDIA Reflex)
ในส่วนของเทคโนโลยีเกม ได้มีการสาธิตผ่านเกม Star Wars™ Outlaws ที่พัฒนาด้วย Snowdrop Engine จาก Massive Entertainment โดดเด่นด้วยการสร้างโลกเปิดที่มีรายละเอียดสมจริง ทั้งสภาพแวดล้อม ยานอวกาศ และสถานที่ไอคอนิคต่างๆ
เกมนี้ใช้เทคโนโลยี NVIDIA DLSS 3.5 พร้อม Ray Reconstruction ที่ช่วยให้การเล่นเกมบนความละเอียด 4K 144Hz เป็นไปอย่างลื่นไหล นอกจากนี้ยังมี NVIDIA Reflex ที่ช่วยลดความหน่วงของระบบ ทำให้การควบคุมเกมตอบสนองได้แม่นยำและรวดเร็วยิ่งขึ้น
เทคโนโลยี AI เพื่อการสร้างภาพ
การสาธิต Comfy UI แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการสร้างภาพด้วย Stable Diffusion ที่เร็วขึ้นกว่า 10 เท่า สามารถเปลี่ยนภาพถ่ายเซลฟี่ให้เป็นภาพซูเปอร์ฮีโร่หรือตัวละครต่างๆ ได้ในเวลาไม่กี่วินาที ด้วยการเร่งความเร็วจาก RTX ผ่าน TensorRT
เทคโนโลยี AI สำหรับการใช้งานประจำวัน
ChatRTX เป็นแชทบอท AI ส่วนบุคคลที่ช่วยในการค้นหาข้อมูลบนเครื่องคอมพิวเตอร์ ไม่ว่าจะเป็นเอกสาร รูปภาพ หรือไฟล์ต่างๆ โดยใช้เทคโนโลยี retrieval-augmented generation (RAG) และ TensorRT-LLM การทำงานทั้งหมดประมวลผลบนเครื่องโดยตรง จึงมั่นใจได้ในความปลอดภัยของข้อมูล
นอกจากนี้ยังมี NVIDIA Broadcast ที่ช่วยยกระดับคุณภาพเสียงและวิดีโอสำหรับการสตรีมและประชุมออนไลน์ และ NVIDIA Canvas ที่ใช้ AI เปลี่ยนภาพร่างง่ายๆ ให้กลายเป็นภาพภูมิทัศน์สมจริง เหมาะสำหรับงานออกแบบและสร้างสรรค์
จากการสาธิตเทคโนโลยีทั้งหมดในงาน GeForce RTX AI PC Tour ครั้งนี้ นับเป็นก้าวสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าอย่างก้าวกระโดดของ NVIDIA ในการนำ AI มาประยุกต์ใช้กับคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ทั้งการสร้างตัวละครดิจิทัลที่มีชีวิตชีวา การเล่นเกมที่สมจริงและลื่นไหลยิ่งกว่าที่เคย รวมถึงเครื่องมือสร้างสรรค์และผู้ช่วย AI ที่ทำให้การทำงานง่ายขึ้น นับเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่จะปฏิวัติประสบการณ์การใช้งานคอมพิวเตอร์ในอนาคตอันใกล้ ด้วยพลังของ AI ที่อยู่ในคอมพิวเตอร์พีซีของผู้ใช้งานทั่วไป
ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ GeForce RTX AI PCs และเทคโนโลยีล่าสุดจาก NVIDIA ได้ที่ https://www.nvidia.com/th-th/ai-on-rtx/
ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ Google News
ช่องทางโซลเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok