มาร์ก ซัคเคอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้งและซีอีโอ Meta ออกมาประกาศปรับนโยบายการจัดการเนื้อหาบนแพลตฟอร์มครั้งใหญ่ โดยจะลดความซับซ้อนของระบบควบคุม และเพิ่มอิสรภาพในการแสดงความคิดเห็น หรือ free speech แม้อาจต้องแลกมาด้วยความท้าทายในการจัดการกับเนื้อหาที่อาจมีความรุนแรงมากขึ้น
การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญคือการยกเลิกระบบการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยบุคคลที่สาม (Third-Party Fact-Checking) ซึ่งเคยถูกวิพากษ์วิจารณ์เรื่องความลำเอียงทางการเมือง และหันมาใช้ระบบ Community Notes แทน โดยให้ชุมชนผู้ใช้งานมีส่วนร่วมในการระบุและรายงานข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเนื้อหาที่อาจทำให้เข้าใจผิด
Meta จะปรับเปลี่ยนวิธีการจัดการเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม โดยจะลดการใช้ระบบอัตโนมัติในการลบโพสต์ ซึ่งที่ผ่านมามักเกิดความผิดพลาดและสร้างความไม่พอใจให้ผู้ใช้งาน แทนที่จะเป็นการพิจารณาจากการรายงานของชุมชนเป็นหลัก ยกเว้นกรณีเนื้อหาผิดกฎหมายหรือมีความรุนแรงสูง
การปรับตัวครั้งสำคัญนี้เกิดขึ้นพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงผู้นำฝ่ายนโยบาย โดย โจเอล คาปแลน ผู้มีความสัมพันธ์อันดีกับอดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ เข้ามารับตำแหน่งแทน นิค เคลกก์ นักการเมืองชาวอังกฤษ สะท้อนถึงทิศทางใหม่ในการจัดการเนื้อหาบนแพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานกว่า 3 พันล้านคนทั่วโลก
พร้อมกันนี้ Meta ยังประกาศย้ายทีมงานด้านความปลอดภัยและการตรวจสอบเนื้อหาจากแคลิฟอร์เนียไปยังเท็กซัส เพื่อสร้างความหลากหลายทางความคิดและลดข้อกังวลเรื่องอคติในการทำงาน อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญหลายรายแสดงความกังวลว่าการผ่อนปรนการควบคุมเนื้อหาอาจส่งผลให้เกิดการแพร่กระจายของข้อมูลที่ผิดและเนื้อหาที่สร้างความแตกแยกมากขึ้น
ข้อมูลจาก Facebook
ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ Google News
ช่องทางโซลเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok