Max กำลังจะเข้าร่วมกับกลุ่มบริการสตรีมมิ่งที่เริ่มควบคุมการแชร์รหัสผ่าน โดย กันนาร์ วีเดนเฟลส์ (Gunnar Wiedenfels) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน (CFO) ของบริษัท ได้เปิดเผยในการประชุมรายงานผลประกอบการว่า Max จะเริ่มส่งการแจ้งเตือนไปยังผู้ใช้งานที่ แชร์รหัสผ่าน ในเร็วๆ นี้ เพื่อให้จ่ายค่าบริการเพิ่มหากต้องการแชร์บัญชีต่อไป
การเคลื่อนไหวครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ Max เคยส่งสัญญาณเกี่ยวกับการควบคุมการแชร์รหัสผ่านในช่วงต้นปี แต่ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ ล่าสุด บริษัทได้เลือกแนวทางคล้ายกับคู่แข่งอย่าง Netflix และ Disney+ โดยไม่ได้ห้ามการแชร์รหัสผ่านอย่างสิ้นเชิง แต่มองว่าเป็นโอกาสในการสร้างรายได้เพิ่ม
วีเดนเฟลส์มองว่าการเก็บค่าบริการสำหรับการ แชร์รหัสผ่าน เป็นรูปแบบหนึ่งของการขึ้นราคา โดยบริษัทจะขอให้สมาชิกที่ยังไม่ได้สมัครหรือผู้ใช้งานจากหลายครัวเรือนจ่ายค่าบริการเพิ่มเติม แม้ Max จะเข้าใจความต้องการของสมาชิกครอบครัวที่ไม่ได้อาศัยอยู่ด้วยกันในการแชร์บัญชี แต่ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะมีข้อจำกัดอย่างไรเพื่อป้องกันการใช้งานที่ไม่เหมาะสม
นอกจากนี้ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินยังไม่ได้ตัดความเป็นไปได้ในการปรับขึ้นราคาค่าบริการ Max ในอนาคต โดยระบุว่าด้วยความเป็น “บริการระดับพรีเมียม” ทำให้บริษัทมี “พื้นที่พอสมควร” ในการปรับราคา ทั้งนี้ Max ได้ปรับขึ้นราคาแพ็กเกจปลอดโฆษณาไปแล้วเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
การดำเนินการของ Max มีความคล้ายคลึงกับ Disney+ ที่เริ่มแจ้งเตือนลูกค้าเกี่ยวกับการเก็บค่าบริการแชร์รหัสผ่านหลายเดือนก่อนที่จะเปิดตัวตัวเลือก “สมาชิกเพิ่มเติม” ในขณะที่ Netflix ก็ได้ดำเนินการในลักษณะเดียวกันเมื่อปีที่แล้ว โดยขอให้ผู้ใช้งานจ่ายค่าบริการเพิ่มสำหรับการแชร์รหัสผ่าน
สำหรับประเทศไทย MAX เตรียมเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในวันที่ 19 พฤศจิกายนนี้ โดยจะมีให้เลือกสมัครสมาชิกได้ 2 แพ็กเกจ ได้แก่
- แพ็กเกจ Standard ราคา 199 บาทต่อเดือน หรือ 1,390 บาทต่อปี รองรับการรับชมพร้อมกัน 2 อุปกรณ์
- แพ็กเกจ Ultimate ราคา 299 บาทต่อเดือน หรือ 2,090 บาทต่อปี รองรับการรับชมพร้อมกัน 4 อุปกรณ์ พร้อมคุณภาพระดับ 4K UHD
ข้อมูลจาก: Phone Arena
ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ Google News
ช่องทางโซลเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok