CHANGAN สร้างความตื่นตาตื่นใจในงาน The 41st Thailand International Motor Expo 2024 ด้วยการเปิดตัว DEEPAL E07 ยานยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ล่าสุด ที่มาพร้อมดีไซน์ล้ำสมัยและสมรรถนะเหนือชั้น สะท้อนความมุ่งมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าและการขับเคลื่อนธุรกิจตามแผนกลยุทธ์ระดับโลก Vast Ocean Plan เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนในประเทศไทยและตลาดโลก
ในรอบปีที่ผ่านมา CHANGAN ได้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย ด้วยการลงทุนกว่า 10,000 ล้านบาท ครอบคลุมการสร้างโรงงานผลิตยานยนต์พลังงานใหม่ที่ระยอง และการจัดตั้งหน่วยธุรกิจ 3 หน่วย เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในภูมิภาค นอกจากนี้ ยังร่วมมือกับซัพพลายเออร์ในประเทศไทยกว่า 300 ราย ส่งเสริมการผลิตในประเทศมากกว่า 50% สร้างงานในห่วงโซ่อุปทานกว่า 20,000 ตำแหน่ง
DEEPAL E07 ถูกออกแบบภายใต้แนวคิด “BE YOURSELF, DRIVE YOUR WAY” นำเสนอประสบการณ์การขับขี่ที่ปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการ มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 89.98 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ให้เลือกทั้งรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ (AWD) และรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ (RWD)
รุ่น Performance AWD โดดเด่นด้วยมอเตอร์คู่ให้กำลังรวมสูงสุด 440 กิโลวัตต์ แรงบิดรวมสูงสุด 645 นิวตันเมตร วิ่งได้ไกล 590 กิโลเมตรต่อการชาร์จ ส่วนรุ่น Plus RWD มาพร้อมมอเตอร์ให้กำลังสูงสุด 252 กิโลวัตต์ แรงบิดสูงสุด 365 นิวตันเมตร วิ่งได้ไกลถึง 640 กิโลเมตรต่อการชาร์จ
ด้านเทคโนโลยี DEEPAL E07 มาพร้อมระบบช่วยเหลือการขับขี่และระบบช่วยจอดอัจฉริยะ ระบบเลือกโหมดสถานการณ์ และโหมดเฝ้าระวัง พร้อมห้องโดยสารที่สะดวกสบายด้วยเบาะนั่งคู่หน้าปรับไฟฟ้า 14 ทิศทาง พร้อมฟังก์ชัน Zero Gravity และระบบระบายอากาศ
CHANGAN DEEPAL E07 มีให้เลือก 5 รุ่นย่อย
- รุ่น Plus ราคา 1,699,000 บาท
- รุ่น Performance AWD ราคา 2,099,000 บาท
- รุ่น Plus Limited Edition ราคา 1,890,000 – 1,990,000 บาท
- รุ่น Performance AWD Limited Edition ราคา 2,290,000 – 2,390,000 บาท
- รุ่น Legacy ราคา 2,990,000 – 3,090,000 บาท
พิเศษสำหรับผู้จอง 500 ท่านแรก รับราคาพิเศษ DEEPAL E07 Plus ที่ 1,599,000 บาท และ Performance AWD ที่ 1,999,000 บาท พร้อมรับแพ็คเกจ Premium Care และ Premium Care Plus ที่รวมประกันภัยชั้น 1 การรับประกัน การบำรุงรักษา อุปกรณ์ชาร์จ และบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน
ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ Google News
ช่องทางโซลเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok