การ์ทเนอร์ เผยข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับวิกฤต ขาดแคลนพลังงาน ที่กำลังจะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรม AI โดยคาดการณ์ว่าภายในปี 2570 ดาต้าเซ็นเตอร์ที่ให้บริการ AI กว่า 40% จะประสบปัญหาด้านประสิทธิภาพการทำงานเนื่องจากข้อจำกัดด้านพลังงาน การเติบโตอย่างก้าวกระโดดของ Generative AI (GenAI) ทำให้ความต้องการใช้พลังงานในดาต้าเซ็นเตอร์พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยคาดว่าตลาดดาต้าเซ็นเตอร์จะเติบโตถึง 160% ภายในสองปีข้างหน้า ส่งผลให้ผู้ให้บริการสาธารณูปโภคไม่สามารถผลิตพลังงานได้ทันต่อความต้องการที่เพิ่มขึ้น
ปริมาณการใช้พลังงานพุ่งสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
บ็อบ จอห์นสัน รองประธานนักวิเคราะห์ของการ์ทเนอร์ เปิดเผยว่า ภายในปี 2570 ดาต้าเซ็นเตอร์จะต้องใช้พลังงานสูงถึง 500 เทราวัตต์ต่อชั่วโมงต่อปี ซึ่งมากกว่าปี 2566 ถึง 2.6 เท่า สาเหตุหลักมาจากการเติบโตของ Large Language Models (LLMs) ที่เป็นพื้นฐานสำคัญของแอปพลิเคชัน GenAI
ผลกระทบต่อต้นทุนและราคา
การขาดแคลนพลังงานส่งผลโดยตรงต่อราคาค่าไฟฟ้าที่จะปรับตัวสูงขึ้น ผู้ประกอบการดาต้าเซ็นเตอร์จำเป็นต้องใช้อำนาจต่อรองทางเศรษฐกิจเพื่อให้ได้มาซึ่งพลังงานที่ต้องการ ซึ่งต้นทุนที่เพิ่มขึ้นนี้จะถูกส่งต่อไปยังผู้ใช้บริการ AI และ GenAI ในที่สุด
ความท้าทายด้านความยั่งยืน
ปัญหาพลังงานยังส่งผลกระทบต่อเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ เนื่องจากความจำเป็นในการใช้แหล่งพลังงานที่เชื่อถือได้ตลอด 24/7 ซึ่งปัจจุบันยังต้องพึ่งพาโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงฟอสซิล พลังน้ำ หรือนิวเคลียร์ แม้ว่าในอนาคตจะมีเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น แบตเตอรี่โซเดียมไอออน หรือเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ขนาดเล็ก แต่ก็ยังต้องใช้เวลาในการพัฒนา
ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ Google News
ช่องทางโซลเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok