รีวิว Garmin FENIX 8 ที่สุดของมัลติสปอร์ตสมาร์ทวอทช์ระดับพรีเมียม ได้ทั้งลุยได้ทั้งเท่

รีวิว Garmin FENIX 8 มัลติสปอร์ตวอทช์รุ่นพรีเมียม ยกระดับจัดฟีเจอร์ขั้นสุดทั้งการออกกำลังกาย การเล่นกีฬา สุขภาพ และความเป็นสมาร์ทวอทช์ที่ใช้งานในแต่ละวันแบบไร้ขีดจำกัดในทุกด้าน

ไฮไลท์สำคัญของ FENIX 8 มาพร้อมความสามารถในการดำน้ำลึกถึง 40 เมตร ระบบไมโครโฟนและลำโพงสำหรับรับสายและสั่งงานด้วยเสียง รวมถึงแบตเตอรี่ที่อึดขึ้น โดยที่แบตเตอรี่สามารถใช้งานสูงสุดถึง 29 วัน (ในโหมดสมาร์ทวอทช์) โดยเฉพาะในรุ่น Solar ที่ได้รับการพัฒนาให้เก็บพลังงานได้มากขึ้น

และเพื่อตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลาย FENIX 8 จึงมาพร้อมตัวเลือกที่ครอบคลุมทั้งขนาดตัวเรือน 43, 47 และ 51 มิลลิเมตร พร้อมให้เลือกระหว่างจอแสดงผลแบบ AMOLED ที่สวยงามคมชัด หรือจอ MIP with Solar ที่เน้นประสิทธิภาพด้านแบตเตอรี่ นอกจากนี้ยังมี Fenix E รุ่นพื้นฐานที่ยังคงมาพร้อมจอ AMOLED สำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์ Fenix ในรูปแบบที่เรียบง่ายขึ้น

สำหรับรุ่นที่ทีมงาน TechOffside เราได้มาทดสอบในการ รีวิว นี้ จะเป็น Garmin FENIX 8 ขนาดตัวเรือน 51 มิลลิเมตร ที่มีขนาดใหญ่สุดในซีรี่ย์ หลังจากที่ได้ลองใช้งานร่วมเดือน ถึงว่าน่าประทับใจมาก เพราะเป็นการพัฒนาประสิทธิภาพในด้านการออกกำลังกายและกิจกรรมให้ดีขึ้น และรวมจุดเด่นของ Epix เข้ามาไว้ภายใต้แบรนด์ FENIX เพียงแบรนด์เดียว

ดีไซน์และฮาร์ดแวร์ที่พัฒนาขึ้นอีกขั้น

Garmin FENIX 8 Series มาพร้อมการปรับโฉมครั้งใหญ่ด้วยการนำเสนอตัวเลือกหน้าจอสองรูปแบบที่แตกต่างกัน ได้แก่

• จอ AMOLED ที่ให้ภาพสวยคมชัดสดใส เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความสวยงามในการแสดงผล
• จอ MIP (Memory-in-Pixel) พร้อมระบบชาร์จพลังงานแสงอาทิตย์ที่ได้รับการพัฒนาให้เก็บพลังงานได้มากขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการแบตเตอรี่อึดเป็นพิเศษ

ด้านขนาดตัวเรือน FENIX 8 มีให้เลือกถึง 3 ขนาด ได้แก่ 43 มิลลิเมตรสำหรับข้อมือเล็ก 47 มิลลิเมตรสำหรับขนาดกลาง และ 51 มิลลิเมตรสำหรับผู้ที่ต้องการหน้าจอขนาดใหญ่พิเศษ ส่วนตัวเรือนผลิตจากวัสดุระดับพรีเมียมที่ผ่านการรับรองมาตรฐานทางทหาร ทนทานต่อการใช้งานหนัก พร้อมให้เลือกระหว่างสแตนเลสสตีลและไทเทเนียมที่มีน้ำหนักเบากว่า

นวัตกรรมใหม่ที่โดดเด่นคือระบบปุ่มกดแบบ Leakproof ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ ช่วยเพิ่มความสามารถในการกันน้ำลึกถึง 40 เมตร โดยไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำรั่วซึม นอกจากนี้ยังมี Sensor Guard ที่ช่วยปกป้องไมโครโฟนและเซ็นเซอร์วัดความดันบรรยากาศ ทำให้อุปกรณ์มีความทนทานมากยิ่งขึ้น

สำหรับปุ่มกดนั้น ผมค่อนข้างชอบที่สามารถกดได้นุ่มและเฟิร์มกว่ารุ่นก่อน และไม่ต้องออกน้ำหนักมาก ซึ่งจุดเด่นของมัลติสปอร์ตวอทช์นั้น ก็คือการควบคุมและสั่งงานได้ทั้งปุ่มกดและแตะสัมผัสหน้าจอ เพราะในหลายๆ กิจกรรมก็มีความสะดวกที่ต่างกันไป อย่างเวลาที่ดำน้ำหรือออกกำลังกาย การสั่งผ่านปุ่มกดจะทำได้ดีกว่า

อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่น่าสนใจคือไฟ LED Flashlight ที่ติดตั้งมาในตัว สามารถปรับระดับความสว่างได้ผ่านหน้าจอ มีทั้งโหมดไฟปกติ ไฟกระพริบ (Strobe Mode) และไฟสีแดงสำหรับการใช้งานในที่มืด ฟีเจอร์นี้ไม่เพียงแต่สะดวกสำหรับการใช้งานทั่วไป แต่ยังเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับกิจกรรมกลางแจ้งในเวลากลางคืนหรือสถานการณ์ฉุกเฉิน

ตัวสายนาฬิกาในรุ่นที่เราได้มาทดสอบ วัสดุเป็นซิลิโคนที่มีความนุ่มนวล สวมใส่สบายและกระชับ ออกแบบมาเพื่อให้ระบายความชื้นได้ดี ทำให้เวลาสวมใส่ไม่อับเหงื่อ รวมถึงตัวสายยังเป็นแบบ Quick release ที่ถอดได้ง่าย เหมาะสำหรับการปรับดีไซน์ของสายได้หลากแบบหลายสไตล์และโอกาสต่างๆ ได้อย่างลงตัว

หน้าจอ AMOLED บน Fenix 8: ปรับโฉมใหม่ของนาฬิกาสายลุย

หน้าจอ AMOLED บน Garmin FENIX 8 น่าจะเป็นสิ่งที่เปลี่ยนไปแล้วถูกใจแฟนๆ ไม่น้อย ด้วยการแสดงผลที่คมชัด สีสันสดใส และมีความคมชัดสูงแม้ใช้งานกลางแจ้งใต้แสงแดดจัด ระบบหน้าจอแบบ Always-on Display ทำงานได้อย่างรวดเร็วเมื่อยกข้อมือขึ้นดู และสามารถปรับความสว่างอัตโนมัติให้เหมาะสมกับสภาพแสงโดยรอบ

การเปลี่ยนมาใช้จอ AMOLED ไม่เพียงแต่ทำให้การแสดงผลสวยงามขึ้น แต่ยังช่วยให้การอ่านข้อมูลระหว่างออกกำลังกายทำได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะในสภาพแสงน้อย, ใต้ร่มไม้ หรือเวลากลางคืน การแสดงผลแผนที่มีความคมชัดและอ่านง่ายขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ส่วนการตอบสนองต่อการสัมผัสทำได้แม่นยำและรวดเร็ว แม้จะสวมถุงมือหรือมือเปียกน้ำ

และในการใช้งานในเวลากลางคืน ยังมีเลือกเป็นโหมด Red Shift ที่เปลี่ยนการแสดงผลให้เป็นโทนสีแดงทั้งหมด ที่ช่วยให้มองเห็นเวลาอยู่ในที่มืดชัดมากขึ้น และยังช่วยประหยัดพลังได้อีกด้วย

เริ่มต้นใช้งานและการเชื่อมต่อกับ Garmin Connect

การเริ่มต้นใช้งาน FENIX 8 Series เป็นเรื่องง่ายผ่านแอปพลิเคชัน Garmin Connect ที่รองรับทั้งระบบ iOS และ Android เพียงดาวน์โหลดแอป สร้างบัญชีผู้ใช้ และทำตามขั้นตอนการจับคู่อุปกรณ์ที่แสดงบนหน้าจอ สิ่งที่น่าสนใจคือ Fenix 8 จะถามถึงขนาดตัวอักษรที่ต้องการตั้งแต่ครั้งแรกที่เปิดใช้งาน ช่วยให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งการแสดงผลให้เหมาะกับสายตาได้ทันที นอกจากนี้ยังสามารถเลือกดาวน์โหลดแอปเพิ่มเติมอย่าง Spotify สำหรับฟังเพลงออฟไลน์ หรือเชื่อมต่อกับบริการอื่นๆ เช่น Strava ได้อย่างง่ายดายผ่าน Wi-Fi

Garmin Connect ไม่ได้เป็นเพียงแอปสำหรับตั้งค่านาฬิกาเท่านั้น แต่ยังเป็นศูนย์กลางข้อมูลสุขภาพและการออกกำลังกายที่ครบครัน คุณสามารถติดตามกิจกรรมประจำวัน วิเคราะห์ข้อมูลการนอน ความเครียด และค่า HRV ได้อย่างละเอียด มีฟีเจอร์สร้างแผนการฝึกซ้อมที่ปรับแต่งได้ตามต้องการ สามารถดูแผนที่เส้นทางวิ่งหรือปั่นจักรยานยอดนิยม และแชร์ข้อมูลกิจกรรมกับเพื่อนในชุมชนได้ ที่สำคัญ ข้อมูลทั้งหมดถูกจัดเก็บและแสดงผลในรูปแบบที่เข้าใจง่าย พร้อมกราฟและสถิติย้อนหลังที่ช่วยให้เห็นพัฒนาการของตัวเองได้ชัดเจน

นอกจากนี้ ยังมีแอปอย่าง IQ Connect สำหรับเลือกดาวน์โหลด Watchface แบบใหม่ๆ (มีทั้งแบบโหลดฟรีและเสียเงิน) รวมถึงติดตั้งโปรแกรมเพื่อใช้งานได้เพิ่มเติม

การชาร์จและการดูแลแบตเตอรี่

Garmin FENIX 8 Series มาพร้อมสายชาร์จแบบหัวเสียบ USB-C ใช้งานง่ายเพียงนำมาเสียบกับช่องชาร์จที่ด้านหลังตัวเรือน ก็จะยึดกับตัวเรือนได้อย่างแน่นหนา เพื่อยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ เราแนะนำให้ชาร์จผ่านพอร์ต USB บนคอมพิวเตอร์ หรือใช้อะแดปเตอร์ที่มีกำลังไฟไม่เกิน 5V/1A เพราะกับอุปกรณ์ที่มีความจุแบตเตอรี่ที่ไม่มากนัก การชาร์จด้วยกำลังไฟสูงอาจทำให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็วขึ้น นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงการชาร์จในที่ที่มีอุณหภูมิสูงหรือความชื้นมาก

รวมถึงไม่ควรปล่อยให้แบตเตอรี่หมดจนเกลี้ยงก่อนชาร์จใหม่ ถึงแม้ว่าแบตเตอรี่ที่อึดระดับชาร์จเต็มอยู่ได้เกือบเดือน แต่การชาร์จจาก 0% ถึง 100% อาจใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับแหล่งจ่ายไฟที่ใช้ ผมแนะนำให้ลองถอดชาร์จอาทิตย์ละ 1 ครั้ง ถือว่ากำลังดี ใช้เวลาแค่ประมาณตื่นเช้ามาถอดชาร์จแล้วอาบน้ำแต่งตัว ก็ได้แบตเตอรี่เต็มเรียร้อยแล้ว

ฟีเจอร์การฝึกซ้อมระดับมืออาชีพ

Garmin FENIX 8 Series มีประสิทธิภาพสำหรับผู้ที่ต้องการโฟกัสในเรื่องของการเล่นกีฬาไปจนถึงการฝึกซ้อมที่เข้มข้น เพราะความสามารถที่เสมือนเป็นโค้ชส่วนตัวระดับมืออาชีพที่สวมใส่บนข้อมือ ด้วยฟีเจอร์การฝึกซ้อมที่ครอบคลุมทั้งการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก การวางแผนการซ้อม และการติดตามพัฒนาการอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ ทำให้นักกีฬาทุกระดับสามารถฝึกซ้อมได้อย่างมีประสิทธิภาพและบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้

การฝึกซ้อมแบบวิทยาศาสตร์และแผนเสริมสร้างความแข็งแรง

Garmin ได้พัฒนาระบบ Scientific Training ที่รวบรวมองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์การกีฬาเข้ากับเทคโนโลยีการติดตามและวิเคราะห์ข้อมูล โดยเฉพาะอย่างยิ่งแผนการฝึกเวทเทรนนิ่งที่ออกแบบมาใหม่ ให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งโปรแกรมการฝึกได้ตามเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มกล้ามเนื้อ เสริมความแข็งแรง หรือปรับปรุงสมรรถภาพโดยรวม

แผนการฝึกแต่ละโปรแกรมมีระยะเวลา 4-6 สัปดาห์ พร้อมคำแนะนำรายละเอียดของแต่ละท่า จำนวนเซต และน้ำหนักที่เหมาะสม นาฬิกาจะติดตามและบันทึกการเคลื่อนไหวในแต่ละท่า พร้อมแสดงผลการฝึกและพัฒนาการผ่านแอป Garmin Connect ทำให้การฝึกเวทเป็นเรื่องที่เข้าใจง่ายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

โปรแกรมฝึกซ้อมเฉพาะกีฬา

Sport-Specific Workouts เป็นนวัตกรรมใหม่ที่ Garmin พัฒนาขึ้นเพื่อนักกีฬาที่ต้องการฝึกซ้อมอย่างมีเป้าหมายชัดเจน โดยระบบจะวิเคราะห์และออกแบบโปรแกรมการฝึกที่เน้นพัฒนากล้ามเนื้อเฉพาะส่วนที่สำคัญสำหรับกีฬาแต่ละประเภท

ผู้ใช้สามารถเลือกชนิดกีฬาที่ต้องการฝึกซ้อมผ่านแอป Garmin Connect จากนั้นระบบจะสร้างแผนการฝึกที่เหมาะสม พร้อมท่าฝึกที่ช่วยพัฒนาความแข็งแรง ความทนทาน และความคล่องแคล่วที่จำเป็นสำหรับกีฬานั้นๆ แต่ละโปรแกรมได้รับการออกแบบโดยผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์การกีฬา ช่วยให้การฝึกซ้อมมีประสิทธิภาพและลดความเสี่ยงจากการบาดเจ็บ

การวิเคราะห์การฝึกซ้อมขั้นสูง

Advanced Training Metrics บน FENIX 8 นำเสนอข้อมูลเชิงลึกที่ช่วยให้เข้าใจสมรรถภาพร่างกายได้ดียิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Endurance Score ที่บ่งบอกถึงความทนทานโดยรวม Hill Score สำหรับประเมินความสามารถในการวิ่งขึ้นเขา และค่า VO2 Max ที่แสดงถึงประสิทธิภาพการใช้ออกซิเจนสูงสุด

นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ Real-Time Stamina ที่แสดงระดับความอดทนแบบเรียลไทม์ระหว่างออกกำลังกาย ช่วยให้ผู้ใช้วางแผนการออกแรงได้เหมาะสม พร้อมกับ Training Status และ Training Load ที่ช่วยติดตามและวิเคราะห์ผลกระทบของการฝึกซ้อม ทำให้สามารถปรับแผนการฝึกให้เหมาะสมกับสภาพร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

แอพกีฬามากกว่า 100 รูปแบบ

Garmin FENIX 8 มาพร้อมโปรไฟล์กีฬาที่หลากหลายกว่า 100 รูปแบบ ครอบคลุมทุกความต้องการตั้งแต่กีฬาพื้นฐานอย่างวิ่ง ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน ไปจนถึงกีฬาเฉพาะทางอย่างกอล์ฟ เทนนิส แบดมินตัน และปีนเขา สำหรับนักวิ่งมีโหมดย่อยที่หลากหลาย ทั้งวิ่งในร่ม วิ่งบนลู่ วิ่งเทรล และวิ่งบนลู่กรีฑามาตรฐาน แต่ละโหมดได้รับการออกแบบให้เก็บข้อมูลที่เฉพาะเจาะจง เช่น อัตราก้าวในการวิ่ง ระยะก้าว หรือเวลาต่อรอบ

นอกจากกีฬาทั่วไปแล้ว FENIX 8 ยังรองรับกีฬาผจญภัยและกิจกรรมกลางแจ้งอย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นการปีนหน้าผา (Bouldering) การเดินป่า การสกี สโนว์บอร์ด พายเรือคายัค พายเรือแคนู Stand-up Paddleboarding และการขี่ม้า สำหรับกีฬาในร่ม มีทั้งโยคะ พิลาทิส คาร์ดิโอ เวทเทรนนิ่ง HIIT และการเต้นหลากหลายรูปแบบ รวมถึงกีฬาต่อสู้อย่างมวย คิกบ็อกซิ่ง และศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสาน

ความพิเศษของ FENIX 8 อยู่ที่การสามารถปรับแต่งหน้าจอแสดงข้อมูล (Data Field) ได้ตามต้องการแม้ในระหว่างออกกำลังกาย และฟีเจอร์ Change Sport ที่ช่วยให้เปลี่ยนประเภทกีฬาได้โดยไม่ต้องหยุดการบันทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการฝึกซ้อมแบบผสมผสานหรือการแข่งขันไตรกีฬา ทุกข้อมูลจะถูกบันทึกและวิเคราะห์แยกตามประเภทกีฬา พร้อมซิงค์ข้อมูลไปยัง Garmin Connect เพื่อดูรายละเอียดเชิงลึกและติดตามพัฒนาการได้อย่างต่อเนื่อง

อัพเกรดความสามารถด้านการดำน้ำครั้งใหญ่

FENIX 8 ได้เพิ่มหลายฟีเจอร์สำคัญจากนาฬิกาตระกูล Descent ของ Garmin มาไว้ในนาฬิกามัลติสปอร์ต นาฬิการุ่นนี้รองรับการดำน้ำลึกถึง 40 เมตรตามมาตรฐาน EN13319 พร้อมระบบปุ่มกดแบบ Leakproof ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ โดยไม่มีรูเจาะทะลุเข้าไปในตัวเรือน แต่ใช้การตรวจจับการกดแบบ Inductive ทำให้มั่นใจได้ว่าน้ำจะไม่สามารถรั่วซึมเข้าไปภายในตัวเครื่องได้ พร้อม Sensor Guard ที่ช่วยปกป้องเซ็นเซอร์วัดความดันและไมโครโฟนจากแรงกระแทกใต้น้ำ

สำหรับการดำน้ำลึก FENIX 8 มาพร้อมโหมด Scuba Dive ที่ทำหน้าที่เป็นคอมพิวเตอร์ดำน้ำเต็มรูปแบบ รองรับทั้งการดำน้ำแบบใช้อากาศปกติ (Air) และไนตรอกซ์ (Nitrox) สามารถแสดงข้อมูลสำคัญเช่น ความลึก เวลาดำน้ำ อุณหภูมิน้ำ เข็มทิศใต้น้ำ และเวลาที่สามารถอยู่ที่ความลึกนั้นได้อย่างปลอดภัย (No Decompression Limit) นอกจากนี้ยังมีระบบแจ้งเตือนการขึ้นผิวน้ำเร็วเกินไป และการคำนวณเวลาพักผิวน้ำ (Surface Interval) รวมถึงเวลาห้ามขึ้นเครื่องบิน (No-Fly Time) เพื่อความปลอดภัยสูงสุด

สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการดำน้ำแบบฟรีไดฟ์ FENIX 8 มีโหมด Apnea ที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับการดำน้ำแบบไม่ใช้ถังอากาศ พร้อมบันทึกสถิติการดำแต่ละครั้ง ทั้งความลึกสูงสุด เวลาดำน้ำ และเวลาพักผิวน้ำ ส่วนนักท่องเที่ยวทั่วไปสามารถใช้โหมด Snorkel สำหรับการดำน้ำตื้นเพื่อชมปะการัง โดยทุกกิจกรรมจะถูกบันทึกพิกัด GPS ขณะดำน้ำ ทำให้สามารถย้อนกลับไปดูเส้นทางและจุดดำน้ำที่น่าสนใจได้ในภายหลัง ผ่านแอป Garmin Dive ที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับนักดำน้ำ

แผนที่และการนำทางขั้นสูง

Garmin FENIX 8 ยกระดับประสบการณ์การนำทางกลางแจ้งด้วยระบบแผนที่และการนำทางที่ล้ำสมัย มาพร้อมแผนที่ความละเอียดสูงในตัว ทั้งแผนที่ TopActive สำหรับกิจกรรมกลางแจ้ง และแผนที่ดาวเทียม ผสานกับเทคโนโลยี GPS รุ่นใหม่และฟีเจอร์การนำทางอัจฉริยะที่ช่วยให้การผจญภัยเป็นเรื่องที่สนุกและปลอดภัยยิ่งขึ้น

Multi-band GNSS & SatIQ

FENIX 8 ใช้เทคโนโลยี Multi-band GNSS ที่รองรับระบบดาวเทียมนำทางหลายระบบพร้อมกัน ทั้ง GPS, GLONASS, Galileo, BeiDou และ QZSS ช่วยให้การระบุตำแหน่งแม่นยำแม้ในพื้นที่ที่สัญญาณดาวเทียมเข้าถึงได้ยาก เช่น ในหุบเขาลึก หรือระหว่างตึกสูงในเมือง นอกจากนี้ยังรองรับความถี่คู่ (Dual-frequency) ที่ช่วยลดการสะท้อนของสัญญาณและเพิ่มความแม่นยำ

ระบบ SatIQ เป็นนวัตกรรมใหม่ที่ช่วยจัดการการใช้งานดาวเทียมอย่างชาญฉลาด โดยจะปรับเปลี่ยนการรับสัญญาณดาวเทียมโดยอัตโนมัติตามสภาพแวดล้อม เมื่ออยู่ในที่โล่งจะใช้ดาวเทียมน้อยลงเพื่อประหยัดแบตเตอรี่ แต่เมื่อเข้าสู่พื้นที่ที่สัญญาณอ่อน จะเพิ่มการใช้งานดาวเทียมและความถี่เพื่อรักษาความแม่นยำ

ClimbPro & PacePro

ฟีเจอร์ ClimbPro ช่วยให้นักวิ่งเทรลและนักปั่นจักรยานวางแผนการปั่นขึ้นเขาได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยแสดงข้อมูลการปีนในแต่ละช่วงแบบเรียลไทม์ ทั้งระยะทางที่เหลือ ความชันเฉลี่ย และความสูงที่ต้องไต่ขึ้นไป ช่วยให้สามารถจัดการพลังงานในการปีนแต่ละช่วงได้อย่างเหมาะสม

ส่วน PacePro เป็นระบบวางแผนการวิ่งอัจฉริยะที่คำนึงถึงความชันของเส้นทาง ช่วยให้นักวิ่งรักษาเพซการวิ่งให้สม่ำเสมอแม้ในเส้นทางที่มีความสูงต่ำไม่เท่ากัน โดยสามารถตั้งค่าเป้าหมายเวลาและกลยุทธ์การวิ่งได้ตามต้องการ เช่น การวิ่งในอัตราคงที่หรือการเร่งความเร็วในช่วงท้าย

Dynamic Round Trip

เป็นฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยสร้างเส้นทางวิ่งหรือปั่นจักรยานแบบไป-กลับโดยอัตโนมัติ เพียงกำหนดระยะทางที่ต้องการ ระบบจะแนะนำเส้นทางที่เหมาะสมโดยใช้ข้อมูลจากนักกีฬาคนอื่นๆ ในพื้นที่ เมื่อวิ่งไปได้ประมาณ 40% ของระยะทาง ระบบจะคำนวณจุดกลับและเส้นทางกลับที่เหมาะสม

นอกจากนี้ หากผู้ใช้ออกนอกเส้นทางที่วางแผนไว้ ฟีเจอร์นี้จะปรับเส้นทางใหม่โดยอัตโนมัติ โดยยังคงรักษาระยะทางเป้าหมายไว้ ทำให้สามารถสำรวจเส้นทางใหม่ๆ ได้อย่างอิสระโดยไม่ต้องกังวลเรื่องการหลงทาง

Quick Map Layer Selection

การเลือกชั้นแผนที่ทำได้ง่ายและรวดเร็วขึ้นผ่านเมนูด่วนบนหน้าจอแผนที่ สามารถสลับระหว่างแผนที่ TopActive มาตรฐาน แผนที่ดาวเทียม หรือแผนที่เฉพาะทางอื่นๆ ได้ทันที รวมถึงการเปิด-ปิดการแสดงข้อมูลเพิ่มเติม เช่น จุดสนใจ เส้นชั้นความสูง หรือเส้นทางยอดนิยม

ระบบนี้ยังรองรับการดาวน์โหลดแผนที่เพิ่มเติมผ่าน Wi-Fi โดยตรง และสามารถจัดการพื้นที่เก็บแผนที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้มีแผนที่ที่จำเป็นพร้อมใช้งานแม้อยู่ในพื้นที่ไม่มีสัญญาณอินเทอร์เน็ต

Save Location และการบันทึกข้อมูลจุดสำคัญ

ฟีเจอร์ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถบันทึกและจัดการจุดสำคัญต่างๆ ได้อย่างละเอียด โดยสามารถตั้งชื่อ เลือกไอคอน และเพิ่มข้อมูลสำคัญเช่น คำอธิบาย ภาพถ่าย หรือแม้แต่บันทึกเสียงประกอบแต่ละจุด ข้อมูลเหล่านี้จะแสดงบนแผนที่เพื่อช่วยในการนำทางและตัดสินใจระหว่างกิจกรรม

นอกจากนี้ยังสามารถแชร์จุดที่น่าสนใจผ่านฟีเจอร์ Garmin Share ให้กับเพื่อนที่ใช้นาฬิกา Garmin เช่นกัน ทำให้การแบ่งปันประสบการณ์และเส้นทางที่น่าสนใจเป็นเรื่องง่าย ข้อมูลทั้งหมดจะถูกซิงค์กับแอป Garmin Connect เพื่อการจัดการและวางแผนการเดินทางครั้งต่อไป

ฟีเจอร์ติดตามและวิเคราะห์สุขภาพ

Garmin FENIX 8 ไม่เพียงแต่เป็นสมาร์ทวอทช์สำหรับการออกกำลังกายเท่านั้น แต่ยังทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยดูแลสุขภาพส่วนตัวตลอด 24 ชั่วโมง ด้วยเซ็นเซอร์ Gen 5 ที่พัฒนาขึ้นใหม่ ทำให้การติดตามสัญญาณชีพมีความแม่นยำมากขึ้น พร้อมระบบวิเคราะห์ข้อมูลที่ชาญฉลาด สามารถประมวลผลและให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์ต่อการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ทั้งด้านการนอน ความเครียด การฟื้นตัว และสุขภาพทั่วไป โดยนำเสนอข้อมูลในรูปแบบที่เข้าใจง่ายผ่านหน้าจอนาฬิกาและแอป Garmin Connect

การวิเคราะห์การนอนและการฟื้นตัว

การนอนหลับที่มีคุณภาพเป็นรากฐานสำคัญของสุขภาพที่ดี FENIX 8 จึงมาพร้อมระบบติดตามการนอนที่ครอบคลุมทุกมิติ ด้วยเซ็นเซอร์ที่แม่นยำสามารถตรวจจับช่วงเวลาการนอนหลับและตื่นได้อย่างแม่นยำ แม้จะเป็นการตื่นระยะสั้นๆ ในช่วงกลางดึก พร้อมวิเคราะห์คุณภาพการนอนผ่านการติดตามระยะการนอน ทั้ง Light Sleep, Deep Sleep และ REM Sleep

สิ่งที่น่าสนใจคือการวัดค่า HRV Status หรือความแปรปรวนของอัตราการเต้นของหัวใจระหว่างการนอน ซึ่งเป็นตัวชี้วัดสำคัญของการฟื้นตัวของร่างกาย โดย FENIX 8 จะเก็บข้อมูล HRV ตลอดคืนและนำมาวิเคราะห์เทียบกับค่าเฉลี่ยระยะยาวของคุณ เพื่อประเมินว่าร่างกายได้พักฟื้นเพียงพอหรือไม่ ระบบต้องการข้อมูลอย่างน้อย 19 คืนเพื่อสร้างข้อมูลพื้นฐานส่วนบุคคล

นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ Sleep Coach ที่จะให้คำแนะนำเกี่ยวกับการนอนที่เหมาะสม โดยพิจารณาจากข้อมูลการนอน การออกกำลังกาย และกิจกรรมในชีวิตประจำวัน

รวมถึงระบบ Body Battery ที่แสดงระดับพลังงานของร่างกายแบบเรียลไทม์ ช่วยให้คุณวางแผนกิจกรรมและการพักผ่อนได้อย่างเหมาะสม

การติดตามความเครียดและสุขภาพจิต

FENIX 8 ให้ความสำคัญกับสุขภาพจิตไม่แพ้สุขภาพกาย โดยมีระบบติดตามความเครียดที่ทำงานตลอดทั้งวัน วัดจากความแปรปรวนของอัตราการเต้นของหัวใจ (Heart Rate Variability) และปัจจัยอื่นๆ แสดงผลเป็นระดับความเครียดตั้งแต่ 0-100 พร้อมกราฟแสดงการเปลี่ยนแปลงตลอดวัน

เมื่อนาฬิกาตรวจพบว่าระดับความเครียดสูงผิดปกติ จะมีการแจ้งเตือนและแนะนำให้ทำกิจกรรมผ่อนคลาย โดยมีฟีเจอร์แนะนำการหายใจที่ปรับเปลี่ยนรูปแบบได้ตามต้องการ ทั้งการหายใจเพื่อผ่อนคลาย การหายใจเพื่อเพิ่มพลัง หรือการหายใจเพื่อเตรียมตัวก่อนนอน แต่ละรูปแบบจะมีภาพแอนิเมชันและการสั่นเพื่อนำจังหวะการหายใจ

นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ติดตามอารมณ์ประจำวัน ให้ผู้ใช้สามารถบันทึกอารมณ์และความรู้สึกในแต่ละช่วงเวลา พร้อมจับคู่กับข้อมูลกิจกรรมและการนอน เพื่อช่วยให้เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างพฤติกรรมการใช้ชีวิตกับสภาพจิตใจ ข้อมูลเหล่านี้สามารถดูย้อนหลังได้ในแอป Garmin Connect เพื่อวิเคราะห์แนวโน้มในระยะยาว

ระบบแจ้งเตือนสุขภาพอัจฉริยะ

FENIX 8 มาพร้อมระบบเฝ้าระวังสุขภาพที่ทำงานตลอด 24 ชั่วโมง โดยจะคอยตรวจจับความผิดปกติของการเต้นของหัวใจ ทั้งการเต้นที่เร็วหรือช้าผิดปกติในขณะพัก รวมถึงภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ (Arrhythmia) ซึ่งอาจเป็นสัญญาณเตือนของปัญหาสุขภาพที่ควรปรึกษาแพทย์

นาฬิกายังติดตาม ระดับออกซิเจนในเลือด (Blood Oxygen) ตลอดทั้งวันและขณะนอนหลับ หากตรวจพบว่าระดับออกซิเจนต่ำกว่าปกติ จะมีการแจ้งเตือนทันที โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีความสูงมาก ข้อมูลนี้มีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับนักกีฬาที่ฝึกซ้อมในที่สูง หรือผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับการหายใจขณะนอน

ทุกเช้า Fenix 8 จะสรุปข้อมูลสุขภาพผ่าน Morning Report ที่รวบรวมข้อมูลสำคัญทั้งคุณภาพการนอน ระดับการฟื้นตัว ความพร้อมในการออกกำลังกาย พร้อมคำแนะนำสำหรับวันนั้น นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ Health Snapshot ที่สามารถวัดสัญญาณชีพสำคัญ 5 อย่างในเวลา 2 นาที ได้แก่ อัตราการเต้นของหัวใจ ความแปรปรวนของอัตราการเต้นของหัวใจ ระดับออกซิเจนในเลือด อัตราการหายใจ และระดับความเครียด

ฟีเจอร์เพื่อสุขภาพสำหรับผู้หญิง

FENIX 8 มีฟีเจอร์พิเศษสำหรับผู้ใช้ผู้หญิง โดยสามารถติดตามรอบเดือนได้อย่างละเอียด ทั้งการคาดการณ์วันที่มีรอบเดือน วันตกไข่ และช่วงเวลาที่มีโอกาสตั้งครรภ์สูง พร้อมบันทึกอาการต่างๆ ที่เกิดขึ้นในแต่ละช่วงของรอบเดือน เช่น อารมณ์แปรปรวน อาการปวด หรือสิว

สำหรับผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ สามารถเปลี่ยนโหมดการติดตามเป็น Pregnancy Tracking ที่จะปรับการแสดงผลและคำแนะนำให้เหมาะสมกับแต่ละไตรมาส มีการติดตามน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น การดิ้นของทารก และอาการต่างๆ พร้อมให้ข้อมูลเกี่ยวกับพัฒนาการของทารกในครรภ์ในแต่ละสัปดาห์

ระบบจะส่งการแจ้งเตือนและคำแนะนำที่เหมาะสมตามช่วงของรอบเดือนหรือการตั้งครรภ์ เช่น การปรับความเข้มข้นของการออกกำลังกาย อาหารที่ควรรับประทาน หรือกิจกรรมที่ควรหลีกเลี่ยง ข้อมูลทั้งหมดสามารถซิงค์กับแอป Garmin Connect เพื่อดูประวัติย้อนหลังและแนวโน้มระยะยาวได้

ฟีเจอร์เชื่อมต่อและฟังก์ชันสมาร์ทที่หลากหลาย

Garmin FENIX 8 ยกระดับความสมาร์ทด้วยการเพิ่มฟีเจอร์การเชื่อมต่อและการสื่อสารที่ครอบคลุมมากขึ้น โดดเด่นด้วยการเพิ่มลำโพงและไมโครโฟนคู่เข้ามาเป็นครั้งแรกในซีรีส์ Fenix เพื่อรองรับการใช้งานด้านเสียง พร้อมระบบการชำระเงินไร้สาย และการเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันต่างๆ ที่จำเป็น ทำให้นาฬิกาไม่เพียงเป็นอุปกรณ์สำหรับกีฬาและสุขภาพ แต่ยังเป็นผู้ช่วยอัจฉริยะที่ช่วยให้ชีวิตประจำวันสะดวกสบายมากขึ้น

Voice Command และ Phone Assistant

การสั่งงานด้วยเสียงบน FENIX 8 ทำได้สองรูปแบบ แบบแรกคือระบบสั่งงานออฟไลน์ที่ทำงานได้โดยไม่ต้องเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน เพียงกดปุ่มค้างไว้เพื่อเริ่มการสั่งงาน สามารถสั่งเปิดกิจกรรมต่างๆ ตั้งนาฬิกาปลุก ตั้งตัวจับเวลา หรือเปิดไฟฉายได้ แม้จะทำงานช้ากว่าการใช้ปุ่มกดเล็กน้อย แต่ก็สะดวกในบางสถานการณ์ เช่น ขณะสวมถุงมือหรือมือเปียก

อีกรูปแบบคือการเชื่อมต่อกับผู้ช่วยเสียงบนสมาร์ทโฟน ไม่ว่าจะเป็น Siri, Google Assistant หรือ Samsung Bixby โดยใช้ไมโครโฟนของนาฬิกาเป็นตัวรับคำสั่ง ทำให้สามารถใช้งานฟีเจอร์ต่างๆ ของสมาร์ทโฟนได้โดยไม่ต้องหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา นอกจากนี้ยังรองรับการรับสายโทรศัพท์ผ่านนาฬิกาได้ด้วย แม้คุณภาพเสียงจะไม่เทียบเท่าหูฟังไร้สาย แต่ก็เพียงพอสำหรับการใช้งานในระยะสั้น

Garmin Share และการสื่อสารกับผู้ใช้อื่นผ่าน Garmin Messenger

Garmin Share เป็นฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยให้การแบ่งปันข้อมูลกิจกรรม เส้นทาง และจุดสนใจต่างๆ ระหว่างผู้ใช้ Garmin ด้วยกันทำได้สะดวกขึ้น สามารถแชร์เส้นทางวิ่งหรือปั่นจักรยานที่น่าสนใจ พร้อมข้อมูลประกอบเช่น ความยาก จุดพัก หรือข้อควรระวัง ให้กับเพื่อนได้โดยตรงผ่านนาฬิกา

นอกจากนี้ยังมี Garmin Messenger ที่ช่วยให้ส่งข้อความ แชร์ตำแหน่งปัจจุบัน และข้อมูลการฝึกซ้อมระหว่างผู้ใช้ Garmin ได้ แม้จะอยู่ในพื้นที่ที่ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ ทำให้การติดต่อสื่อสารระหว่างนักกีฬาหรือนักผจญภัยเป็นไปได้อย่างต่อเนื่องและปลอดภัยมากขึ้น

Garmin Pay และการชำระเงิน

Garmin Pay รองรับการชำระเงินแบบไร้สัมผัสผ่านเทคโนโลยี NFC โดยสามารถเพิ่มบัตรเครดิตหรือเดบิตที่รองรับเข้าไปในระบบ และในประเทศไทยยังมีการร่วมมือกับ Rabbit Card ทำให้สามารถใช้นาฬิกาแทนบัตรแรบบิทในการชำระค่าโดยสาร BTS หรือร้านค้าที่รองรับได้

ระบบมีความปลอดภัยสูง โดยจะต้องตั้งรหัส PIN สำหรับการชำระเงิน และต้องใส่รหัสใหม่ทุกครั้งที่ถอดนาฬิกาออกจากข้อมือ ทำให้มั่นใจได้ว่าจะไม่มีการใช้งานโดยไม่ได้รับอนุญาตแม้นาฬิกาจะสูญหาย นอกจากนี้ยังสามารถจัดการบัตรและดูประวัติการชำระเงินได้ผ่านแอป Garmin Connect

Voice Notes และการบันทึกเสียง

ฟีเจอร์ Voice Notes ช่วยให้ผู้ใช้สามารถบันทึกเสียงสั้นๆ ได้โดยตรงจากนาฬิกา เหมาะสำหรับการจดบันทึกความคิดระหว่างออกกำลังกายหรือการบันทึกข้อมูลสำคัญระหว่างการผจญภัย โดยสามารถเลือกบันทึกพิกัด GPS พร้อมกับเสียงได้ด้วย ทำให้สามารถย้อนกลับมาดูว่าบันทึกแต่ละรายการถูกสร้างขึ้น ณ จุดใด

การบันทึกเสียงทำงานได้แม้ไม่มีการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน และในอนาคตจะสามารถซิงค์บันทึกเสียงไปยังแอป Garmin Connect ได้ ทำให้การจัดการและแชร์บันทึกเสียงทำได้สะดวกยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับนักวิ่งเทรล นักปีนเขา หรือนักสำรวจที่ต้องการบันทึกข้อมูลระหว่างทาง

ความบันเทิงในข้อมือคุณ

FENIX 8 รองรับการเล่นเพลงจากแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งชั้นนำอย่าง Spotify, Amazon Music และ YouTube Music โดยสามารถดาวน์โหลดเพลงมาเก็บไว้ในตัวนาฬิกาที่มีความจุ 32GB ทำให้สามารถฟังเพลงได้แม้ไม่ได้เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต เพียงเชื่อมต่อหูฟังบลูทูธก็สามารถออกกำลังกายพร้อมเพลงโปรดได้ทันที นอกจากนี้ยังรองรับการอัพโหลดไฟล์ MP3 จากคอมพิวเตอร์โดยตรง เหมาะสำหรับผู้ที่มีคอลเลกชันเพลงส่วนตัว

ความพิเศษของ FENIX 8 คือการเพิ่มลำโพงในตัว ทำให้สามารถเลือกฟังเพลงผ่านลำโพงของนาฬิกาได้โดยไม่ต้องใช้หูฟัง แม้ว่าคุณภาพเสียงและความดังจะไม่เทียบเท่าหูฟังหรือลำโพงบลูทูธ แต่ก็เพียงพอสำหรับการฟังในที่เงียบสงบหรือยามฉุกเฉินที่ไม่มีหูฟัง การเลือกอุปกรณ์เสียงทำได้ง่ายผ่านเมนูควบคุมเพลง โดยสามารถสลับระหว่างหูฟังบลูทูธและลำโพงในตัวได้อย่างรวดเร็ว

ขนาดและราคาที่เหมาะกับทุกการใช้งาน

Garmin FENIX 8 Series มาพร้อมตัวเลือกที่หลากหลายเพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้ทุกกลุ่ม โดยแบ่งเป็นสองซีรีส์หลักคือ FENIX 8 AMOLED และ FENIX 8 Solar พร้อมรุ่นพิเศษ FENIX 8 E ที่เน้นความคุ้มค่า ในแต่ละรุ่นมีให้เลือกทั้งวัสดุสแตนเลสสตีลและไทเทเนียมที่มีน้ำหนักเบากว่า รวมถึงกระจกแบบ Gorilla Glass และ Sapphire ที่ทนทานกว่า

FENIX 8 AMOLED มีให้เลือก 3 ขนาด เริ่มจากรุ่น 43 มิลลิเมตรที่เหมาะกับข้อมือเล็ก ราคา 36,990 บาท รุ่น 47 มิลลิเมตรสำหรับผู้ที่ต้องการความสมดุลระหว่างขนาดและแบตเตอรี่ ราคา 39,990 บาท และรุ่น 51 มิลลิเมตรสำหรับผู้ที่ต้องการแบตเตอรี่อึดที่สุด ราคา 43,990 บาท ทุกรุ่นมาพร้อมหน้าจอ AMOLED ที่ให้ภาพสวยคมชัด

FENIX 8 Solar ที่เน้นแบตเตอรี่อึดด้วยจอ MIP และระบบชาร์จพลังงานแสงอาทิตย์ มีให้เลือก 2 ขนาดคือ 47 มิลลิเมตร ราคา 39,990 บาท และ 51 มิลลิเมตร ราคา 43,990 บาท ทั้งสองรุ่นมาพร้อมแผงโซลาร์รุ่นใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น และรองรับฟีเจอร์ทั้งหมดเช่นเดียวกับรุ่น AMOLED

สำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์ Fenix 8 ในราคาที่จับต้องได้ง่ายขึ้น ขอแนะนำ FENIX 8 E ขนาด 47 มิลลิเมตร ในราคา 29,990 บาท มาพร้อมจอ AMOLED และฟีเจอร์พื้นฐานครบครัน แม้จะไม่มีระบบกันน้ำลึกสำหรับดำน้ำและไฟฉาย LED แต่ก็ยังคงมาตรฐานการกันน้ำ 10ATM เช่นเดียวกับรุ่นอื่น เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการนาฬิกามัลติสปอร์ตคุณภาพสูงในราคาที่คุ้มค่า

นอกจากนี้ทุกรุ่นยังมีตัวเลือกอัพเกรดวัสดุเป็นไทเทเนียมและกระจก Sapphire ในราคาที่สูงขึ้น โดยวัสดุไทเทเนียมจะช่วยลดน้ำหนักลงประมาณ 30% เมื่อเทียบกับสแตนเลสสตีล ส่วนกระจก Sapphire จะทนต่อรอยขีดข่วนได้ดีกว่า Gorilla Glass มาก เหมาะสำหรับผู้ที่ใช้งานหนักหรือทำกิจกรรมเสี่ยงต่อการกระแทกบ่อยๆ

สรุป รีวิว Garmin FENIX 8 ที่สุดของมัลติสปอร์ตวอทช์ที่มาพร้อมความสมาร์ทเต็มรูปแบบ

เป็นการอัปเกรดจากรุ่นก่อนมาแบบถึงอกถึงใจ ที่นอกจากจะพัฒนาฟีเจอร์เดิมในซีรีย์ Fenix ให้ดียิ่งขึ้น ยังนำเอาจุดเด่นจากตระกูลอื่นอย่าง EPIX และ Descent มาให้ให้แบบไม่มีกั๊ก ทำให้นี่คือนาฬิกามัลติสปอร์ตระดับพรีเมียมที่มีความครบครันอย่างแท้จริง

การนำจอ AMOLED ที่สวยงามคมชัดเป็นครั้งแรกในซีรีส์ Fenix น่าจะเป็นสิ่งที่แฟนๆ รอคอย แต่ก็ยังมีตัวเลือกจอ MIP with Solar สำหรับสายลุยสายเอ้าท์ดอร์ผู้ที่ต้องการแบตเตอรี่อึดเป็นพิเศษ การออกแบบยังคงเอกลักษณ์ความแข็งแกร่งด้วยวัสดุระดับพรีเมียมที่ผ่านการรับรองมาตรฐานทางทหาร เพิ่มเติมด้วยระบบปุ่มกดแบบ Leakproof และ Sensor Guard ที่ช่วยปกป้องอุปกรณ์ได้ดียิ่งขึ้น

ขนาดตัวเรือนที่มีให้เลือกถึง 3 ขนาด สื่อถึงความเข้าใจผู้ใช้งานที่ครบถ้วนชัดเจน ตั้งแต่ขนาด 43 มิลลิเมตร ที่กำลังเหมาะพอดีสำหรับผู้หญิงหรือสาวๆ ที่ข้อมือเล็ก ส่วน 47 มิลลิเมตร ก็ถือว่ากำลังดีใส่ได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง และสำหรับผู้ชายหุ่นหมีก็มี 51 มิลลิเมตรที่ใหญ่เต็มข้อให้เลือกเช่นกัน

แบตเตอรี่คือสิ่งที่แข็งแกร่งเกินหน้าคู่แข่งแบบที่ยากจะมาเทียบได้ กับการชาร์จเต็มแล้วใช้งานได้นานสุดถึง 29 วัน หรือเกือบๆ 1 เดือน (ในรุ่น 51mm) คือนานแบบไม่ต้องกังวลว่าจะหมดในระหว่างการใช้งาน และจากที่ลองใช้งานจริงในเวลาเกือบๆ เดือน ต้องบอกว่าผมได้มีโอกาสชาร์จเพียงแค่ 1 ครั้งเท่านั้น คือการใช้งานที่ปกติ มีการแจ้งเตือนจากสมาร์ทโฟนตลอดเวลา มีใส่นอนเพื่อเก็บข้อมูลการนอน มีการออกกำลังกายใช้โหมด GPS สำหรับปั่นจักรยาน ฯลฯ ในช่วง 2 อาทิตย์แรก แบตเตอรี่จากเต็มเหลืออยู่ที่ประมาณ 40% เลยทีเดียว

ด้านประสิทธิภาพการใช้งาน FENIX 8 ยังคงแข็งแกร่งครบถ้วนด้วยฟีเจอร์การฝึกซ้อมที่รองรับตั้งแต่ระดับเริ่มต้นไปจนถึงระดับโปร ครอบคลุมกว่า 100 ชนิดกีฬา พร้อมระบบวิเคราะห์การฝึกซ้อมขั้นสูงที่ช่วยให้นักกีฬาพัฒนาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สำหรับกีฬากลางแจ้งก็มีระบบแผนที่และการนำทางที่แม่นยำด้วย Multi-band GNSS พร้อมฟีเจอร์ใหม่อย่าง Dynamic Round Trip ที่ช่วยให้การสำรวจเส้นทางใหม่ๆ เป็นเรื่องสนุก นอกจากนี้ยังเพิ่มความสามารถในการดำน้ำลึกถึง 40 เมตร

สำหรับการทดสอบ รีวิว Garmin FENIX 8 ในส่วนของการออกกำลังกาย ส่วนตัวเป็นคนที่ชอบปั่นจักรยาน ก็ถือว่าทำได้เกินกว่าที่หวัง นอกจากเรื่องพื้นฐานอย่างการเก็บระยะทางที่แม่นยำ การเชื่อมต่อกับเซ็นเซอร์วัดรอบขาและความเร็ว รวมถึง Power Meter ก็สามารถทำได้ ยังมีระบบการนำทางที่ชาญฉลาดเพิ่มขึ้นมาให้ดูผ่านตัวหน้าปัดหรือจะใช้สื่อสารกับเพื่อนร่วมทริปก็ทำได้ เรียกได้ว่าเก่งเกินตัวจริงๆ

ฟีเจอร์ด้านสุขภาพเป็นอีกสิ่งที่ทำได้ดีและน่าประทับใจมาก ครอบคลุมการติดตามการนอนที่มีความละเอียดและค่อนข้างแม่นยำ รวมถึงการติดตามความเครียด และสุขภาพแบบองค์รวม ส่วนสำหรับสาวๆ ก็มีการติดตามในเรื่องของรอบเดือนและภาวะสุขภาพของผู้หญิงมาให้ด้วย

และในครั้งนี้ ก็ได้ความสามารถแบบสมาร์ทวอทช์ที่อยากได้มานานแล้วก็มาเสียทีอย่าง ระบบไมโครโฟนและลำโพงที่รองรับการรับสาย สั่งงานด้วยเสียง และบันทึกเสียง ทำให้ระหว่างวันหรือการออกกำลังกายไม่ต้องเสียเวลาหยิบมือถือมาเพื่อรับสายบ่อยๆ อีกต่อไป

และอีกสิ่งที่ยังคงอวดเหนือคู่แข่งได้ก็คือ ระบบชำระเงิน Garmin Pay ที่ยุคนี้ที่กลายเป็นสังคมไร้เงินสด และตอนนี้ก็ไร้บัตรกันแล้ว ระบบสามารถบันทึกบัตรเครดิตได้ทั้ง Visa และ Mastercard เพื่อแตะจ่ายชำระเงินได้อย่างปลอดภัย และสุดยอดหนึ่งเดียวในไทย กับ Rabbit Card ที่ให้คุณแตะตื้ดเข้า BTS แบบหล่อๆ ผ่าน Garmin Fenix 8 และยังใช้ชำระเงินกับร้านค้าต่างๆ ได้ด้วย เรียกได้ว่าตอนนี้แค่สวมนาฬิกา ไม่ต้องพกทั้งกระเป๋าสตางค์และกระเป๋าบัตร ก็ใช้ชีวิตในเมืองได้อย่างสบาย

ในการเชื่อมต่อกับแอปสตรีมมิ่งเพลงชั้นนำ ตอนนี้รองรับได้หลากหลายแพลตฟอร์ม และตอนนี้ใช้กับ YouTube Music ได้แล้ว คุณสามารถโหลดเพลย์ลิสต์เพลงที่ชื่นชอบมาไว้ในนาฬิกาเอาไว้เป็นเพื่อนเวลาที่ออกกำลังกายในฟิตเนส หรือปั่นจักรยาน โดยที่จะฟังผ่านหูฟังไร้สาย หรือเปิดฟังด้วยลำโพงก็ได้

อย่างไรก็ตาม ด้วยข้อดีมากมาย ฟีเจอร์ล้ำๆ แบบจัดเต็ม สิ่งที่เป็นข้อควรพิจารณานั้นก็คือ ราคาที่ค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับคู่แข่งหรือก่อนหน้า แต่นี่คือรุ่นเรื่องธงที่มีทุกอย่างที่ครบและเหนือกว่าที่คุณต้องการ ก็ถือว่าเป็นราคาที่เหมาะสมกับสิ่งที่ทำได้ แต่ก็อาจจะไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ใช้งานฟีเจอร์พื้นฐานเท่านั้น แต่ก็ยังมีรุ่น FENIX E ที่มีราคาเริ่มต้นถูกกว่าเป็นตัวเลือกให้ด้วยเช่นกัน

Garmin FENIX 8 Series มีสโลแกนเท่ๆ ว่า “BE LIMITLESS” หรือก้าวข้ามทุกสิ่งอย่างไร้ขีดจำกัด ถือว่าเป็นนิยามที่เหมาะสมและชัดเจนมากๆ ด้วยประสิทธิภาพและความสามารถที่ครบครัน หลากหลาย รวมไว้อยู่ในนาฬิกาเรือนเดียวได้อย่างลงตัวที่สุด

ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ Google News
ช่องทางโซลเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok