เปิดตัว OPPO Find N5 สมาร์ตโฟนจอพับ บางที่สุดในโลก ครองแชมป์ความบางเพียง 4.21 มม.

OPPO เปิดตัว Find N5 อย่างเป็นทางการ โดดเด่นด้วยดีไซน์ที่บางเฉียบเพียง 4.21 มิลลิเมตรในสถานะกางออก และ 8.93 มิลลิเมตรเมื่อพับเก็บ นับเป็นสมาร์ตโฟนจอพับที่บางที่สุดในโลก ณ ขณะนี้ ทำลายสถิติเดิมของ Honor Magic V3 ที่บาง 4.35 มม. เมื่อกางออก

นอกจากความบาง ตัวเครื่องยังมีน้ำหนักเบาเพียง 229 กรัม สำหรับรุ่นกระจก และ 239 กรัม สำหรับรุ่นหนัง พร้อมนำเสนอนวัตกรรมบานพับ Titanium Flexion Hinge ที่มีขนาดเล็กลง 26% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน แต่ยังคงความแข็งแรงทนทาน พร้อมระบบกันน้ำระดับ IPX6, IPX8 และ IPX9 เป็นรายแรกของโลกในกลุ่มสมาร์ตโฟนจอพับ

นวัตกรรมบานพับและการป้องกันระดับสูงสุด

บานพับ Titanium Flexion ใช้วัสดุไทเทเนียมเกรดอากาศยาน ให้ความแข็งแรงสูงถึง 2,200 MPa มากกว่าเหล็กทั่วไปที่แข็งแรง 1,800 MPa ช่วยลดรอยย่นบนหน้าจอได้ถึง 10% และลดความลึกของรอยพับลง 30% ผ่านการทดสอบการพับเปิด-ปิด 100,000 ครั้ง จาก TÜV Rheinland

ระบบกันน้ำระดับ IPX6, IPX8 และ IPX9 ช่วยปกป้องตัวเครื่องจากละอองน้ำ การแช่น้ำที่ความลึก 1.5 เมตรนาน 30 นาที และทนแรงดันน้ำอุณหภูมิสูง 80 องศาเซลเซียส นาน 2 นาที ตัวเครื่องใช้อะลูมิเนียมซีรีส์ 7000 ที่ผ่านการเคลือบป้องกันการกัดกร่อน เพิ่มความแข็งแรงขึ้น 30%

จอแสดงผลระดับพรีเมียม มอบประสบการณ์การรับชมที่เหนือชั้น

Find N5 มาพร้อมหน้าจอ AMOLED ขนาด 8.12 นิ้วเมื่อกางออก ความละเอียด QXGA+ (2480 x 2248 พิกเซล) ให้ความคมชัดระดับ 412 PPI อัตราส่วน 9.9:9 เหมาะกับการรับชมคอนเทนต์แนวนอน รองรับการแสดงผลแบบไดนามิก 1-120Hz และความสว่างสูงสุด 2,100 นิต พร้อมระบบลดแสงกระพริบ PWM Dimming ความถี่ 2160Hz ที่ช่วยถนอมสายตา

หน้าจอด้านนอกขนาด 6.62 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2616 x 1140 พิกเซล) ความคมชัด 431 PPI อัตราส่วน 20.7:9 ที่ใกล้เคียงสมาร์ตโฟนทั่วไป ให้ความสว่างสูงสุดถึง 2,450 นิต เหมาะกับการใช้งานกลางแจ้ง พร้อมรองรับ HDR10+ และการแสดงผลสี 10-bit หรือกว่าพันล้านสี ครอบคลุมขอบเขตสี DCI-P3 100% ทั้งสองหน้าจอ

OPPO ใช้กระจก Ultra-Thin Nanocrystal Glass ที่เพิ่มความทนทานด้วยการเพิ่มค่าความเป็นผลึก 10% และความต้านทานการเจาะทะลุ 20% สำหรับหน้าจอด้านนอก ส่วนหน้าจอด้านในใช้การเคลือบแบบ PET และ UTG (Ultra-Thin Glass) ช่วยลดรอยขีดข่วนและป้องกันการกระแทก พร้อมเทคโนโลยีลดรอยย่นบริเวณรอยพับที่ช่วยให้หน้าจอดูเรียบเนียนขึ้น

นอกจากนี้ทั้งสองหน้าจอรองรับการใช้งานร่วมกับ OPPO Pen ที่แยกจำหน่าย เหมาะสำหรับการจดบันทึก วาดภาพ และการทำงานที่ต้องการความแม่นยำสูง

ประสิทธิภาพระดับเรือธง พร้อมเทคโนโลยี AI

ภายในตัวเครื่องขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต Snapdragon 8 Elite ผลิตด้วยกระบวนการ 3 นาโนเมตร มาพร้อม CPU แบบ 7-core (2 Prime cores + 5 Performance cores) ให้ประสิทธิภาพ CPU เร็วขึ้น 45% GPU เร็วขึ้น 40% และประสิทธิภาพ AI เพิ่มขึ้น 45% พร้อม RAM LPDDR5X 16GB และพื้นที่เก็บข้อมูล UFS 4.0 512GB

รองรับการใช้งานแบบมัลติทาสก์ได้อย่างลื่นไหลผ่านฟีเจอร์ Split View และ Boundless View สลับการทำงานระหว่างแอปพลิเคชันได้รวดเร็ว พร้อมระบบ AI LinkBoost ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการถ่ายโอนไฟล์ได้ถึง 77% และลดความหน่วงในการเล่นเกมลง 39% แม้อยู่ในพื้นที่สัญญาณอ่อน

ระบบกล้องคุณภาพสูง พัฒนาร่วมกับ Hasselblad

ระบบกล้องพัฒนาร่วมกับ Hasselblad นำเสนอกล้องหลัก 3 ตัว เริ่มจากเซ็นเซอร์หลัก LYT-700 ความละเอียด 50MP ขนาด 1/1.56 นิ้ว รูรับแสง f/1.89 ทางยาวโฟกัส 21 มม. พร้อม OIS สำหรับการถ่ายภาพในสภาพแสงน้อย กล้องซูม Samsung JN5 50MP ทางยาวโฟกัส 70 มม. ซูมออปติคอล 3 เท่า และกล้องมุมกว้าง 8MP ทางยาวโฟกัส 15 มม. พร้อมออโต้โฟกัส

มาพร้อมโหมดถ่ายภาพพอร์ตเรต Hasselblad Professional Portrait ที่สร้างเอฟเฟกต์ bokeh เหมือนกล้อง DSLR และโหมด Film Style ที่จำลองลุคฟิล์มคลาสสิก พร้อมฟีเจอร์ Lightning Snap ที่ถ่ายภาพต่อเนื่องได้ถึง 7 เฟรมต่อวินาที รวมถึงระบบถ่ายภาพมาโครด้วยกล้องเทเลโฟโต้ที่ระยะโฟกัสใกล้สุด 10 ซม.

ระบบปฏิบัติการ ColorOS และฟีเจอร์อัจฉริยะ O+ Connect

Find N5 รันบน ColorOS 15 บนพื้นฐาน Android 15 รับประกันการอัปเดตระบบปฏิบัติการ 4 ปี และอัปเดตความปลอดภัย 6 ปี มาพร้อมฟีเจอร์ AI LinkBoost ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการถ่ายโอนไฟล์ 77% และโพสต์โซเชียลมีเดีย 80% ขณะอยู่ในคอนเสิร์ต

และเป็นครั้งแรกกับฟีเจอร์ O+ Connect ที่มอบประสบการณ์เชื่อมต่อกับ Mac ได้แบบไร้รอยต่อ ช่วยให้ผู้ใช้สามารถค้นหา เข้าถึง แก้ไข และซิงค์ไฟล์บน Mac ได้จากระยะไกล พร้อมจำลองการใช้งานคีย์บอร์ด แทร็กแพด และมัลติทัชของ Mac บนหน้าจอสมาร์ตโฟน เสมือนเปลี่ยนสมาร์ตโฟนให้กลายเป็นคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้สูงสุด

ตัวระบบซิงค์ไฟล์แบบทันที ช่วยให้การแชร์ข้อมูลระหว่างอุปกรณ์เป็นไปอย่างราบรื่น เพียงแตะเพื่อแชร์ไฟล์ ผู้ใช้สามารถส่งรูปภาพ วิดีโอ เอกสาร และไฟล์ต่างๆ ระหว่าง Find N5 และ Mac ได้อย่างง่ายดาย

นอกจากนี้ยังรองรับการทำงานร่วมกับ iPhone และ iPad ผ่านแอป O+ Connect ที่ต้องติดตั้งบนอุปกรณ์ทั้งสองฝั่ง โดยรองรับระบบปฏิบัติการ iOS/iPadOS 15.0 ขึ้นไป สำหรับการถ่ายโอนข้อมูลระหว่างระบบปฏิบัติการที่แตกต่างกัน

รองรับใช้งาน AI อัจฉริยะเต็มรูปแบบ

Find N5 นำเสนอประสบการณ์การใช้งาน AI ที่ครอบคลุมการใช้งานทุกด้าน

• Google Gemini ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและความคิดสร้างสรรค์ ไม่ว่าจะเป็นการเรียนรู้แบบใหม่ๆ เขียนอีเมล วางแผนกิจกรรม และอื่นๆ อีกมากมาย
• AI Call Summary สรุปการสนทนาทางโทรศัพท์อัตโนมัติ
• AI Translation Assistant ช่วยแปลภาษาแบบเรียลไทม์ ขจัดอุปสรรคด้านภาษา
• AI Document Assistant ช่วยในการสร้างสารบัญ ปรับแต่งเนื้อหา และแปลเอกสารพร้อมการเปรียบเทียบแบบคู่ขนาน

• Circle to Search with Google ที่ช่วยให้ค้นหาข้อมูลได้ทันทีจากทุกสิ่งที่เห็นบนหน้าจอ เพียงวงกลม ไฮไลต์ ขีดเขียน หรือแตะที่รูปภาพ วิดีโอ หรือข้อความ โดยไม่ต้องสลับแอป ช่วยให้เข้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็วและกลับมาทำงานต่อได้ทันที
• AI Camera ช่วยปรับแต่งภาพอัตโนมัติ เพิ่มความคมชัด และลดนอยส์ในสภาพแสงน้อย
• โหมดถ่ายภาพ Lightning Snap ที่ใช้ AI ตรวจจับท่าทางและถ่ายภาพต่อเนื่องได้ถึง 7 เฟรมต่อวินาที

และสำหรับเวอร์ชันที่จำหน่ายในประเทศจีน ฟีเจอร์ด้าน AI ทาง OPPO ได้เลือกใช้ DeepSeek ในการทำงาน

แบตเตอรี่ความจุสูง พร้อมระบบชาร์จเร็วครบครัน

Find N5 ใช้แบตเตอรี่ Silicon-carbon ความจุ 5,600 mAh รองรับการชาร์จเร็ว SuperVOOC กำลัง 80W สามารถชาร์จเต็มภายใน 42 นาที และชาร์จไร้สาย AirVOOC 50W และชาร์จย้อนกลับ 10W สำหรับอุปกรณ์เสริม รองรับการสตรีมวิดีโอต่อเนื่องได้นานถึง 25 ชั่วโมง และประชุมผ่าน Zoom ได้ 8.6 ชั่วโมง

OPPO Find N5 จะเริ่มวางจำหน่ายที่สิงคโปร์ตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์นี้ ราคา เริ่มต้นที่ 2,499 ดอลลาร์สิงคโปร์ (ประมาณ 62,800 บาท) สำหรับรุ่น 12GB+512GB มาด้วยกันสองสีคือ Cosmic Black และ Misty White ส่วนสี Dusk Purple จำหน่ายเฉพาะในประเทศจีน

สำหรับการ เปิดตัว OPPO Find N5 ในประเทศไทย คาดว่าจะมีการวางจำหน่ายด้วยเช่นกัน ซึ่งต้องรอการประกาศอย่างเป็นทางการจาก ออปโป้ ประเทศไทย ในเร็วๆ นี้

ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ Google News
ช่องทางโซลเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok