Apple เปิดตัว iPad Air รุ่นใหม่ล่าสุด มาพร้อมกับชิป M2 และเพิ่มขนาดหน้าจอเป็น 13 นิ้ว นับเป็นครั้งแรกที่ iPad Air มีให้เลือกสองขนาดจอภาพด้วยกัน นั่นคือรุ่นหน้าจอ 11 นิ้ว ที่มีความกะทัดรัด พกพาสะดวก และรุ่นหน้าจอ 13 นิ้ว ที่ให้พื้นที่ใช้งานมากขึ้น 30% เมื่อเทียบกับรุ่น 11 นิ้ว ตอบโจทย์ผู้ใช้ที่ต้องการพื้นที่หน้าจอกว้างเพื่อทำงาน ดูคอนเทนต์ หรือเล่นเกม
iPad Air รุ่นใหม่ทั้งสองขนาดได้รับการอัปเกรดสเปกให้แรงขึ้นด้วยการใช้ ชิป M2 ซึ่งมาพร้อมกับ CPU แบบ 8-core และ GPU แบบ 10-core ทำให้มีประสิทธิภาพเร็วขึ้นเกือบ 50% เมื่อเทียบกับ iPad Air รุ่นก่อนหน้าที่ใช้ชิป M1 และเร็วขึ้นถึง 3 เท่าเมื่อเทียบกับ iPad Air รุ่นที่ใช้ชิป A14 Bionic
และในการประมวลผลด้าน AI ชิป M2 ยังมาพร้อม Neural Engine แบบ 16-core อีกด้วย ส่งผลให้ iPad Air รุ่นล่าสุดนี้เป็นอุปกรณ์ที่ทรงพลังและเหมาะสำหรับการทำงานที่ต้องใช้ AI และ Machine Learning เข้ามาช่วย
อีกหนึ่งไฮไลท์ของ iPad Air รุ่นใหม่ก็คือ กล้องหน้าความละเอียด 12MP ที่ถูกย้ายตำแหน่งมาอยู่ในแนวนอนบนขอบจอแล้ว ซึ่งเป็นตำแหน่งที่เหมาะกับการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการประชุมทางไกลผ่าน FaceTime หรือแอปวิดีโอคอลอื่น ๆ โดยมาพร้อมคุณสมบัติจัดให้อยู่ตรงกลางที่อาศัยการเรียนรู้ของระบบในการปรับกล้องให้จับใบหน้าผู้ใช้ได้อัตโนมัติ ส่วนกล้องหลังก็มีความละเอียด 12MP เช่นกัน และสามารถถ่ายภาพนิ่งคมชัดหรือวิดีโอความละเอียด 4K
iPad Air รุ่นใหม่รองรับการเชื่อมต่อผ่านระบบ Wi-Fi 6E ที่มีความเร็วเพิ่มขึ้นถึง 2 เท่าเมื่อเทียบกับรุ่นก่อน ส่วนรุ่น Wi-Fi + Cellular ก็รองรับ 5G ความเร็วสูง โดยสามารถเปิดใช้งานผ่าน eSIM ได้เลย ซึ่งสะดวกกว่าการใช้ซิมการ์ดแบบเดิมๆ และยังสามารถเก็บแผนเซลลูลาร์ของผู้ให้บริการหลายค่ายไว้ในอุปกรณ์ได้ด้วย
iPad Air รุ่นใหม่ ยังรองรับการใช้งานร่วมกับ Apple Pencil Pro ซึ่งเป็นปากกาสไตลัสรุ่นใหม่ล่าสุดที่มาพร้อมความสามารถใหม่ๆ เช่น เซ็นเซอร์ที่อยู่บนด้ามจับซึ่งจะตรวจจับเวลาที่ผู้ใช้บีบเพื่อเรียกเมนูทางลัดขึ้นมา, Taptic Engine เอนจิ้นแบบสั่นที่จะตอบสนองเมื่อผู้ใช้มีการบีบ แตะ หรือใช้เครื่องมือต่างๆ และไจโรสโคปที่ทำให้ผู้ใช้สามารถหมุนปากกาเพื่อควบคุมเครื่องมือวาดได้อย่างแม่นยำเหมือนใช้ปากกาและกระดาษจริงๆ
iPad Air ใหม่ยังมาพร้อมกับ iPadOS 17 ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการเวอร์ชันใหม่ล่าสุดที่เพิ่มความสามารถใหม่ ๆ มากมาย ทั้งการปรับแต่งหน้าจอล็อคสกรีนตามใจชอบด้วยวิดเจ็ต, วอลเปเปอร์ และฟอนต์ต่าง ๆ, วิดเจ็ตแบบอินเทอร์แอ็คทีฟที่ใช้งานได้ลึกขึ้น, ฟีเจอร์ใหม่ในแอปข้อความ เช่น การแสดงตัวตนด้วยสติกเกอร์, การส่งข้อความเสียงหรือวิดีโอตอนที่อีกฝั่งไม่รับสายใน FaceTime, ฟีเจอร์ใหม่ๆ ของแอป Freeform ในการทำงานร่วมกันแบบเรียลไทม์, การจัดการไฟล์ PDF ได้สะดวกขึ้นในแอปโน้ต และอื่นๆ อีกมากมาย
ราคา และการวางจำหน่าย iPad Air ชิป M2
สามารถสั่งซื้อ iPad Air ใหม่ได้เร็วๆ นี้ที่ apple.com/th/store และแอป Apple Store
- iPad Air รุ่น 11 นิ้ว และ 13 นิ้ว ใหม่ จะมีให้เลือกในสีฟ้า สีม่วง สีสตาร์ไลท์ และสีเทาสเปซเกรย์ในรุ่นความจุ 128GB, 256GB, 512GB และ 1TB
- iPad Air รุ่น 11 นิ้ว ราคาเริ่มต้นที่ 23,900 บาท สำหรับรุ่น Wi-Fi และ 29,900 บาท สำหรับรุ่น Wi-Fi + Cellular iPad Air รุ่น 13 นิ้ว ราคาเริ่มต้นที่ 29,900 บาท สำหรับรุ่น Wi-Fi และ 35,900 บาท สำหรับรุ่น Wi-Fi + Cellular
- ราคาส่งเสริมการศึกษาสำหรับ iPad Air รุ่น 11 นิ้วใหม่อยู่ที่ 21,900 บาท และสำหรับ iPad Air รุ่น 13 นิ้ว อยู่ที่ 28,000 บาท ราคาส่งเสริมการศึกษาสามารถใช้ได้กับนักศึกษาที่กำลังศึกษาหรือเพิ่งเข้าศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยและผู้ปกครอง รวมถึงอาจารย์ เจ้าหน้าที่ และผู้สอนแบบโฮมสคูลในทุกระดับ ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ apple.com/th-edu/shop