อินเทล AI Edge

อินเทล เร่งพัฒนา AI บน Edge ผ่านอีโคซิสเต็มแบบเปิด

อินเทล ประกาศเปิดตัวโซลูชันใหม่ 3 รายการ ได้แก่ Intel AI Edge, Edge AI Suites และแพลตฟอร์ม Open Edge เพื่อเร่งการใช้งาน AI บนอุปกรณ์ Edge ในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น ค้าปลีก การผลิต เมืองอัจฉริยะ และสื่อความบันเทิง

โซลูชันเหล่านี้ออกแบบมาให้บูรณาการเข้ากับโครงสร้างพื้นฐาน IT ที่องค์กรมีอยู่แล้ว โดยคำนึงถึงการควบคุมต้นทุนรวมในการเป็นเจ้าของ (TCO) และเป้าหมายด้านการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ

การ์ทเนอร์ (Gartner) คาดการณ์ว่าภายในสิ้นปี 2025 ข้อมูลองค์กรประมาณ 50% จะถูกประมวลผลนอกศูนย์ข้อมูลแบบดั้งเดิมหรือระบบคลาวด์ และภายในปี 2026 อย่างน้อยครึ่งหนึ่งของการใช้งาน Edge computing จะเกี่ยวข้องกับการเรียนรู้ของเครื่องจักร (Machine learning)

อินเทล อ้างว่ามีประสบการณ์จากการดำเนินโครงการ Edge มากกว่า 100,000 โครงการร่วมกับพันธมิตร ทำให้เข้าใจความท้าทายเฉพาะของแต่ละอุตสาหกรรมที่ใช้ Edge AI

การปรับใช้ AI แบบ Edge แตกต่างจากการใช้งานในศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ เนื่องจากต้องบูรณาการเข้ากับระบบที่มีอยู่เดิมในสภาพแวดล้อมที่มีพื้นที่จำกัด ใช้พลังงานต่ำ และต้องมีต้นทุนที่คุ้มค่า

อินเทลระบุผลการทดสอบภายในว่า โปรเซสเซอร์ Intel Core Ultra สามารถมอบประสิทธิภาพการทำงานแบบครบวงจร (End-to-End Pipeline Performance) สูงกว่าคู่แข่งถึง 2.3 เท่า และมีประสิทธิภาพต่อดอลลาร์ (Performance per Dollar) สูงกว่าถึง 5 เท่า แม้จะมีค่า TOPs (Tera Operations per Second) น้อยกว่า

อินเทล AI Edge

โซลูชัน 3 ส่วนเพื่อเร่งการใช้งาน Edge AI

1. Intel AI Edge

ระบบที่ช่วยให้ผู้พัฒนาอุปกรณ์ (OEMs) และผู้ผลิตการออกแบบดั้งเดิม (ODMs) สามารถเข้าถึงพิมพ์เขียวมาตรฐาน เครื่องมือวัดประสิทธิภาพ และเครื่องมือตรวจสอบความถูกต้องที่ออกแบบมาสำหรับการใช้งาน Edge AI โดยเฉพาะ ทำให้สามารถกำหนดค่าระบบให้เหมาะกับแต่ละกรณีการใช้งาน เช่น Vision AI หรือ Generative AI

2. Edge AI Suites

ชุดเครื่องมือพัฒนาซอฟต์แวร์ AI (SDKs) แบบเปิดที่ออกแบบเฉพาะสำหรับแต่ละอุตสาหกรรม โดยมีแอปพลิเคชันตัวอย่าง โค้ดตัวอย่าง และเครื่องมือวัดประสิทธิภาพที่ช่วยเร่งการพัฒนาแอปพลิเคชัน ปัจจุบันมีให้บริการสำหรับ 4 อุตสาหกรรม ได้แก่ ค้าปลีก การผลิต เมืองอัจฉริยะ และสื่อความบันเทิง

3. แพลตฟอร์ม Open Edge

แพลตฟอร์มแบบโมดูลาร์และโอเพ่นซอร์สที่ช่วยลดความซับซ้อนในการพัฒนา การปรับใช้ และการจัดการแอปพลิเคชัน Edge และ AI ในระดับอุตสาหกรรม ช่วยให้สามารถปรับใช้เวิร์กโหลดแบบคอนเทนเนอร์บนอุปกรณ์ Edge ระยะไกลได้โดยไม่ต้องเดินทางไปติดตั้งหน้างาน และสามารถบริหารจัดการผ่านเครื่องมือ เช่น Intel vPro/Intel Active Management Technology

ทางด้านพันธมิตรชั้นนำอย่าง Cisco Compute, Lenovo, Red Hat และ Wind River Systems ได้ร่วมแสดงการสนับสนุนโซลูชันดังกล่าวของอินเทลด้วยเช่นกัน

ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ Google News
ช่องทางโซลเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok

Online Content Manager with over 10 years of experience working in the news, technology, and telecom industries.