Nothing แบรนด์มือถือจากอังกฤษ เปิดตัว สมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุด Phone (3a) และ Phone (3a) Pro ในประเทศไทยแล้ว ภายใต้คอนเซปต์ ‘Power in Perspective’ ทั้งสองรุ่นออกแบบมาเพื่อยกระดับประสบการณ์การใช้งานสมาร์ทโฟนระดับกลางในราคาหลักหมื่นต้นๆ ด้วยการต่อยอดความสำเร็จจาก Phone (2a) ผ่านการอัปเกรดระบบกล้องสามตัวพร้อมซูมออปติคอล ประสิทธิภาพที่สูงขึ้นด้วยชิป Snapdragon® 7s Gen 3 และนวัตกรรมใหม่จาก Nothing OS 3.1 ในราคาเริ่มต้น 12,499 บาท
จุดเด่นด้านการถ่ายภาพที่อัปเกรดอย่างมีนัยสำคัญ
Phone (3a) Series มาพร้อมกับระบบกล้องที่ล้ำหน้าที่สุดของ Nothing โดยมีการอัปเกรดเป็นเซ็นเซอร์หลักความละเอียด 50MP พร้อมเซ็นเซอร์ Ultra-Wide จาก Sony และที่สำคัญคือการรองรับซูมแบบออปติคอลเป็นครั้งแรก ขับเคลื่อนโดยเทคโนโลยี TrueLens Engine 3.0 ที่รวมอัลกอริธึมคอมพิวเตอร์ขั้นสูง การประมวลผล AI และเทคโนโลยี Multi-frame เพื่อมอบประสบการณ์การถ่ายภาพระดับมืออาชีพที่คมชัดสมจริง
กล้องของ Phone (3a) มาพร้อมเทเลโฟโต้ความละเอียด 50MP ค่ารูรับแสง f/2.0 ที่รองรับการซูมออปติคอล 2x และซูมดิจิทัลได้สูงสุด 30x ด้วยอัลกอริธึม AI เพื่อเพิ่มความคมชัด
ส่วน Phone (3a) Pro ได้รับการอัปเกรดด้วยระบบกล้องเพอริสโคปที่ใช้เซ็นเซอร์ Sony LYTIA 600 ขนาด 1/1.95 นิ้ว มาพร้อมซูมออปติคอล 3x และระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบออปติคอล (OIS) ทำให้สามารถถ่ายภาพคุณภาพสูงได้แม้ในสภาพแสงน้อย และยังสามารถโฟกัสได้ใกล้ถึง 15 ซม. สำหรับการถ่ายภาพแบบเทเลมาโคร
กล้องหลักของ Phone (3a) พัฒนาร่วมกับ Samsung โดยผสานซอฟต์แวร์อัลกอริธึม On-Sensor Deep Learning Processing ที่ผ่านการฝึกบนฐานข้อมูลภาพถ่ายนับล้านเพื่อเพิ่มความคมชัด ลดสัญญาณรบกวน และให้ความแม่นยำของสีที่สมจริง สำหรับ Phone (3a) Pro ให้ออโตโฟกัสเร็วขึ้น 43% และมี Pixel Full Well Capacity มากขึ้น 2 เท่า
เทคโนโลยีและประสิทธิภาพสูงขึ้น
ทั้งสองรุ่นใช้ชิปเซ็ต Snapdragon® 7s Gen 3 ที่มอบประสิทธิภาพเหนือชั้นกว่าเดิม โดยมี CPU ที่เร็วขึ้น 33%, GPU ที่ทำงานได้ดีขึ้น 11% และประสิทธิภาพในการประมวลผล AI ดีขึ้นถึง 92% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน นอกจากนี้ยังมีระบบ RAM Booster ที่ผสาน RAM กายภาพและเสมือนจริง ช่วยให้เข้าถึงได้สูงสุด 20GB
แบตเตอรีขนาด 5000mAh ช่วยให้ใช้งานได้ต่อเนื่องนานถึง 2 วัน และรองรับการชาร์จเร็ว 50W ที่สามารถชาร์จได้ 50% ในเวลาต่ำกว่า 20 นาที ระบบระบายความร้อนด้วย Vapor Chamber ขนาด 4,500 มม² ช่วยลดอุณหภูมิมือถือลง 23% เมื่อเทียบกับ Phone (2a)
ดีไซน์และจอแสดงผล
มือถือทั้งสองรุ่นมาพร้อมดีไซน์ที่หรูหราขึ้นด้วยแผงกระจกด้านหลังที่อัปเกรดใหม่ โครงสร้างภายในที่สมมาตรมากขึ้น และรายละเอียดการออกแบบที่ปรับแต่งอย่างพิถีพิถัน การออกแบบยังคงสะท้อนถึงเอกลักษณ์โปร่งใสของ Nothing พร้อมเพิ่มความทนทานด้วยมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่นระดับ IP64
หน้าจอขนาด 6.77 นิ้ว มีความละเอียดระดับ Full HD+ (387 PPI) พร้อมอัตรารีเฟรชแบบปรับอัตโนมัติ 120Hz และอัตราการตอบสนองสัมผัส 480Hz (เพิ่มขึ้น 100% จาก Phone (2a)) ในโหมดเกม สามารถเพิ่มอัตราการตอบสนองสัมผัสเป็น 1000Hz เพื่อการควบคุมที่ลื่นไหล ความสว่างสูงสุดได้ถึง 3000 nits เพิ่มขึ้น 131% จาก Phone (2a)
นวัตกรรมซอฟต์แวร์ Essential Space
โทรศัพท์ทั้งสองรุ่นมาพร้อม Nothing OS 3.1 ที่พัฒนาบนพื้นฐาน Android 15 พร้อมฟีเจอร์ Essential Space ซึ่งเป็นฮับ AI สำหรับบันทึกไอเดียและแรงบันดาลใจ ที่ทำงานร่วมกับปุ่ม Essential Key บนตัวเครื่อง ผู้ใช้สามารถกดหนึ่งครั้งเพื่อบันทึกข้อมูลหน้าจอ กดค้างเพื่อบันทึกเสียง และกดสองครั้งเพื่อเข้าถึงเนื้อหาที่บันทึกไว้ทั้งหมด
บริษัทสัญญาว่าจะมีการอัปเดตซอฟต์แวร์เป็นเวลา 6 ปี โดยจะอัปเดต Android 3 ปี และอัปเดตความปลอดภัย 6 ปี รวมถึงการแก้ไขข้อบกพร่องและอัปเดตฟีเจอร์ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง
การวางจำหน่ายและราคา
Phone (3a) มีให้เลือก 3 สี: ดำ, ขาว และน้ำเงิน
- รุ่น 8+128GB ราคา 12,499 บาท
- รุ่น 12+256GB ราคา 14,499 บาท
Phone (3a) Pro มีให้เลือก 2 สี: เทา และดำ
- รุ่น 12+256GB ราคา 17,499 บาท
Phone (3a) เปิดตัว พร้อมจะวางจำหน่ายในไทยอย่างเป็นทางการ วันที่ 22 มีนาคม ส่วน Phone (3a) Pro จะเริ่มจำหน่ายวันที่ 1 เมษายน โดยมีช่องทางการจัดจำหน่ายทั้งออนไลน์ผ่าน nothing.tech, Lazada Nothing Flagship Store, Shopee Nothing Official Store และ Powerbuy Online รวมถึงร้านค้าพันธมิตรอย่าง JayMart, dotLife และผ่านผู้ให้บริการเครือข่าย AIS
ผู้ที่สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ nothing.tech หรือติดตามข่าวสารล่าสุดผ่านช่องทาง Instagram, TikTok และ X
ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ Google News
ช่องทางโซลเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok