Apple เปิดตัว 10 ฟีเจอร์ ความเป็นส่วนตัว ใหม่ล่าสุด พร้อมเสริมความปลอดภัยในการใช้งาน ทั้ง Private Relay, Hide My Email ฯลฯ
เนื่องในโอกาสวันคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลสากล เราขอนำเสนอฟีเจอร์ด้านความเป็นส่วนตัวระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรม บนอุปกรณ์ของ Apple เพื่อช่วยให้ผู้ใช้สามารถควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยครอบคลุมตั้งแต่การปกป้องการติดตามออนไลน์ไปจนถึงการควบคุมการเข้าถึงแอปพลิเคชัน ซึ่งฟีเจอร์เหล่านี้ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบสนองความต้องการด้านความปลอดภัยของผู้ใช้ในยุคดิจิทัล
1. ล็อกและซ่อนแอป ปกป้องข้อมูลสำคัญ
ฟีเจอร์การล็อกและซ่อนแอปพลิเคชันช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ใช้ในการปกป้องข้อมูลส่วนตัว โดยสามารถป้องกันไม่ให้ผู้อื่นเข้าถึงข้อมูลที่ไม่ต้องการแชร์ได้โดยไม่ตั้งใจ
ฟีเจอร์นี้มีประโยชน์อย่างมากในสถานการณ์ที่ต้องโชว์หน้าจอให้ผู้อื่นดูหรือส่งมอบอุปกรณ์ให้กับผู้อื่นใช้งาน โดยผู้ใช้สามารถเลือกล็อกแอปเพื่อป้องกันการเข้าถึงเนื้อหาภายใน หรือซ่อนแอปเพื่อไม่ให้ผู้อื่นมองเห็นได้
ดูรายละเอียดวิธีล็อกและซ่อนแอปได้ ที่นี่

2. ควบคุมการแชร์รายชื่อติดต่อแบบเฉพาะเจาะจง
ใน iOS 18 Apple ได้พัฒนาระบบการควบคุมการเข้าถึงรายชื่อติดต่อให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น โดยผู้ใช้สามารถเลือกแชร์เฉพาะรายชื่อติดต่อที่ต้องการให้แอปพลิเคชันเข้าถึงได้
นวัตกรรมนี้ช่วยยกระดับความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ แทนที่จะต้องให้สิทธิการเข้าถึงรายชื่อทั้งหมดเหมือนในอดีต ทำให้ผู้ใช้สามารถควบคุมการแชร์ข้อมูลรายชื่อติดต่อได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ดูรายละเอียดเกี่ยวกับการอนุญาตให้เข้าถึงรายชื่อติดต่อได้ ที่นี่
3. Safari Private Browsing พร้อมระบบล็อกอัตโนมัติ
Safari Private Browsing ได้รับการพัฒนาให้มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น โดยระบบจะไม่บันทึกหน้าที่เยี่ยมชม ประวัติการค้นหา หรือข้อมูล AutoFill และมีการล็อกหน้าต่าง Private Browsing โดยอัตโนมัติ
ผู้ใช้สามารถเปิดแท็บทิ้งไว้และกลับมาใช้งานต่อได้อย่างสะดวก โดยการปลดล็อกด้วย Face ID, Touch ID หรือรหัสผ่าน ทำให้การท่องเว็บมีความเป็นส่วนตัวและปลอดภัยมากขึ้น
ดูรายละเอียดเกี่ยวกับการล็อก private Browsing ได้ ที่นี่
4. Link Tracking Protection ป้องกันการติดตามออนไลน์
Apple ได้พัฒนาฟีเจอร์ Link Tracking Protection เพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวในการท่องเว็บ โดยระบบจะช่วยลบตัวติดตามที่ไม่จำเป็นออกจากลิงก์ที่แชร์ผ่าน Messages, Mail และ Safari ในโหมด Private Browsing
ฟีเจอร์นี้ช่วยป้องกันการติดตามพฤติกรรมออนไลน์ของผู้ใช้ เนื่องจากบางลิงก์อาจมีข้อมูลเพิ่มเติมที่แนบมากับ URL เพื่อใช้ในการติดตามกิจกรรมออนไลน์
5. Safety Check เพิ่มความปลอดภัยในสถานการณ์เสี่ยง
Safety Check เป็นฟีเจอร์ที่ช่วยปกป้องผู้ใช้ในกรณีที่ความปลอดภัยตกอยู่ในความเสี่ยง โดยสามารถตรวจสอบและหยุดการแชร์ข้อมูลกับบุคคลหรือแอปพลิเคชันต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ ฟีเจอร์นี้ยังแสดงให้เห็นว่าผู้ใช้กำลังแชร์ข้อมูลอยู่กับใครบ้าง สามารถจำกัดการเข้าถึง Messages และ FaceTime บนอุปกรณ์ iPhone เท่านั้น รวมถึงเปลี่ยนรหัสผ่านได้อีกด้วย
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Safety Check ได้ ที่นี่
6. App Privacy Report ติดตามการเข้าถึงข้อมูลของแอป
App Privacy Report เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบรายละเอียดการเข้าถึงข้อมูลของแต่ละแอปพลิเคชัน เมื่อเปิดใช้งานฟีเจอร์นี้ ผู้ใช้จะสามารถเห็นความถี่ในการเข้าถึงข้อมูลที่ได้รับอนุญาต
รายงานจะแสดงการเข้าถึงข้อมูลต่างๆ เช่น ตำแหน่งที่ตั้ง กล้อง ไมโครโฟน และข้อมูลอื่นๆ ทำให้ผู้ใช้สามารถควบคุมและจัดการการเข้าถึงข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ดูรายละเอียดเกี่ยวกับ App Privacy report ได้ ที่นี่
7. Hide My Email ปกป้องอีเมลส่วนตัว
ฟีเจอร์ Hide My Email ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ iCloud+ ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างอีเมลแบบสุ่มเพื่อใช้กับแอปพลิเคชัน เว็บไซต์ และบริการต่างๆ โดยที่อีเมลส่วนตัวของผู้ใช้ยังคงเป็นความลับ
ไม่ว่าจะเป็นการสร้างบัญชีใหม่กับแอป สมัครรับจดหมายข่าวออนไลน์ หรือส่งอีเมลไปยังบุคคลที่ไม่รู้จัก ฟีเจอร์นี้จะช่วยปกป้องความเป็นส่วนตัวของอีเมลของผู้ใช้และทำให้ประสบการณ์การใช้งานอีเมลยังคงความเป็นส่วนตัวอยู่เสมอ
ดูรายละเอียดวิธีสร้างและจัดการ Hide My Email ได้ ที่นี่
8. Approximate Location ควบคุมการแชร์ตำแหน่ง
Apple ได้พัฒนาฟีเจอร์ Approximate Location ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเลือกแชร์เฉพาะตำแหน่งที่อยู่โดยประมาณ ในรัศมีประมาณ 25 ตารางกิโลเมตร แทนที่จะเป็นตำแหน่งที่แน่นอน
ฟีเจอร์นี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้แอปพลิเคชันที่ต้องการข้อมูลตำแหน่ง เช่น การค้นหาร้านอาหารใกล้เคียง หรือการตรวจสอบสภาพอากาศในพื้นที่ โดยไม่ต้องเปิดเผยตำแหน่งที่อยู่ที่แท้จริง
ดูรายละเอียดกี่ยวกับ Approximate Location ได้ ที่นี่
9. Recording Indicators แจ้งเตือนการใช้งานกล้องและไมโครโฟน
ระบบตัวบ่งชี้การบันทึกเสียงและวิดีโอจะแสดงสัญลักษณ์เพื่อแจ้งเตือนผู้ใช้เมื่อแอปพลิเคชันใดกำลังใช้งานไมโครโฟนหรือกล้องของ iPhone โดยจะแสดงตัวบ่งชี้สีส้มเมื่อไมโครโฟนทำงาน และสีเขียวเมื่อกล้องหรือทั้งกล้องและไมโครโฟนถูกใช้งาน
ฟีเจอร์นี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถรับรู้และควบคุมการใช้งานอุปกรณ์รับภาพและเสียงได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถดูรายละเอียดได้ ที่นี่
10. iCloud Private Relay ท่องเว็บอย่างเป็นส่วนตัว
iCloud Private Relay ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของบริการ iCloud+ ถูกออกแบบมาเพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ขณะท่องเว็บใน Safari โดยไม่มีใคร แม้แต่ Apple เอง ที่จะสามารถเห็นทั้งตัวตนของผู้ใช้และเว็บไซต์ที่กำลังเยี่ยมชมได้
ฟีเจอร์นี้ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการท่องเว็บ โดยป้องกันการติดตามและการเข้าถึงข้อมูลการท่องเว็บของผู้ใช้ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ที่นี่
สำหรับผู้ที่สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับฟีเจอร์ด้าน ความเป็นส่วนตัว ทั้งหมดของ Apple สามารถเยี่ยมชมได้ที่ www.apple.com/privacy
ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ Google News
ช่องทางโซลเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok