แกร็บ ประเทศไทย รุกตลาดบริการเรียกคนขับผ่านแอปพลิเคชัน เดินหน้าผลักดันบริการ GrabDriveYourCar ผ่านกลยุทธ์ Social Marketing เจาะกลุ่มนักดื่มและนักท่องราตรี หลังพบยอดผู้ใช้บริการในช่วงเทศกาลพุ่งสูงขึ้นถึง 50% เมื่อเทียบกับช่วงปกติ โดย นางสาวเมธินี อนวัชกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานธุรกิจการเดินทางและบริหารพาร์ทเนอร์คนขับ เผยถึงการเปิดตัวแคมเปญ “โปรเด็ด (เพื่อ) นักดื่ม” พร้อมส่งภาพยนตร์โฆษณาชุดพิเศษรณรงค์ดื่มไม่ขับ และผนึกกำลังพันธมิตรสถานบันเทิงชั้นนำ มอบส่วนลดพิเศษให้ผู้ใช้บริการ หวังสร้างความตระหนักรู้และความรับผิดชอบต่อสังคม
บริการ GrabDriveYourCar เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2562 โดยได้รับความนิยมอย่างสูงจากผู้ใช้บริการหลายกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องราตรีที่ต้องการความปลอดภัยในการเดินทางกลับบ้านหลังดื่มแอลกอฮอล์ รวมถึงกลุ่มผู้ใช้บริการที่ต้องการคนขับมืออาชีพสำหรับการรับ-ส่งสมาชิกในครอบครัว หรือนักธุรกิจที่ต้องการความสะดวกสบายในการเดินทางไปประชุม
จุดเด่นของบริการนี้คือการคัดสรรคนขับมืออาชีพที่ผ่านการคัดกรองอย่างเข้มงวด ทั้งการตรวจสอบประวัติอาชญากรรม การทดสอบทักษะการขับขี่ และการประเมินทัศนคติด้านความปลอดภัย โดยคนขับสามารถให้บริการกับรถยนต์ได้ทุกประเภท ตั้งแต่รถซีดาน รถ SUV ไปจนถึงซุปเปอร์คาร์ ด้วยเวลารอเฉลี่ยเพียง 15 นาที ราคาเริ่มต้นที่ 350 บาทต่อเที่ยว พร้อมความคุ้มครองประกันอุบัติเหตุสูงสุด 5 ล้านบาท
ภายใต้แคมเปญใหม่นี้ แกร็บได้มอบส่วนลด 30% (สูงสุด 200 บาท) สำหรับผู้ใช้บริการใหม่ เพียงใส่รหัส DRIVE30 ตั้งแต่วันนี้จนถึงสิ้นปี พร้อมจับมือพันธมิตรสถานบันเทิงชั้นนำทั่วกรุงเทพฯ อาทิ theCOMMONS Groove @ centralwOrld, Brick Bar, Molly, Mulligans Irish Bar, Waterside Karaoke และ 12Plato Brewing ร่วมรณรงค์ “ดื่มไม่ขับ เรียก GrabDriveYourCar ขับให้” นอกจากนี้ ยังจัดคอร์สอบรมออนไลน์สำหรับคนขับแกร็บ เพื่อสร้างความตระหนักรู้เรื่องความปลอดภัยและความรับผิดชอบต่อสังคม
สถิติน่าสนใจพบว่า ช่วงเวลา 22.00-04.00 น. เป็นช่วงที่มีการใช้บริการสูงสุด โดยย่านยอดนิยม 3 อันดับแรกในกรุงเทพฯ ได้แก่ ทองหล่อ-เอกมัย อโศก และรัชดา ทั้งนี้ บริการ GrabDriveYourCar มีให้บริการเฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น
ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ Google News
ช่องทางโซลเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok