เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ชาวออสเตรเลียในรัฐควีนส์แลนด์และนิวเซาท์เวลส์นับแสนคน กำลังเผชิญกับปัญหาไฟฟ้าดับเป็นวงกว้างจากพายุไซโคลน “อัลเฟรด” อย่างไรก็ตาม เจ้าของ รถยนต์ไฟฟ้า (EV) หลายรายได้ใช้ประโยชน์จากแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ในรถเพื่อจ่ายไฟให้บ้านพักอาศัยในช่วงวิกฤต
รายงานจากโซเชียลมีเดียระบุว่า รถยนต์ไฟฟ้าที่มีเทคโนโลยีจ่ายไฟจากรถสู่อุปกรณ์ภายนอก (Vehicle-to-Load หรือ V2L) ได้กลายเป็นผู้ช่วยสำคัญในการจ่ายไฟให้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านระหว่างและหลังเหตุการณ์พายุ
เทคโนโลยี V2L ช่วยบรรเทาวิกฤตไฟฟ้าดับ
คริส เบเกอร์ ผู้อำนวยการบริษัทแห่งหนึ่ง ได้แชร์ประสบการณ์ผ่านแพลตฟอร์ม LinkedIn ว่ารถ Nissan Leaf ของเขาช่วยรักษาอาหารให้สดใหม่ ชาร์จโทรศัพท์มือถือ และคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กให้ทำงานได้อย่างต่อเนื่อง โดยใช้พลังงานจากแบตเตอรี่เพียงประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ต่อวันเท่านั้น
เจ้าของยานยนต์ไฟฟ้าอีกรายในออสเตรเลียรายงานว่า รถของพวกเขาสามารถจ่ายไฟให้กับตู้เย็น ตู้แช่แข็ง ไมโครเวฟ กาต้มน้ำ ไฟส่องสว่าง และโทรศัพท์เป็นเวลากว่าสองวัน พวกเขายังได้แบ่งปันโดยชงกาแฟให้เพื่อนบ้านดื่ม แต่ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่เพียง 18 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น
รถยนต์ไฟฟ้ากลายเป็น “คลังพลังงานเคลื่อนที่” ในยามฉุกเฉิน
มีรายงานอีกกรณีที่น่าสนใจเกี่ยวกับผู้ขับขี่ที่เดินทางไปยังพื้นที่ที่ระบบไฟฟ้ายังทำงานได้ เพื่อชาร์จรถยนต์แล้วกลับบ้านเพื่อใช้พลังงานที่สะสมไว้ เปลี่ยนรถให้กลายเป็นแหล่งพลังงานเคลื่อนที่
แม้ว่ารถยนต์ไฟฟ้าทุกรุ่นจะไม่ได้มีความสามารถ V2L แต่ประสบการณ์เหล่านี้จากออสเตรเลียได้แสดงให้เห็นถึงประโยชน์ในทางปฏิบัติของยานยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยแบตเตอรี่ นอกเหนือจากการลดการปล่อยมลพิษจากการขนส่ง
ข้อมูลจาก : The Driven
ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ Google News
ช่องทางโซลเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok
