รีวิว realme GT 7 Pro สัมผัสความแรงกับรุ่นแรกพร้อม Snapdragon 8 Elite ประสบการณ์ AI ครบครัน

รีวิว realme GT 7 Pro สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นล่าสุดที่มาพร้อมกับชิปเซ็ต Snapdragon 8 Elite เป็นรายแรกในประเทศไทย นับเป็นการปฏิวัติวงการด้วยเทคโนโลยี 3 นาโนเมตรจาก TSMC ที่ให้ประสิทธิภาพสูงกว่าชิปรุ่นก่อนถึง 45% ในขณะที่ประหยัดพลังงานได้มากขึ้น ทำให้สมาร์ทโฟนรุ่นนี้ทำคะแนน Antutu ได้ทะลุ 3 ล้านแต้มเป็นครั้งแรก

นอกจากความแรงระดับท็อปแล้ว GT 7 Pro ยังโดดเด่นด้วยความสามารถด้าน AI ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น AI Sketch to Image ที่แปลงภาพร่างให้กลายเป็นภาพสวยงาม AI Motion Deblur ที่แก้ไขภาพเบลอให้คมชัด รวมถึงระบบกล้องอัจฉริยะที่มาพร้อมโหมดถ่ายภาพใต้น้ำเป็นรายแรกของวงการ ด้วยมาตรฐานกันน้ำ IP69 ระดับสูงสุด

ด้วยสเปคระดับท็อป ทั้งหน้าจอ AMOLED ความสว่าง 6,500 nits แบตเตอรี่ 6,500 mAh พร้อมชาร์จเร็ว 120W และฟีเจอร์ AI ล้ำสมัยมากมาย ทำให้ GT 7 Pro น่าจะเป็นม้ามืดที่มาแรงแซงทุกคู่แข่งในตลาดสมาร์ทโฟนระดับเรือธง แต่มันจะดีจริงอย่างที่บอกไว้หรือไม่ เรามาพิสูจน์กันในบทรีวิวนี้

ขุมพลังที่เหนือชั้น เร็วกว่า แรงกว่า พร้อมประสิทธิภาพการเล่นเกมระดับเทพ

realme GT 7 Pro มาพร้อมชิปเซ็ตเรือธง Snapdragon 8 Elite ที่ผลิตด้วยกระบวนการ 3 นาโนเมตรจาก TSMC ซึ่งเป็นเทคโนโลยีล่าสุดที่ให้ประสิทธิภาพสูงกว่าชิปรุ่นก่อนถึง 45% ในขณะที่ประหยัดพลังงานได้มากขึ้นถึง 44% บน CPU และ 40% บน GPU ที่สำคัญคือเป็นชิปเซ็ต Android รายแรกที่สามารถแซงหน้า Apple ด้วยสถาปัตยกรรม CPU แบบ 2+6 cores ที่มีความเร็วสูงถึง 4.32GHz สำหรับ Performance cores และ 3.52GHz สำหรับ Efficiency cores

ด้วยประสิทธิภาพที่สูงลิ่วนี้ ทำให้ GT 7 Pro สามารถทำคะแนน Antutu ได้ทะลุ 3 ล้านแต้ม ซึ่งสูงกว่าชิปรุ่นก่อนถึง 40-50% พร้อม GPU Adreno 830 ที่มี Shading units มากถึง 1,536 หน่วย และ Total shaders 3,072 หน่วย มากกว่าคู่แข่งในระดับเดียวกันหลายเท่า ทำให้การประมวลผลกราฟิกทำได้อย่างทรงพลังและราบรื่น

สำหรับประสบการณ์การเล่นเกม GT 7 Pro ไม่ทำให้ผิดหวัง ด้วยความสามารถในการเล่น PUBG Mobile ได้อย่างเสถียรที่ 120FPS ตลอดการเล่น แม้จะเล่นต่อเนื่องจนแบตหมดก็ยังรักษาเฟรมเรตได้อย่างคงที่ นอกจากนี้ยังรองรับเกมยอดนิยมอย่าง Genshin Impact และ Honkai: Star Rail ได้อย่างลื่นไหล

ตัวเครื่องยังมาพร้อมเทคโนโลยี AI Gaming Super Resolution ที่สามารถปรับความละเอียดในเกมได้สูงสุดถึง 1.5K ซึ่งให้ภาพที่คมชัดกว่า 720p ถึง 4 เท่า และ AI Gaming Super Frame ที่รองรับการเล่นเกมที่ 120FPS ทำให้การเคลื่อนไหวในเกมนุ่มนวลกว่า 60FPS ถึง 2 เท่า รองรับเกมยอดนิยมมากมายเช่น Free Fire MAX, PUBG Mobile, Genshin Impact, Honkai: Star Rail และ Honor of Kings

Genshin Impact ที่ปกติปรับตั้งค่าเฟรมเรตได้สูงสุดที่ 60fps แต่สามารถมาเลือก AI Gaming Super Frame เพื่อเร่งให้ได้ถึง 120fps เล่นได้อย่างไหลลื่นสุดๆ

เพื่อรองรับการเล่นเกมอย่างต่อเนื่อง GT 7 Pro จึงมาพร้อมระบบระบายความร้อน Iceberg VC ที่มีพื้นที่ถึง 11,480 ตารางมิลลิเมตร ซึ่งใหญ่ที่สุดในกลุ่ม ช่วยให้ตัวเครื่องเย็นและรักษาประสิทธิภาพได้ดีแม้เล่นเกมเป็นเวลานาน ทำให้ผู้ใช้สามารถเพลิดเพลินกับการเล่นเกมได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่ต้องกังวลเรื่องความร้อน

แบตเตอรี่ 6,500mAh พร้อมเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 120W

realme GT 7 Pro มาพร้อมแบตเตอรี่ Titan ขนาดใหญ่ถึง 6,500mAh ซึ่งถือเป็นความจุที่มากที่สุดในกลุ่มสมาร์ทโฟนระดับเรือธง ด้วยเทคโนโลยี Silicon Anode รุ่นใหม่ล่าสุด ทำให้แบตเตอรี่มีขนาดเล็กลงแต่เก็บประจุได้มากขึ้น ช่วยให้ตัวเครื่องไม่หนาจนเกินไป แถมยังมีประสิทธิภาพการทำงานที่ดีกว่าแบตเตอรี่ทั่วไป แม้ในสภาพอากาศหนาวจัดถึง -30°C ก็ยังสามารถใช้งานได้อย่างปกติ

การชาร์จแบตเตอรี่ของ GT 7 Pro ใช้เทคโนโลยี 120W SUPERVOOC ที่สามารถชาร์จแบตจาก 0% เป็น 50% ได้ภายในเวลาเพียง 13 นาที และชาร์จเต็ม 100% ในเวลา 37 นาที นอกจากนี้ การชาร์จเพียง 1 นาทีก็สามารถใช้งานในโหมดสแตนด์บายได้นานถึง 20 ชั่วโมง หรือโทรได้ 1 ชั่วโมง ส่วนการชาร์จ 5 นาที จะใช้งานในโหมดสแตนด์บายได้ถึง 124 ชั่วโมง เล่น TikTok ได้ 5 ชั่วโมง หรือโทรได้ 7 ชั่วโมง

ด้านอายุการใช้งานต่อเนื่อง GT 7 Pro ทำได้ดีกว่าคู่แข่งในระดับเดียวกันอย่างชัดเจน จากข้อมูลที่แจ้งมานั้น สามารถเล่นเกม PUBG Mobile ได้นานถึง 10.5 ชั่วโมง ดู YouTube ได้ 20 ชั่วโมง หรือฟัง Spotify ได้ยาวนานถึง 76 ชั่วโมง ในโหมดสแตนด์บายสามารถใช้งานได้นานถึง 510 ชั่วโมง

ที่สำคัญคือ realme ได้พัฒนาอัลกอริธึมเพื่อยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ให้ยาวนานขึ้น โดยหลังจากใช้งาน 4 ปี แบตเตอรี่ยังคงรักษาความจุได้มากกว่า 80% ซึ่งถือว่าเป็นมาตรฐานใหม่ของวงการ ทำให้ผู้ใช้มั่นใจได้ว่าสมาร์ทโฟนเครื่องนี้จะใช้งานได้อย่างยาวนานคุ้มค่า โดยไม่ต้องกังวลเรื่องแบตเตอรี่เสื่อมเร็ว

เทคโนโลยี AI ใช้ได้เต็มรูปแบบ

realme GT 7 Pro มาพร้อมความสามารถด้าน AI ที่หลากหลายและล้ำสมัย ด้วยชิปเซ็ต Snapdragon 8 Elite ที่มาพร้อม NPU Hexagon รุ่นใหม่ล่าสุด ทำให้การประมวลผล AI ทำได้รวดเร็วและแม่นยำมากขึ้น เปิดประสบการณ์ใหม่ในการใช้งานสมาร์ทโฟนที่ฉลาดล้ำและตอบโจทย์ผู้ใช้ในทุกด้าน

AI Sketch to Image คือฟีเจอร์ที่โดดเด่นที่สุด ด้วยความสามารถในการแปลงภาพร่างง่ายๆ ให้กลายเป็นภาพที่สวยงามและมีรายละเอียดสมบูรณ์ เพียงวาดภาพคร่าวๆ บนหน้าจอหรือถ่ายภาพสเก็ตช์บนกระดาษ ระบบ AI จะวิเคราะห์และสร้างภาพใหม่ที่มีสีสัน องค์ประกอบ และรายละเอียดที่สมจริง นอกจากนี้ยังสามารถเพิ่มองค์ประกอบใหม่ให้กับภาพถ่ายที่มีอยู่แล้ว เหมาะสำหรับการสร้างภาพประกอบงานนำเสนอหรือการแต่งภาพให้มีความคิดสร้างสรรค์

AI Motion Deblur เป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่น่าประทับใจ ช่วยแก้ปัญหาภาพเบลอที่เกิดจากการเคลื่อนไหวหรือมือสั่น โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่มีการเคลื่อนไหวในทิศทางเดียว เช่น การปั่นจักรยาน การเล่นสเก็ตบอร์ด หรือการถ่ายภาพที่หลุดโฟกัส เพียงเลือกภาพที่ต้องการปรับแก้ในแอปอัลบั้ม ระบบ AI จะวิเคราะห์และปรับแต่งภาพให้คมชัดขึ้นโดยอัตโนมัติ ทำให้ไม่พลาดทุกช่วงเวลาสำคัญ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายมาตอนแรกจะเห็นว่าตัวหนังสือจะเบลอๆ โฟกัสไม่ชัด เมื่อให้ AI แก้ไขก็จะเห็นได้เลยว่าภาพที่ได้ชัดเจนขึ้นมาทันที

AI Eraser ความสามารถในการลบวัตถุและคนในภาพได้อย่างน่าทึ่ง ที่เราสามารถเลือกได้ทั้งวงเลือกวัตถุที่ต้องการลบ หรือจะให้ AI สแกนลบคนในฉากหลังทั้งหมด โดยที่จะเหลือเฉพาะตัวแบบคนที่เด่นที่สุดกลางภาพไว้

การทดสอบนั้นทำได้เหนือคาดมาก จากในภาพจะเห็นว่ามีคนเดินขวักไขว่เต็มด้านหลัง Next AI ของ realme GT 7 Pro ก็สามารถลบทิ้งและเติมฉากหลังให้ได้อย่างแนบเนียน

AI Ultra Clarity ความสามารถที่ช่วยปรับแต่งภาพที่เบลอไม่ชัด จากการที่ซูมระยะไกล ให้มีรายละเอียดสวยคมชัดมากขึ้น ตัวอย่างที่เราทดสอบ เป็นภาพถ่ายบุคคลด้วยระยะเลนส์ที่ 400mm ซึ่งเป็นระยะซูมดิจิทัล ทำให้ภาพของใบหน้าดูเบลอเป็นวุ้นๆ

เมื่อใช้ AI ในการปรับแต่งจะเห็นได้ว่า AI ได้ปรับและสร้างภาพขึ้นมาใหม่ ให้เห็นใบหน้าที่สวยชัดเจนขึ้นมาได้ทันที

นอกจากนี้ ยังรองรับ Google Gemini ผู้ช่วย AI อัจฉริยะรุ่นใหม่ล่าสุด ที่สามารถเรียกใช้งานได้อย่างรวดเร็วผ่านปุ่มลัด กดปุ่ม Power ค้างแค่ 3-4 วินาทีก็เปิดใช้งานได้เลย ด้วยประสิทธิภาพของชิปเซ็ตรุ่นใหม่ ทำให้การโต้ตอบกับ Gemini ทำได้แบบเรียลไทม์ ไม่ว่าจะเป็นการถามตอบ การแปลภาษา การสรุปเนื้อหา หรือการวิเคราะห์ข้อมูล ช่วยให้การทำงานและการใช้ชีวิตประจำวันสะดวกและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ดีไซน์ที่ได้แรงบันดาลใจจากดาวอังคาร

ตัวเครื่องของ realme GT 7 Pro โดดเด่นด้วยการออกแบบสีส้มแดง Mars Orange ที่ได้แรงบันดาลใจจากดาวอังคาร สะท้อนถึงพื้นผิวอันเป็นเอกลักษณ์ของดาวเคราะห์สีแดง ให้ความรู้สึกทันสมัยและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ด้วยลวดลายการไล่เฉดสีที่ละเอียดและมิติของสีที่เปลี่ยนไปตามมุมมอง ทำให้ตัวเครื่องดูมีชีวิตชีวาและน่าหลงใหล และผิวสัมผัสแบบด้านที่จับแล้วนุ่มละมุนนิ้ว และสำหรับในประเทศไทยจะมีจำหน่ายเฉพาะสี Mars Orange เท่านั้น ซึ่งถือเป็นการสร้างจุดเด่นที่แตกต่างในตลาดสมาร์ทโฟนระดับเรือธง

ในด้านวัสดุและขนาด realme GT 7 Pro มาพร้อมกับตัวเครื่องขนาด 162.45 × 76.89 × 8.55 มิลลิเมตร และน้ำหนัก 222.8 กรัม การเลือกใช้วัสดุระดับพรีเมียมที่ให้สัมผัสที่ดีเยี่ยม ช่วยเพิ่มความรู้สึกหรูหราให้กับตัวเครื่อง ขณะที่การจัดวางกล้อง 3 ตัวในโมดูลขนาดใหญ่ด้านหลัง ไม่เพียงสะท้อนถึงความใส่ใจในรายละเอียดการออกแบบ แต่ยังช่วยให้ตัวเครื่องมีเอกลักษณ์โดดเด่นเมื่อมองจากด้านหลัง

จุดเด่นที่น่าสนใจอีกประการคือการรองรับการใช้งานใต้น้ำด้วยมาตรฐาน IP69 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของการกันน้ำและฝุ่น ไม่เพียงแค่กันน้ำกระเซ็นทั่วไป แต่สามารถใช้งานใต้น้ำได้จริง ทำให้ผู้ใช้สามารถถ่ายภาพหรือวิดีโอใต้น้ำได้อย่างมั่นใจ นอกจากนี้ยังมาพร้อมเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือแบบ Ultrasonic ที่มีพื้นที่สแกนกว้างขึ้น ใช้งานได้แม้นิ้วเปียกน้ำ เพิ่มความสะดวกในการปลดล็อคหน้าจอในทุกสภาวะ

แม้ว่า GT 7 Pro จะไม่ใช่สมาร์ทโฟนที่เพรียวบางและเบาที่สุดในท้องตลาด แต่ด้วยการออกแบบที่มีความโค้งมนตามขอบจอ ทำให้ดูนุ่มนวลและสบายตา หน้าจอโค้งช่วยลดความรู้สึกของขอบจอ เพิ่มความรู้สึกไร้ขอบและความพรีเมียมให้กับตัวเครื่อง การเลือกใช้กระจกโค้งทั้งด้านหน้าและด้านหลังยังช่วยให้ตัวเครื่องดูบางลง ส่งผลให้การจับถือในการใช้งานประจำวันทำได้อย่างสะดวกสบายและถนัดมือ ไม่ลื่นหลุดมือง่ายแม้จะใช้งานเป็นเวลานาน

จอแสดงผล RealWorld Eco² Display: นวัตกรรมหน้าจอระดับพรีเมียมที่พัฒนาร่วมกับ Samsung

realme GT 7 Pro มาพร้อมหน้าจอ RealWorld Eco² Display ที่พัฒนาร่วมกับ Samsung ด้วยเทคโนโลยี 8T LTPO และ Eco² OLED Plus ที่ให้ประสิทธิภาพการแสดงผลระดับสูงสุด พร้อมประหยัดพลังงานได้มากกว่าหน้าจอ OLED ทั่วไปถึง 52% ทำให้ผู้ใช้ได้สัมผัสประสบการณ์การรับชมที่ยอดเยี่ยมและใช้งานได้ยาวนานขึ้น

ความน่าสนใจของจอตัวนี้ก็คือ ความสว่างสูงสุดที่ 6,500 nits สูงกว่าแบรนด์อื่นๆ ในตลาดตอนนี้ได้อย่างเห็นได้ชัด เปรียบเทียบให้เห็นภาพง่ายๆ คือ ความสว่างระดับนี้สามารถมองเห็นได้ชัดเจนแม้อยู่กลางแดดจ้าในเวลาเที่ยงวัน หรือแม้แต่ในสภาพแสงสะท้อนรุนแรง โดยในการใช้งานปกติหน้าจอจะมีความสว่าง 1,000 nits และเพิ่มเป็น 2,000 nits ในโหมด High Brightness Mode (HBM)

ด้านการแสดงสี หน้าจอนี้ครอบคลุมช่วงสี DCI-P3 ได้มากถึง 120% ทำให้การแสดงสีมีความอิ่มตัวและสมจริงมากขึ้น เห็นได้ชัดเจนเมื่อดูภาพถ่าย วิดีโอ หรือเล่นเกมที่มีสีสันสดใส โดยเฉพาะในเนื้อหาที่รองรับ HDR10+ และ Dolby Vision

พิเศษสุดกับเทคโนโลยี DC Dimming ที่ช่วยถนอมสายตาในการใช้งานทั้งกลางวันและกลางคืน ระบบจะปรับความสว่างของจอแสดงผลแบบต่อเนื่องโดยไม่กะพริบ ต่างจากการปรับแบบ PWM ในจอทั่วไปที่อาจทำให้ตาล้าเมื่อใช้งานนาน นอกจากนี้ยังมีโหมดถนอมสายตาที่ลดแสงสีฟ้าและปรับโทนสีให้อบอุ่นขึ้นในเวลากลางคืน ทำให้การใช้งานสบายตามากขึ้น แม้จะใช้งานต่อเนื่องเป็นเวลานาน

ระบบกล้องระดับเรือธงจาก Sony พร้อมฟีเจอร์โหมด “ถ่ายใต้น้ำ” เป็นครั้งแรก

realme GT 7 Pro มาพร้อมระบบกล้องหลัง 3 ตัวจาก Sony ที่โดดเด่นด้วยเซ็นเซอร์ความละเอียด 50MP ถึง 2 ตัว ประกอบด้วย

  • กล้องหลัก Sony IMX906 ขนาด 1/1.56 นิ้ว รูรับแสง f/1.8 พร้อมระบบกันสั่น OIS
  • กล้องเทเลโฟโต้ Sony IMX882 ขนาด 1/1.95 นิ้ว รูรับแสง f/2.65 ซูมออปติคอล 3 เท่า พร้อม OIS
  • กล้องมุมกว้าง Sony IMX355 ความละเอียด 8MP รูรับแสง f/2.2

ด้วยคุณภาพของเซ็นเซอร์ระดับท็อปและการรวมพลังของเลนส์ทั้ง 3 ตัว ทำให้สามารถถ่ายภาพได้อย่างยอดเยี่ยมในทุกสภาพแสงและทุกสถานการณ์

จุดเด่นที่น่าตื่นเต้นที่สุดคือการเป็นสมาร์ทโฟนรายแรกของวงการที่มาพร้อม โหมดถ่ายภาพใต้น้ำ ด้วยมาตรฐานกันน้ำ IP69 ระดับสูงสุด ทำให้สามารถถ่ายภาพและวิดีโอใต้น้ำได้อย่างอิสระ เมื่อนำตัวเครื่องลงไปในน้ำ ระบบจะเปิดใช้งานโหมดถ่ายภาพใต้น้ำโดยอัตโนมัติ พร้อมปรับการตั้งค่าต่างๆ ให้เหมาะสมกับการถ่ายภาพใต้น้ำ ทั้งความเร็วชัตเตอร์ ไวต์บาลานซ์ และการประมวลผลภาพ ทำให้ได้ภาพใต้น้ำที่คมชัด สีสันสวยงาม เหมือนใช้กล้องแอคชั่นราคาแพง

ในการควบคุมการถ่าย สามารถแตะสัมผสที่หน้าจอเพื่อกดเลือกถ่ายภาพหรือวิดีโอ ส่วนการเปลี่ยนโหมดและมุมมอง จะกดที่ปุ่มปรับระดับเสียง และเมื่อนำเครื่องขึ้นมาจากน้ำ ก็จะมีให้สั่งเปิดเสียงเพื่อไล่น้ำที่อาจจะมีขังอยู่ในช่องลำโพง

ถึงแม้ว่าจะมีระบบสำหรับการถ่ายใต้น้ำ แต่ก็ยังมีข้อจำกัดในการใช้งานได้ในน้ำลึกไม่เกินระดับ 2 เมตร และต้องเป็นน้ำที่ใสสะอาด ไม่ใช่น้ำทะเล

ตัวอย่างภาพถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพใต้น้ำ

พร้อมกันนี้ในระบบของกล้องยังมี AI Ultra-clear Snap Camera นวัตกรรมใหม่ที่ช่วยให้การถ่ายภาพวัตถุที่เคลื่อนที่เร็วทำได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพกีฬา สัตว์เลี้ยงที่กำลังวิ่งเล่น หรือเด็กๆ ที่กำลังเคลื่อนไหว ระบบ AI จะวิเคราะห์การเคลื่อนไหวและปรับการตั้งค่ากล้องให้เหมาะสมโดยอัตโนมัติ พร้อมถ่ายภาพต่อเนื่องในจังหวะที่เหมาะสม ทำให้ได้ภาพแอคชั่นที่คมชัด จับจังหวะการเคลื่อนไหวได้อย่างสมบูรณ์แบบ

ความสามารถที่น่าทึ่งอีกประการของระบบกล้องบน GT 7 Pro คือ การซูมระยะไกลที่ทำได้สูงสุดถึง 120 เท่า ด้วยการผสมผสานระหว่างเลนส์เทเลโฟโต้ซูม 3 เท่า และเทคโนโลยี AI Zoom Ultra Clarity ที่ช่วยเพิ่มความคมชัดให้กับภาพถ่ายระยะไกล โดย AI จะวิเคราะห์และประมวลผลภาพแบบเรียลไทม์ ปรับแต่งรายละเอียด ลดน็อยซ์ และเพิ่มความคมชัดในจุดที่สำคัญ ทำให้ภาพถ่ายระยะไกลยังคงรักษารายละเอียดและความคมชัดได้ดี แม้จะซูมในระยะที่ไกลมาก เหมาะสำหรับการถ่ายภาพสถาปัตยกรรม ท้องฟ้า หรือวิวทิวทัศน์ระยะไกลที่ต้องการจับรายละเอียดเล็กๆ ที่อยู่ห่างออกไป

การถ่ายภาพพอร์เทรต สามารถเลือกระยะได้ถึง 3 ระยะเลนส์ คือ 1x, 2x และ 3x ทำให้ในการถ่ายภาพฉากหลังที่มีมิติที่ต่างไปในแต่ะระยะ โดยที่ยิ่งซูมก็ยิ่งดึงฉากหลังเข้าใกล้แบบมากยิ่งขึ้น ทำให้การถ่ายพอร์ตเทรตมีความสวยงามแบบกล้องโปรมากยิ่งขึ้น

ในด้านการบันทึกวิดีโอ GT 7 Pro สามารถบันทึกวิดีโอความละเอียด 8K ที่ 24FPS ซึ่งให้รายละเอียดภาพที่สูงที่สุดในปัจจุบัน หรือเลือกบันทึกที่ 4K 60FPS สำหรับวิดีโอที่นุ่มนวลและเหมาะกับการใช้งานทั่วไป ระบบกันสั่น OIS บนกล้องหลักและกล้องซูมช่วยให้วิดีโอนิ่งไม่สั่นไหว แม้ถ่ายแบบถือด้วยมือเปล่า นอกจากนี้ยังรองรับการบันทึกวิดีโอในโหมด Live Photo ที่สามารถแชร์ลง Instagram Stories ได้ทันที

สำหรับกล้องหน้า realme เลือกใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX480 ความละเอียด 16MP ขนาด 1/3.09 นิ้ว รูรับแสง f/2.45 พร้อมระบบประมวลผลภาพอัจฉริยะที่ช่วยปรับแต่งสีผิวและรายละเอียดใบหน้าให้ดูเป็นธรรมชาติ รวมถึงฟีเจอร์ปรับหน้าเรียวและเพิ่มความคมชัดของดวงตา ทำให้การถ่ายเซลฟี่หรือวิดีโอคอลทำได้อย่างสวยงาม พร้อมเบลอฉากหลังได้อย่างแนบเนียนด้วยระบบ AI Portrait

ตัวอย่างภาพถ่ายด้วยกล้องของ realme GT 7 Pro

realme UI 6.0: ระบบปฏิบัติการใหม่ที่ล้ำสมัยบน Android 15 พร้อมฟีเจอร์เชื่อมต่อกับ iPhone

realme GT 7 Pro เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่มาพร้อม realme UI 6.0 บนระบบปฏิบัติการ Android 15 ซึ่งได้รับการปรับแต่งอินเทอร์เฟซใหม่ให้ใช้งานง่ายและสวยงามมากขึ้น พร้อมฟีเจอร์อัจฉริยะที่ช่วยให้การใช้งานมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการจัดการแอพพลิเคชัน การประหยัดพลังงาน หรือการปรับแต่งหน้าจอให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้

จุดเด่นที่น่าสนใจคือแอพพลิเคชัน O+ Connect ที่ช่วยให้การถ่ายโอนไฟล์ระหว่าง iPhone และ GT 7 Pro ทำได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย เพียงดาวน์โหลดแอพ O+ Connect และทำการเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์ ผู้ใช้ก็สามารถย้ายข้อมูลสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นรูปภาพ วิดีโอ รายชื่อติดต่อ หรือไฟล์เอกสารต่างๆ ได้โดยตรง โดยไม่ต้องผ่านคลาวด์หรือคอมพิวเตอร์

นอกจากนี้ O+ Connect ยังรองรับการส่งไฟล์ Live Photo จาก iPhone มายัง GT 7 Pro โดยยังคงเอฟเฟกต์การเคลื่อนไหวไว้ได้อย่างสมบูรณ์ และสามารถแชร์ลง Instagram Stories ได้ทันที ทำให้ผู้ใช้ที่เปลี่ยนจาก iPhone มาใช้ GT 7 Pro ไม่ต้องกังวลเรื่องการย้ายข้อมูล หรือการสูญเสียคุณภาพของไฟล์ระหว่างการถ่ายโอน

เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการใช้งาน O+ Connect แนะนำให้อัปเดตทั้ง iOS และ realme UI เป็นเวอร์ชันล่าสุด ซึ่งจะช่วยให้การเชื่อมต่อและถ่ายโอนข้อมูลทำได้เสถียรและรวดเร็วยิ่งขึ้น พร้อมรองรับไฟล์หลากหลายประเภทและฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่จะเพิ่มเติมในอนาคต

สรุป รีวิว realme GT 7 Pro ม้ามืดที่พร้อมท้าชนเรือธงทุกค่าย แต่ว่าจะน่าซื้อหรือเปล่า?

realme GT 7 Pro ถือเป็นสมาร์ทโฟนเรือธงที่มาพร้อมจุดเด่นมากมายและน่าจับตามองที่สุดในช่วงปลายปี 2024 ด้วยการเป็นรายแรกที่ใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 8 Elite บนกระบวนการผลิต 3nm ที่ให้ประสิทธิภาพสูงกว่าชิปรุ่นก่อนถึง 45% พร้อมคะแนน Antutu ที่ทะลุ 3 ล้านแต้ม นอกจากนี้ยังมีจุดเด่นด้าน AI ที่หลากหลาย ทั้ง AI Sketch to Image, AI Motion Deblur และระบบกล้องอัจฉริยะที่มาพร้อมโหมดถ่ายภาพใต้น้ำเป็นรายแรกของวงการ

หลังจากที่ลองใช้งานแล้ว ตัวชิป Snapdragon 8 Elite นั้นมีประสิทธิภาพระดับสูงและดีกว่าอย่างรู้สึกได้ ทั้งเรื่องของความลื่นไหลและการประหยัดพลังงาน รวมถึงไปความร้อนสะสมระหว่างที่เล่นเกม ที่รู้สึกได้เลยว่าไม่ได้ร้อนจี๋เหมือนกับเจนเนอเรชั่นก่อนๆ

จุดเด่นที่น่าประทับใจอีกประการคือแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 6,500mAh ที่ใช้เทคโนโลยี Silicon Anode รุ่นใหม่ พร้อมชาร์จเร็ว 120W ที่ชาร์จเต็มได้ในเวลาเพียง 37 นาที หน้าจอ RealWorld Eco² Display ที่พัฒนาร่วมกับ Samsung ให้ความสว่างสูงสุดถึง 6,500 nits และครอบคลุมช่วงสี DCI-P3 ได้มากถึง 120% ซึ่งเหนือกว่าคู่แข่งในระดับเดียวกันอย่างชัดเจน

แต่ก็มีหลายข้อควรพิจารณาก่อนตัดสินใจซื้อด้วยเช่นกัน เพราะว่าทางประเทศไทย จะมีเข้ามาเฉพาะสี Mars Orange สีเดียวเท่านั้น และมีรุ่นความจุ 12/512GB รุ่นเดียว อาจจะไม่ตอบโจทย์คนที่อยากได้สีอื่น รวมถึงคนที่อยากได้รุ่นความจุน้อยกว่านี้ เพื่อให้ราคานั้นถูกลง

ส่วนเรื่องขนาดเครื่องที่ค่อนข้างหนาและน้ำหนักของตัวเครื่องที่หนักพอสมควร อาจไม่เหมาะกับผู้ที่ชอบสมาร์ทโฟนเบาและบาง แต่สิ่งที่แลกมากับความหนาและหนัก ก็คือปริมาณแบตเตอรี่ที่เพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมมาก

ในเรื่องของกล้องก็มีข้อสังเกตเช่นกัน เพราะกล้องหลักและกล้องเทเลโฟโต้ ได้เป็น 50MP แต่ทว่าในกล้องมุมกว้าง Ultra-wide กลับให้ความละเอียดแค่ 8MP ทำให้เวลาถ่ายมุมกว้างจะรู้สึกแตกต่างจากมุมอื่นอยู่บ้าง

ด้านราคา GT 7 Pro วางจำหน่ายที่ 29,999 บาท สำหรับรุ่น 12/512GB ซึ่งถือว่าคุ้มค่าเมื่อเทียบกับสเปคและฟีเจอร์ที่ได้รับ โดยเฉพาะโปรโมชั่นพิเศษช่วงเปิดตัวระหว่างวันที่ 18-25 พฤศจิกายนที่ได้รับ Voucher ส่วนลดสูงสุด 2,000 บาท พร้อม realme Buds Air 6 มูลค่า 1,999 บาท ทำให้คุ้มค่ายิ่งขึ้น แต่ต้องรีบตัดสินใจเพราะโปรโมชั่นมีจำกัดเฉพาะช่องทาง Shopee เท่านั้น

สรุปแล้ว realme GT 7 Pro เป็นสมาร์ทโฟนเรือธงส่งท้ายปลายปีที่น่าสนใจมาก ที่ให้คุณได้สัมผัสกับ Snapdragon 8 Elite เป็นรุ่นแรก และ (น่าจะ) เปิดราคาที่ต่ำสุดแล้วในไทย ถือว่าให้ความคุ้มค่าสูงเมื่อเทียบกับราคา เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนประสิทธิภาพสูง มีฟีเจอร์ล้ำสมัย และพร้อมลองของใหม่จาก realme ที่กล้าท้าชนแบรนด์ยักษ์ใหญ่ในตลาด ทั้งเรื่องเล่นเกมและกล้องที่ถ่ายได้สวยทุกครั้งที่หยิบมาใช้งาน

Blogger สาย Multi Function ตามติดเทคโนโลยีมือถือ, แท็บเล็ต, แอพ, เกมคอนโซล, โลกโซเชียล และจักรยาน